กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--เวิรฟ
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ประสบความสำเร็จทำยอดจำหน่ายรถยนต์รวมตลอดปี 2556 ที่ผ่านมา พุ่งสูงทะลุหลักหมื่นถึง 10,144 คัน ทุบสถิติ ทุกยอดขายนับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำเทรนด์ตลาดรถพรีเมี่ยม เดินหน้าลุยตลาดรถหรูปีนี้เต็มสูบ เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่หลากหลายรุ่น เน้นเจาะกลุ่ม ยังก์เจเนอเรชั่น รวมทั้งตอบโจทย์ทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่ม อีกทั้งยังคงเดินเกมทำตลาด Digital Marketing เสริมความแข็งแกร่งด้านบริการหลังการขายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมรุกจัดกิจกรรม CRM สร้างความสัมพันธ์อันดีและมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
มร. ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2556 ที่ผ่านมา เป็นปีที่ถือได้ว่าบริษัทฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สามารถทำยอดขายโดยรวมตลอดทั้งปีอยู่ที่ 10,144 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าคิดเป็น 56% (2555: 6,513 คัน) นับได้ว่าเป็นยอดขายที่สูงที่สุดนับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทในประเทศไทย และยังคงครองความเป็นผู้นำตลาดรถหรูเป็นปีที่ 13 ติดต่อกัน โดยบริษัทฯ ได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มยังก์เจเนอเรชั่นที่ชื่นชอบความเป็นสปอร์ต ซึ่งรถยนต์รุ่น A-Class และ CLA-Class เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด นอกจากนั้นรุ่น C-, E-, และ S-Class ยังคงเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมเช่นกัน”
มร. เกรเว่ กล่าวต่อว่า “ปัจจัยความสำเร็จของยอดขายในปี 2556 เป็นผลมาจากการเปิดตัวยนตรกรรมหรูที่สามารถตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะในกลุ่มยังก์เจเนอเรชั่นที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลากหลายรุ่นด้วยกัน ที่มาพร้อมกับดีไซน์อันทันสมัย สปอร์ต และปราดเปรียวมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น The new CLA-Class , The new E-Class ที่มีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซลไฮบริด (BlueTEC HYBRID), The new E-Class Coupe & Cabriolet, และ The new S-Class นอกจากนั้นเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ พฤติกรรมการเลือกซื้อรถยนต์ที่มาจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากลูกค้าให้ความไว้วางใจในเรื่องของการนำเข้ารถยนต์ ด้วยการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ รวมทั้งมีบริการทางการเงินภายใต้การดำเนินงานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีซซิ่ง ที่เอื้อสิทธิประโยชน์มากมายให้แก่ลูกค้า บวกกับการบริการหลังการขายที่มุ่งเน้นการให้บริการตามความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุดภายใต้โปรแกรม “My Service” รวมทั้งได้มีการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น “My Service App” เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงบริการหลังการขายพร้อมอัพเดทข่าวสารได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และสิทธิพิเศษ Star Assist โปรแกรมพิเศษที่พร้อมให้บริการฟรีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรับประกันอะไหล่แท้คุณภาพสูงส่งตรงมาจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศเยอรมนี โดยลูกค้าจะได้รับประสบการณ์เหล่านี้โดยตรงจากโชว์รูม และศูนย์บริการมาตรฐานรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการ 31 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนั้นลูกค้ายังเล็งเห็นถึงความสำคัญเรื่องข้อได้เปรียบสำคัญที่จะได้รับจากการซื้อจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการโดยตรง คือ “ความคุ้มค่า” ตลอดอายุการใช้งานในระยะยาว รวมถึงความได้เปรียบในเรื่องราคาขายต่อเมื่อเทียบกับคู่แข่งอีกด้วย”
มร. เกรเว่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับในปี 2557 เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) มีนโยบายการทำการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยจะทำการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ในระยะเวลาใกล้เคียงกันกับบริษัทแม่เยอรมนี เพื่อให้คนไทยได้ยลโฉมพร้อมกันกับตลาดต่างประเทศ และเพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ และสามารถตอบสนองทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โดยในปีนี้ยังคงเน้นเจาะกลุ่มยังก์เจเนอเรชั่น ซึ่งจะเป็นรถยนต์ที่มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ต ปราดเปรียว เร้าใจ ทันสมัย และมาพร้อมกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างเช่น BlueTEC HYBRID ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เรายังคงให้ความสำคัญกับการทำ Digital Marketing ผ่าน Social Network ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram และ Youtube อย่างต่อเนื่อง”
“นอกจากนั้นเรายังเน้นการทำกิจกรรมการตลาดที่น่าสนใจ อาทิ กิจกรรม Mercedes-Benz Driving Experience การอบรมขับขี่ปลอดภัยกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี รวมทั้งการเป็นผู้สนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ เพื่อเข้าถึงทั้งกลุ่มลูกค้าใหม่และกลุ่มลูกค้าปัจจุบัน รวมทั้งทำกิจกรรม CRM ตอบแทนลูกค้า และการมอบสิทธิประโยชน์และสิทธิพิเศษให้แก่ผู้ถือบัตร MercedesCard เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีร่วมกัน ส่วนด้านเครือข่ายการบริการหลังการขาย บริษัทฯ ยังคงมีการพัฒนาเครือข่ายระบบการบริหารจัดการในส่วนของศูนย์บริการและโชว์รูมให้มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานเดียวกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีที่ผ่านมามีโชว์รูมแห่งใหม่ที่เปิดให้ดำเนินการแล้ว 3 แห่ง ได้แก่ โชว์รูมเอ็มบี โคราช ออโตเฮาส์ โชว์รูมสตาร์แฟลก บนถนนวิภาวดีรังสิตและโชว์รูมที เอส ที หัวหิน โดยในปีนี้จะมีโชว์รูมใหม่เปิดให้ดำเนินการ คือ โชว์รูมเมโทร ออโตเฮาส์ บนถนนพระราม 2 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการบริการหลังการขายและเป็นการขยายเครือข่ายการให้บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเตรียมนำเสนอบริการหลังการขายที่น่าสนใจซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่เกี่ยวกับโปรแกรมดูแลรักษารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์”
มร.เกรเว่ กล่าวสรุปว่า “การนำรถยนต์โมเดลใหม่ๆ เข้ามาในประเทศไทย บริษัทฯ มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส โดยคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งเหมาะสมตรงกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้า รวมทั้งมีการเตรียมพร้อมช่างเทคนิคให้มีทักษะความรู้ ความเชี่ยวชาญในรายละเอียดของรถรุ่นต่างๆ ที่มีเทคโนโลยีใหม่ ด้วยการพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะ และความเชี่ยวชาญ แก่ทีมช่างเทคนิคอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังคงนโยบายงดให้การรับประกันคุณภาพและบริการหลังการขายในทุกกรณีสำหรับรถยนต์ใหม่โมเดลปี 2013 เป็นต้นไปที่ซื้อจากผู้นำเข้าอิสระ ซึ่งในปีที่ผ่านมา ลูกค้าได้หันมาซื้อรถยนต์จากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการมากขึ้น เราจึงขอขอบคุณลูกค้าที่ยังคงให้ความไว้วางใจเลือกซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไม่เพียงศรัทธาในความเป็นเลิศด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความคุ้มค่า แต่ด้วยความมั่นใจในการเลือกซื้อจาก ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของเมอร์เซเดส-เบนซ์ด้วยดีเสมอมา”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด
เยาวเรศ, ศิริพรโทรศัพท์ 02 614-8811-12
หรือ PR Agency เวิรฟ
พรทิภา, กุลนิษฐ์ โทรศัพท์ 02 204 8078, 02 204 8077
ท่านสามารถดาวน์โหลดข่าวประชาสัมพันธ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ที่ www.mercedes-benz.co.th
หรือติดตามข้อมูลข่าวสารของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ที่ www.facebook.com/MercedesBenzThailand