สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 28, 2014 10:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,273 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,261 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 32.92 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,700 บาท กับ 19,800 บาท และกลับมาปิดที่ 19,650 บาท กับ 19,750 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,064 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,221 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 1.3% แบบ 10 บาทลดลง 0.6% GFG14 ปิด 19,780 บาท และ GFJ13 ปิด 19,870 บาท GF10G13 ปิดที่ 19,780 บาท GF10J13 ปิดที่ 19,880 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 90 เซ็นต์ ปิดที่ 1,263.4 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 2.8 เซ็นต์ ปิดที่ 19.793 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 790.46 ตัน (คงทองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 92 เซ็นต์ ปิดที่ 95.72 ดอลลาร์/ออนซ์ ดาวโจนส์ ปิดลดลง 41.23 จุด ปิดที่15,837.88 จุด ข่าวที่สำคัญ รายงานจากคิทโก้ระบุว่า ทองคำทะยานตัวขึ้นเพราะได้รับแรงสนับสนุนจากสิ่งต่างๆมากมายเช่นการประท้วงที่เหมืองแอฟริกาใต้ เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงพร้อมตลาดหุ้นที่ปรับตัวลงทั่วโลก อีกทั้งพันธบัตรระยะยาวที่ลดลงอีกด้วยแต่สำหรับเวลานี้ความกังวลว่าเฟดจะลดQE นั้นเริ่มเข้ามามีอิทธิพลอีกครั้ง ความกังวลจากกระแสข่าวที่ว่า เฟดจะปรับลด QE กระตุ้นให้นักลงทุนทำการเทขายทองคำเพื่อทำกำไรเพิ่มขึ้น โดยนักลงทุนยังคงมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขาย และจับตาผลการประชุมนโยบายของเฟดที่กำลังจะเริ่มต้นเกิดขึ้นในวันนี้ จิม เวคคอฟจากคิทโก้ได้ให้ทิศทางทองคำโดยมีแนวรับที่ระดับ1255,1250 เหรียญและแนวต้านที่ระดับ1279,1300เหรียญ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอินเดีย เผยว่า จะมีการปรับทบทวนเรื่องภาษีการนำเข้าทองคำ โดยให้สิ้นสุดภายในเดือนมีนาคมนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ในเดือนธ.ค.ลดลง 7% มาอยู่ที่ 414,000 ยูนิต จากระดับ 445,000 ยูนิตในเดือนพ.ย. ซึ่งตอกย้ำถึงอุปสรรคในการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ นักวิเคราะห์คาดว่า สภาพอากาศที่หนาวที่สุดในรอบสี่ปีของสหรัฐฯส่งผลให้ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงกว่าที่คาดเนื่องจากไม่ได้รับแรงกระตุ้นจากกิจกรรมส่งเสริมการ ขายในช่วงสุดสัปดาห์พร้อมทั้งค่าดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เฟดจะเริ่มการประชุมกำหนดนโยบายเป็นเวลา 2 วัน โดยเริ่มวันนี้เป็ฯวันแรก ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า เฟดจะชะลอมาตรการ QE ต่อไป หลังจากที่ในเดือนที่แล้วได้ตัดสินใจเริ่มลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรรายเดือนลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ มาอยู่ที่ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนม.ค. อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จาก efx คาดการณ์ว่า เฟดอาจจะประกาศลดปริมาณการเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และยังคาดว่าคณะกรรมการ FOMC จะยังประกาศเพิ่มการถือครองทรัพย์สินของหน่วยงาน MBS ที่ระดับ 3 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และจะเพิ่มการอัดฉีดเงินทุนระยะยาวอีก 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และจะยังไม่เปลี่ยนแปลงเป้าเหมายใดๆ โดยเฟดจะพยายามค้นหาความสมดุลในการใช้นโยบายทางการเงินหรือเครื่องมือเสริมที่จะนำมาปรับใช้หลังจากลดเม็ดเงินลงบางส่วน ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนก่อนที่จะเริ่มมีการประชุม เฟดที่นักลงทุนส่วนมากเฝ้าจับตาดูว่าจะเริ่มลดเม็ดเงินในการประชุมครั้งนี้ หรือไม่ ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น0.1% เมื่อเทียบกับเยนอยู่ที่ระดับ 102.65 เยนต่อดอลลาร์ และค่าเงินดอลลาร์ยังแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร สู่ระดับ 1.3669 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.3677 ยูโร/ดอลลาร์ นายเจนส์ ไวด์มานน์ ประธานธนาคารกลางเยอรมนี หรือบุนเดสแบงก์ เปิดเผยรายงานรายประจำเดือนว่า เศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มที่ดีขึ้นขึ้นในช่วงไตรมาสแรกปี 2557 ซึ่งโดยภาพรวมอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ขณะที่สถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 110.6 จากเดิม 109.5 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2554 นับเป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยูโรโซนจะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นในปีนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงคลังญี่ปุ่น เปิดเผยว่า หนี้ของรัฐบาลญี่ปุ่นอาจจะสูงถึง 1,143 ล้านล้านเยน หรือ 11.16 ล้านดอลลาร์ในช่วงสิ้นปีงบประมาณ 2557 หรือเทียบเท่ากับ 9 ล้านเยนต่อบุคคล ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและสถานการณ์การเมืองในประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งกระแสข่าวที่ว่าเฟดจะลด QE ในการประชุมครั้งนี้ นักบริหารเงินคาดว่า ในวันนี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-32.95 บาท/ดอลลาร์ ทั้งนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามา และเชื่อว่าตลาดรอผลการประชุมเฟด รายงานข่าว แจ้งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในวันนี้ เกี่ยวกับประเด็นการหารือเรื่องการเลื่อนเลือกตั้งกับกกต. เวลา 14.00น. ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี สอท. ระบุว่า หากปัญหาการเมืองยืดเยื้อ จะทำให้ไทยตกอยู่ในสภาพสุญญากาศไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ไร้รัฐบาลใหม่เข้ามาขับเคลื่อน ไม่มีงบประมาณและมาตรการเข้ามาผลักดันเศรษฐกิจ และจะทำให้จีดีพีปี’57 โตแค่ 2% ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวาน - New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 445K ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงระดับ 414K ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้ - Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.2% คาดการณ์จะออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ 0.7% - Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.4% คาดการณ์จะออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ 1.9% - CB Consumer Confidence ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 78.1 คาดการณ์จะออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 78.3 ทิศทางราคาทองคำ ราคา ทองคำมีการปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ หลังจากขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,275 เหรียญตามที่ได้กล่าวไปแล้ว โดยที่ตลาดโลกมีความกังวลในการประชุมของเฟดว่าจะมีการลด QE ต่อเนื่องหรือไม่ อย่างไรก็ดีภาพรวมของราคาทองคำยังอยู่ในระดับสูง และจะมีแรงเทขายเข้ามาโดยตลอด ในขณะที่ SPDR ยังไม่ได้ทำการใดๆ ณ ขณะนี้ สำหรับคืนนี้จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ได้แก่ Core Durable Goods Orders และ Durable Goods Orders ที่คาดว่าจะออกมาแย่ลง ขณะที่ S&P/CS Composite 20 HPI และ CB Consumer Sentiment คาดว่าจะออกมาดีขึ้น วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคา ทองคำยังเป็นทิศทางขาขึ้นในระยะสั้นและระยะกลาง โดยคาดว่าราคาในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,250 – 1,270 เหรียญ แนะนำให้รอดูทิศทางของตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะไม่ค่อยดีนัก ซึ่งอาจจะส่งผลต่อราคาทองคำในทิศทางขาขึ้น กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แนะนำกลยุทธ์เข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวและขายทำกำไรในระยะสั้น โดยมีกรอบการลงทุนที่ระดับ 1,250-1,270 เหรียญ - นักลงทุนที่ถือ Long Position แนะนำให้ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว - นักลงทุนที่ถือ Short Position ยังแนะนำให้ปิดสถานะ Short Gold Futures G14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,700 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,900 บาท Gold Futures J14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,000 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ