กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--Ericsson
- ยูนิเทลและอีริคสันร่วมกันสาธิตการส่งผ่านข้อมูลบนคลื่นความถี่ควบรวม ระหว่างคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz บนเครือข่ายจริง
- เทคโนโลยี LTE Advanced จะช่วยให้ยูนิเทลสามารถใช้ประโยชน์ได้จากคลื่นความถี่ที่มีอยู่ เพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูล เพิ่มความจุของเครือข่าย และพัฒนาประสบการณ์ในการใช้งานให้ดียิ่งขึ้นสำหรับลูกค้า
เป็นครั้งแรกในทวีปแอฟริกา ที่อีริคสัน (Ericsson) ร่วมกับยูนิเทล (Unitel) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำของแองโกลา ได้ประสบความสำเร็จในการสาธิตเทคโนโลยี Carrier Aggregation บน LTE-Advanced โดยการสาธิตดังกล่าว ใช้ช่วงความถี่ควบรวมของคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz บนเครือข่ายและเทอร์มินัลจริง เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยยูนิเทลได้ทำการส่งข้อมูล ข้ามเครือข่ายที่มีการใช้งานเชิงพาณิชย์อยู่ ที่เมืองลูอันดา ประเทศแองโกลา
LTE Carrier Aggregation เป็นก้าวต่อไปภายใต้วิวัฒนาการแห่งบริการไฮสปีดโมบายล์บรอดแบนด์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถนำคลื่นความถี่ที่มีอยู่ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ ด้วยการควบรวมคลื่นความถี่ในหลายช่วงเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูลของระบบ
อมิลคาร์ ซาฟีคา รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารของยูนิเทล กล่าวว่า: “ยูนิเทลมุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรม เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ในการใช้งานที่ดี ด้วยก้าวกระโดดแห่งเทคโนโลยีระดับโลก เพื่อเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูล สำหรับบริการวีดีโอที่ซับซ้อนและบริการโมบิลิตี้ที่เกี่ยวข้อง เรากำลังพัฒนาเครือข่ายของเราเพื่อให้มั่นใจว่า เราจะสามารถให้บริการคุณภาพเยี่ยม เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่นับวันยิ่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การสาธิตในครั้งนี้ เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า เรากำลังอยู่ในเส้นทางแห่งความสำเร็จ สู่การเปิดตัวเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ล้ำหน้าที่สุดในแองโกลา และอาจจะเป็นในแอฟริกาด้วย ในอนาคตอันใกล้นี้ โดยมีอีริคสันเป็นเพื่อนร่วมงานที่จะช่วยให้ภาระกิจของเราสำเร็จได้”
นาง คามิลล่า วอลเทียร์ เป็นประธานบริษัทอีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า: “จากการใช้เทคโนโลยี LTE-A ผู้ให้บริการเครือข่ายจะสามารถเพิ่มความจุของเครือข่าย และพัฒนาประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีสำหรับลูกค้าได้ โดยสามารถใช้งานที่ความเร็วไม่เกิน 1 Gbps ในอนาคต การสาธิตในครั้งนี้ ได้ทำให้ยูนิเทลกลายเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเครือข่ายจำนวนไม่มากนัก ที่ได้สาธิตเทคโนโลยี LTE-A บนเครือข่ายร่วมกับอุปกรณ์ลูกข่ายจริง เรารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของยูนิเทลครั้งนี้ อันเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของเราที่มีมายาวนานกับยูนิเทล”
นาย บัญญัติ เกิดนิยม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ บริษัทอีริคสัน ประเทศไทย กล่าวเสริมว่าในหลายภูมิภาคทั่วโลก ผู้ให้บริการเครือข่ายจำนวนมากมีคลื่นความถี่ในช่วง 1800 MHz และ 900 MHz ที่ว่างอยู่ อันเกิดจากการย้ายลูกค้าจาก 2G ไปสู่ 3G หรือ 4G ในทำนองเดียวกัน อีริคสันยังพร้อมสนับสนุนการใช้เทคโนโลยี LTE-A Carrier Aggregation บนคลื่นความถี่อื่น เช่นที่ได้ทำมาแล้วในประเทศออสเตรเลีย โปรตุเกส และเกาหลีใต้ เป็นต้น
อีริคสันเป็นผู้นำตลาดแห่งเทคโนโลยี LTE โดยในวันนี้ ประมาณครึ่งหนึ่งของทราฟฟิคสมาร์ทโฟนบนเครือข่าย LTE ทั่วโลก อยู่บนระบบของอีริคสัน ซึ่งมากกว่าสองเท่าของทราฟฟิคบนระบบของคู่แข่งที่ใกล้เคียงกับเรามากที่สุด เครือข่าย LTE RAN และ Evolved Packet Core ของอีริคสัน จำนวนมากกว่า 180 เครือข่าย ได้ถูกส่งออกไปใช้งานอยู่ทั่วทุกมุมโลก มากกว่า 110 เครือข่ายในจำนวนนี้ ได้เปิดใช้งานเชิงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว อีริคสันได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในตลาด LTE ที่มีการใช้งานอย่างหนาแน่น ไม่ว่าจะเป็นในประเทศออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา โดยได้รับการคัดเลือกจากสิบเครือข่าย LTE ระดับผู้นำ ด้านจำนวนผู้ใช้ LTE ทั่วโลก โดยเราคาดว่า อีริคสันจะเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ที่สำคัญอันเกี่ยวข้องกับ LTE ทั้งในส่วนของ TDD และ FDD ประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ และเรายังสนับสนุนการสร้างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับระบบ FDD และ TDD ร่วมกัน เพื่อให้โอเปอร์เรเตอร์มีความยืดหยุ่นสูงสุด ในการเลือกใช้เทคโนโลยี FDD และ TDD ตามความเหมาะสม