กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--กระทรวงเกษตรและสกรณ์
กระทรวงเกษตรฯจับมือจังหวัดอ่างทอง จัดงาน เกษตรและของดีเมืองอ่างทอง ครั้งที่ 2วันที่ 29 ม.ค. – 9 ก.พ. นี้ ที่วัดขุนอินทประมูล อ. โพธิ์ทอง จ. อ่างทอง พบกับการจัดแสดงองค์ความรู้และอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมอาชีพการเกษตร พร้อมเลือกซื้อหาสินค้าคุณภาพจากสินค้า OTOP และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน
นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดงานเกษตรและของดีเมืองอ่างทอง ครั้งที่ 2 ภายใต้แนวคิด “เกษตร นวัตกรรมธรรมชาติ สร้างสมดุลชีวิต สร้างอนาคตยั่งยืน” ณ. วัดขุนอินทประมูล อ. โพธิ์ทอง อ. อ่างทอง ว่า จังหวัดอ่างทองและจังหวัดในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยาเป็นพื้นที่สำคัญของภาคเกษตรกรรมในประเทศไทย เป็นแหล่งผลิตอาหารแหล่งใหญ่ที่หล่อเลี้ยงคนในประเทศและนำมาซึ่งรายได้เข้าประเทศ จากการจำหน่ายผลิตผลการเกษตรไปยังนานาประเทศมาช้านาน ด้วยศักยภาพที่มีอยู่เชื่อว่าภาคเกษตรกรรมของพื้นที่บริเวณนี้จะทวีความสำคัญยิ่งๆขึ้น จากการเป็นพื้นที่เศรษฐกิจภาคการเกษตรที่สำคัญ เมื่อเข้าสู่การเป็นสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปลายปี 2558 โดยจะต้องมีการเตรียมการเพื่อเป็นการรองรับการแข่งขันทางการตลาดของการค้าทุกประเภทโดยเฉพาะตลาดสินค้าเกษตรที่จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นพร้อมทั้งมีพัฒนาการทั้งงานวิจัย งานวิชาการและเทคโนโลยีที่ทันสมัย และประการสำคัญมีการเตรียมความพร้อมให้เกษตรกรและผู้ประกอบธุรกิจการเกษตรอย่างเป็นรูปแบบเพื่อใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้ช่วงชิงตลาดให้มากที่สุด ฉะนั้น ภาคการเกษตรของประเทศไทยเองก็ต้องมีการปรับปรุงและสร้างพัฒนาการตลอดจนเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อสร้างคุณภาพผลผลิตให้ดีขึ้น หรือแม้กระทั่งให้ได้จำนวนการผลิตแบบ Mass Product แต่ต้อง Mass ในแบบ Niche market ด้วย นั่นคือ นับจากนี้ไปการผลิตผลผลิตต้องมีคุณภาพได้มาตรฐาน มีระบบการตรวจสอบคุณภาพที่ประเทศคู่ค้าเชื่อใจ
นายชวลิต กล่าวต่อไปว่า การจัดงาน “เกษตรและของดีเมืองอ่างทอง ครั้งที่ 2 ”ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และจังหวัดอ่างทอง ถือเป็นความร่วมมือที่สำคัญเพราะการเตรียมความพร้อมให้แก่งานเกษตรกรรมทุกภาคส่วน ซึ่งมีความจำเป็นต้องเร่งกระทำ เกษตรกรและบุคลากรที่เกี่ยวข้องต้องเร่งที่จะเรียนรู้ทั้งด้านวิชาการและการปฏิบัติเพื่อพัฒนาระบบการผลิตสินค้าให้ทันต่อความก้าวหน้าของสมาชิกประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกและโอกาสที่เกษตรกรไทยในการก้าวสู่การเป็น “ผู้นำเกษตรกรโลก”และภาคเกษตรไทยเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้าต่อไป
“การจัดงานในครั้งนี้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้นำองค์ความรู้ นำเทคโนโลยีที่ตกผลึกแล้วมาเป็นแบบอย่างให้ทุกฝ่ายได้นำไปปฏิบัติต่อยอดเพื่อสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งให้กับประเทศชาติและเกษตรกร องค์ประกอบของการจัดงานจะส่งผลให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคได้ตระหนักถึงความสำคัญของระบบการผลิตที่ดีคุณภาพ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคได้ตระหนักถึงความสำคัญของระบบการผลิตที่มีคุณภาพ ซึ่งจะส่งผลให้สินค้าได้ยืนอยู่ในตลาดโลกอย่างเต็มภาคภูมิและเป็นกลไกในการผลักดันให้ภาคเกษตรของจังหวัดอ่างทองและจังหวัดในลุ่มเจ้าพระยามีความก้าวหน้ายิ่งขึ้นในทุกๆภาค” นายชวลิตกล่าว
สำหรับการจัดงานเกษตรของดีเมืองอ่างทอง ครั้งที่ 2 มีการจัดกิจกรรมที่สำคัญใน 2 ส่วน โดยส่วนแรกเป็นการจัดแสดงความก้าวหน้าของงานวิจัยทางการเกษตรซึ่งจะเป็นฐานความรู้ให้แก่เกษตรกรนำไปต่อยอดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ภายใต้แนวคิด “เกษตรนวัตกรรมธรรมชาติ : สร้างสมดุลชีวิต สร้างอนาคตยั่งยืน”เน้นถึงความมหัศจรรย์ยิ่งใหญ่ของภาคเกษตรกรรมจากองค์ความรู้ของ 13 หน่วยงาน โดยจัดแสดงองค์ความรู้ เพื่อพัฒนาอาชีพเกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้าเกษตร สร้างความเข้าใจในการใช้ประโยชน์ จากนโยบายกำหนดเศรษฐกิจสำหรับสินค้าเกษตรเพื่อให้เกษตรกรมีความรู้ประกอบการตัดสินใจในการผลิตสินค้าทางการเกษตรที่เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของตลาด และการจัดอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีและสร้างพัฒนาการให้แก่เกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และผู้แทนเกษตรกรในสาขาอาชีพต่างๆทั้งด้านการผลิตพืช ปศุสัตว์ ประมง รวมทั้งด้านเศรษฐกิจ การเกษตร และการตลาด ที่เป็นการให้ความรู้ทางวิชาการอย่างเข้มข้นตลอดเวลา 12 วัน และในส่วนที่สอง เป็นการจัดจำหน่ายสินค้าเกษตรนานาภัณฑ์ ทั้งของสด และการแปรรูปจากกลุ่มสหกรณ์ กลุ่มสินค้า OTOP กลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดอ่างทองยังได้จัดแสดง และภาคเอกชน ในราคาที่เป็นธรรม จากมือผู้ผลิตถึงมือผู้บริโภคโดยตรง นอกจากนี้ จังหวัดอ่างทองยังได้จัดแสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณ และพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรจังหวัดอ่างทองผ่านนิทรรศการชุด “จำหลักแผ่นดิน จำหลักพระราชดำริ”โดยการนำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอ่างทองมานำเสนอ
กองเกษตรสารนิเทศ
สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
โทร 02-2810859 แฟกซ์ 02-2822871
moacnews@gmail.com
www.moac.go.th