สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 31, 2014 10:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ม.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,262 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,245 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 32.98 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,650 บาท กับ 19,750 บาท และกลับมาปิดที่ 19,550 บาท กับ 19,650 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,688 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,869 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 2.6% แบบ 10 บาทเพิ่มขึ้น 3.5 % GFG14 ปิด 19,560 บาท และ GFJ13 ปิด 19,680 บาท GF10G13 ปิดที่ 19,560 บาท GF10J13 ปิดที่ 19,680 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 19.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,242.5 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 42.6 เซ็นต์ ปิดที่ 19.126 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 793.16 ตัน (ซื้อเพิ่ม 0.6 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 87เซ็นต์ ปิดที่ 98.23 ดอลลาร์/ออนซ์ ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 109.82 จุด ปิดที่15,848.61 จุด ข่าวที่สำคัญ ทองคำปิดปรับตัวที่ระดับต่ำจากที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์แข็งแกร่งและตลาดหุ้นทะยานตัวขึ้นแข็งแกร่งที่ก่อนหน้านี้ได้รับแรงกดดันจากแรงเทขาย ตัวเลข HSBC Manufacturing ภาคการผลิตของจีนอยู่ที่ระดับ 49.5 จุดจากเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 50.5จุด แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนในเวลานี้เริ่มชะลอตัวซึ่งรายงานนี้ก็ส่งผลให้ตลาดทองคำนั้นมีปัจจัยเป็นภาวะหมีขาลงเนื่องจากจีนอาจบริโภคทองคำน้อยลง SPDR เมื่อวานนี้ซื้อทองคำเพิ่มต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก 0.6 ตัน ปัจจุบันคงทองที่ระดับ 793.16 ตัน จิม เวคคอฟ นักวิเคราะห์จากคิทโก้ได้กล่าวราคาทองคำยังคงไม่สามารถกลับทิศทางเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจนแนวต้านจะอยู่ที่ระดับ 1,250 เหรียญ 1,260 เหรียญ ส่วนแนวรับน่าจะกลับลงไปที่ระดับ 1,230.80 เหรียญ รายงานรอยเตอร์ระบุว่า จากการที่เฟดปรับเม็ดเงินลงส่งผลให้ตลาดนั้นเริ่มรับรู้ว่าเศรษฐกิจตลาดใหญ่เริ่มฟื้นตัวเม็ดเงินได้ถูกโยกจากตลาดทองคำไปสู่ตลาดหุ้นกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง ดัชนีความเชื่อมั่นและพึงพอใจต่อสภาพเศรษฐกิจในยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 100.9 ในเดือนมกราคมจากก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับ100.4 ที่เพิ่มขึ้นเป้นระดับสูงที่สุดในรอบ 2ปีครึ่งที่ผ่านมาเนื่องจากในเวลานี้เศรษฐกิจยุโรปยังคงได้รับข่าวดีจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นทวีความร้อนแรงให้กับตลาดในเวลานี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากข้อมูลการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาในเชิงบวก จึงส่งผลให้เฟดปรับลด QEโดยค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3551 ยูโร/ดอลลาร์ จากเดิม 1.3666 ยูโร/ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ระบุว่า มีกระแสเงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่อย่างเห็นได้ชัด เช่น การที่ตุรกี หรืออินโดนีเซีย ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้น เพราะมีปัญหาเงินไหลออกนอกประเทศ ส่งผลให้มีกระแสเงินไหลกลับสู่ประเทศพัฒนาแล้ว ได้แก่ สหรัฐฯ และยุโรป จึงเป็นแรงกดดันให้ค่าเงินในภูมิภาคอาเซียนอ่อนค่า ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่ดีขึ้นเกินคาดของบริษัทบางแห่ง จึงได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ สำหรับวันนี้เป็นวันเริ่มต้นวันหยุดเทศกาลตรุษจีนซึ่งตลาดหุ้นและการเงินในเอเชียส่วนมากจะมีแรงซื้อขายที่เบาบาง โดยที่ตลาดการเงินประเทศจีน ฮ่องกง ไต้หวัน เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ปิดทำการในวันนี้ และตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดทำการเพียงครึ่งวัน นักบริหารเงิน คาดการณ์ว่า ค่าเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.92 - 33.10 บาท/ดอลลาร์ โดยมีโอกาสเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่า เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่เป็นตัวกดดัน และสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯที่ส่งสัญญาณฟื้นตัว ตลาดโลกระยะนี้ มีความอ่อนไหวมากกว่าปกติ รวมทั้งไทยเข้าสู่ช่วงใกล้วันเลือกตั้ง 2 ก.พ.นี้ จึงอาจเห็นการปรับลดการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติบ้าง แต่ไม่ใช่การขายแบบ Panic Sell ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวาน - Advance GDP q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 4.1% ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ 3.2% -Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 329K ตัวเลขจริงออกมาแย่ลงอยู่ที่ระดับ 348K -Pending Home Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.3% ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ -8.7% ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้ - Personal Spending m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.5% คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 0.2% - Chicago PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 59.1 คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 59.8 - Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 80.4 คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 81.1 ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงในช่วงตลาด COMEX เมื่อวานนี้ หลังจากที่เฟดเริ่มมีการประกาศลด QE3 เพิ่มเติมอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน หลังจากที่ได้ประกาศลดไปก่อนหน้านี้แล้วในช่วงเดือนธันวาคม 1 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ตอนนี้นโยบาย QE3 ที่เคยมีการอัดฉีดเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน จะเหลือเพียง 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนเท่านั้น นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เฟดก็ยังมีการพูดคุยกันว่าจะมีการปรับลด QE ต่อไปเรื่อยๆอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน จึงส่งผลกดดันราคาทองคำในระยะสั้นๆอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,250 เหรียญลงมา และมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับประมาณ 1,240 เหรียญ วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ในเชิงเทคนิคราคาทองคำได้หลุดแนวรับสำคัญอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่มีการเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways ระหว่าง 1,250-1,270 เหรียญในช่วงตลอด 2 สัปดาห์ ซึ่งได้เริ่มมีการส่งสัญญาณ Breakout ด้านล่างในกราฟราย 1 ชั่วโมง และเหมือนจะเริ่มที่จะส่งสัญญาณว่าจะกลับมาเป็นขาลงอีกครั้งหนึ่ง ราคาทองคำจะต้องกลับไปยืนอยู่เหนือ 1,250 เหรียญให้ได้ภายใน 2-3 วัน ถึงจะยังคงรักษาภาพการเคลื่อนไหวในลักษณะขาขึ้นในระยะสั้นของตลาดทองคำได้ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แนะนำให้พยายามปรับพอร์ต โดยผู้ที่เปิด Long Position ที่ระดับ 1,250 เหรียญ ให้ทำ Stop Loss ออกไปก่อนในบางส่วน เนื่องจากเริ่มมีการ Breakout ของเทรนด์ขาขึ้นในระยะสั้น โดยคาดว่าในวันนี้ราคาทองคำจะมีแนวรับแรกอยู่ที่ระดับ 1,230 เหรียญ และ 1,220 เหรียญซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ ซึ่งหากหลุดระดับ 1,220 เหรียญ แนวรับถัดไปจะอยู่ 1,200 เหรียญ ขณะที่แนวต้านจะอยู่ที่ระดับ 1,250 เหรียญ และ 1,265 เหรียญตามลำดับ และวันนี้คาดว่า ราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,230-1,250 เหรียญ แต่ยังให้ระมัดระวังการหลุดแนวรับสำคัญ -นักลงทุนที่ถือ Long Position แนะนำให้ทำ Stop Loss ออกไปก่อน เนื่องจากราคาเริ่มมีการ Breakout ของเทรนด์ขาขึ้นระยะสั้น -นักลงทุนที่ถือ Short Position แนะนำให้เปิดสถานะ Short Position บริเวณ 1,245 เหรียญขึ้นไป และมาช้อนซื้อคืนที่ระดับ 1,220-1,230 เหรียญ Gold Futures G14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,600 บาท Gold Futures J14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,700 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ