กรุงเทพฯ--9 ก.ย.--แสนสิริ
กองทุนอสังหาฯ บ้านแสนสิริสุดฮ็อต ยอดจองเกินมูลค่า 865 ล้านบาท เตรียมนำ “SIRIPF” เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 26 กันยายนนี้
กองทุนอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริสุดฮ็อต ประสบความสำเร็จอย่างสูง ยอดจองเกินมูลค่า 865 ล้านบาท บลจ.ไอเอ็นจี ผู้จัดการกองทุน ดีเดย์นำ “SIRIPF” เทรดขายในตลาดหลักทรัพย์ 26 กันยายนนี้ ระบุชัดอัตราผลตอบที่สนใจและการเพิ่ม Put Options ในการขายคืนสินทรัพย์ราคาเดิม ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ทำให้ผู้ลงทุนประเภทสถาบันรวมถึงผู้ลงทุนรายย่อยมีความเชื่อมั่น รวมถึงผลตอบแทนที่สูงและมีความเสี่ยงต่ำช่วยสนับสนุนการตัดสินใจได้เป็นอย่างดี ล่าสุดเหลือยูนิตขายในโครงการเพียง 21 ยูนิตสุดท้ายเท่านั้น
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ มูลค่าโครงการ 865 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการขายกองทุน ซึ่งเปิดการขายในระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม ถึงวันที่ 2 กันยายน 2548 ปัจจุบันได้ปิดการขายเรียบแล้ว ซึ่งปรากฏว่ามีผลการจองซื้อกองทุนเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะมียอดจองซื้อกองทุนเกินกว่ามูลค่าการขายในครั้งนี้ โดยมีผู้ลงทุนประเภทสถาบันและผู้ลงทุนรายย่อยจองซื้อกองทุนในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ปริมาณความต้องการลงทุนสูงเกินกว่ามูลค่าการเสนอขายในครั้งนี้ ช่วยสะท้อนภาพด้านความต้องการลงทุน รวมถึงการออมในระยะยาวในภาคธุรกิจที่มีผลตอบแทนที่ดี ที่สำคัญต้องเป็นธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือและมีความเสี่ยงการลงทุนต่ำด้วย
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ เป็นกองทุนเปิดที่เพิ่มทางเลือกในการลงทุนระยะยาวให้กับผู้ลงทุน โดยกองทุนมีมูลค่า 865 ล้านบาท เน้นลงทุนในบ้านเดี่ยวจำนวน 25 ยูนิตของโครงการบ้านแสนสิริ สุขุมวิท ที่ตั้งอยู่ที่บนถนนสุขุมวิท 67 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและเป็นทำเลที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการอยู่อาศัยใจกลางเมือง ส่วนปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้กองทุนอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ ได้รับความการตอบรับที่ดี เพราะเป็นกองทุนที่มีจุดเด่นในการได้รับผลตอบแทนกับผู้ลงทุนในอัตราที่สูงและสม่ำเสมอ อีกทั้งเงินต้นที่ใช้ลงทุนมีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจาก รูปแบบของกองทุนดังกล่าวเป็นลักษณะขายและเช่าต่อเนื่อง โดย บมจ.แสนสิริ จะทำการขายทรัพย์สินที่ประกอบไปด้วยบ้านพร้อมที่ดิน จำนวน 25 หลังในโครงการดังกล่าวให้เป็นกรรมสิทธิ์ของกองทุน หลังจากที่กองทุนเข้าไปซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแล้ว บมจ.แสนสิริจะทำสัญญาเช่าต่อจากกองทุนเป็นระยะเวลา 5 ปี พร้อมทั้งรับประกันรายได้ค่าเช่าทั้งหมดในอัตรา 70 ล้านบาทต่อปี ตลอดระยะเวลา 5 ปี และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลา 5 ปี กองทุนมีสิทธิที่ให้ บมจ.แสนสิริ รับซื้อทรัพย์สินคืน (Put Option) ในราคาที่กองทุนซื้อมา ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนได้ในอัตราเฉลี่ยประมาณร้อยละ 7 ต่อปี ตลอดระยะเวลา 5 ปี
สำหรับพื้นที่ของโครงการบ้านแสนสิริ สุขุมวิท 67 ที่นำเข้ากองทุนจำนวน 25 ยูนิตนั้น เป็นพื้นที่ส่วนของ The Crests พื้นที่เช่าเพื่อการอยู่อาศัยที่เป็น Services Single House แบบครบวงจรแห่งแรกของเมืองไทย ราคาตัวบ้านแต่ละหลังประมาณ 30 — 55 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่เช่าอยู่อาศัยในโครงการบ้านจัดสรรที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในใจกลางย่านสุขุมวิท โดยปล่อยเช่ากับกลุ่มผู้บริหารระดับสูงของบริษัทข้ามชาติ มีอัตราค่าเช่าเดือนละ 2-3 แสนบาท ปัจจุบันมีอัตราการเช่าเต็มทั้งหมด ส่วนลักษณะพิเศษที่ทำให้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการนี้ อยู่ที่การดีไซน์รูปแบบภายในโครงการให้เป็น Penthouse on the ground รวมถึงการเพิ่มเติมรูปแบบการให้บริการแบบ First Class กว่า 30 รายการ ที่หาได้เฉพาะในโรงแรมระดับหกดาวในต่างประเทศเท่านั้น อาทิ บริการรับส่งด้วยรถลิมูซีน การจัด High Tea และอาหารว่างให้ทุกบ่ายวันอาทิตย์ การจัดกิจกรรมประเภทโยคะและแอโรบิคสอนโดยอาจารย์ชื่อดังทุกสัปดาห์ คลาสสอนว่ายน้ำสำหรับเด็กๆ นวดแผนโบราณและสปา การจัด Cocktail Party ทุกๆ เดือน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษ อาทิ สอนการจัดและทำอาหาร สอนจัดดอกไม้และงานฝีมือ เป็นต้น
นายเศรษฐา กล่าวต่อไปว่า ผลจากยอดจองซื้อกองทุนอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งในลำดับต่อไปทาง บลจ.ไอเอ็นจี จะนำเข้าไปจดทะเบียนในชื่อ SIRIPF เพื่อให้สามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ โดยจะเริ่มเข้าตลาดวันแรกในวันที่ 26 กันยายนนี้ สำหรับผู้ลงทุนอื่นๆ ที่มิได้จองซื้อผ่านบลจ.ไอเอ็นจี และมีความประสงค์จะลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ หากมีความสนใจก็สามารถซื้อได้ในตลาดหลักทรัพย์ได้โดยตรง
“ภายหลังจากที่มีการเปิดตัวกองทุนอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทำให้มีลูกค้าสนใจและแวะเยี่ยมชม รวมถึงซื้อโครงการมากขึ้น ขณะนี้มียอดขายโครงการนี้แล้ว 33 ยูนิต ซึ่งเมื่อรวมกับส่วนเช่าของ The Crest เฟสแรกที่มีการขายยูนิตการให้เช่า ที่มีการขายสินทรัพย์ให้กับกองทุนอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริสุขุมวิทจำนวน 25 ยูนิต และเฟสที่ 2 กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการให้เช่าเพิ่มเติมอีก 17 ยูนิตนั้น จะทำให้มียูนิตสำหรับขายให้กับลูกค้าทั่วไปเพียง 21 ยูนิตสุดท้ายเท่านั้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถปิดการขายโครงการบ้านแสนสิริสุขุมวิท 67 ได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้อย่างแน่นอน” นายเศรษฐา กล่าว--จบ--