กรุงเทพฯ--3 ก.พ.--อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ
เอ็นไวโรเซลเผย ประชาชนยันปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง พร้อมทำบัตรเสีย กาโนโหวต ไม่เชื่อมั่นเลือกตั้งโปร่งใส วอนขอปฏิรูป รัฐบาลลาออก คืนเสียงประชาชน เนื่องจากไม่มั่นใจแนวทางแก้ปัญหารัฐบาลอีกต่อไป
บริษัท เอ็นไวโรเซล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยา และ พฤติกรรมผู้บริโภค ทำประชาพิจารณ์ เรื่อง ความคิดเห็นของประชาชนต่อการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยสุ่มตัวอย่าง 1000 คน จากประชากรชาย หญิง ตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป โดยวิธีสุ่มจากหมายเลขโทรศัพท์ของประชาชนทั่วทุกภาคของประเทศ ในช่วงวันที่ 28-30 มกราคม พ.ศ.2557โดยไม่จำกัดความคิดเห็นจากฝ่ายใดเพียงฝ่ายหนึ่ง ซึ่งการสุ่มตัวอย่างมีการกระจายตามสัดส่วนประชากรโดยหลักการทางสถิติ ด้วยความมั่นใจ 95% ความผิดพลาดจากการสุ่มตัวอย่าง +/- 3%
การวิจัยทำในช่วง 28-30 มกราคม 57 ที่ผ่านมา โดยกระจายกลุ่มตัวอย่างตามสัดส่วนประชากรทุกภาค ได้แก่ กรุงเทพ 14% ภาคกลางและภาคตะวันออก 20%, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 34%, เหนือ 18%, และภาคใต้ 14% กระจายกลุ่มตัวอย่างตามสัดส่วนรายได้สูง 18% ปานกลาง 38% และรายได้น้อย 44% ปรากฏผลการวิจัยความคิดเห็นของประชาชนต่อคำถามเป็นดังต่อไปนี้
คุณจะไปเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. นี้หรือไม่
ประชาชน 45% แจ้งความประสงค์ว่าจะไม่ไปเลือกตั้ง 25% ตั้งใจไปเลือกตั้ง แต่ต้องการกาโหวตในช่องงดออกเสียง 22% ตั้งใจไปเลือกตั้ง และมีเป้าหมายในการเลือกพรรคต่างๆ อย่างชัดเจน และมีผู้ที่ต้องการไปเลือกตั้งอีก 8% แต่ตั้งใจไปทำบัตรเสีย
คุณคิดว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นภายในวันที่ 2 ก.พ. นี้จะมีความโปร่งใสหรือไม่เพียงใด
ประชาชนส่วนใหญ่ 66% ไม่เชื่อมั่นในความโปร่งใสของการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. ส่วนประชาชนที่เหลือ 34% คาดการณ์ว่าการเลือกตั้งน่าจะเป็นไปอย่างโปร่งใส (โดยคะแนนความไว้วางใจต่อความโปร่งใสในระบบการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. นี้ มีค่าเฉลี่ย 33.87 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน)
คุณคิดว่าประเทศไทยต้องการการปฎิรูปหรือไม่
ประชาชนยืนยันเจตนารมณ์ต้องการการปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง 64% (สัดส่วนคงเดิม เมื่อเปรียบเทียบผลกับงานวิจัยของเอ็นไวโรเซล เมื่อวันที่ 1-4 ธค 2556 ที่ผ่านมาซึ่งเป็น 63%) อีก 24% ต้องการการปฏิรูป ภายหลังการเลือกตั้ง และที่เหลือ 12% มีความเห็นว่าไม่ต้องปฏิรูป
คุณอยากให้ประเทศไทยมีทางออกอย่างไร
71% ต้องการให้มีการเลื่อนการเลือกตั้ง โดยให้รัฐบาลลาออก และเปิดโอกาสให้มีรัฐบาลชั่วคราว มีนายกรัฐมนตรีที่ทุกฝ่ายรับได้เข้ามาทำหน้าที่ปฏิรูปประเทศ และ 29% ต้องการให้ กปปส.หยุดการชุมนุม เพื่อไปเลือกตั้ง
ถ้ามีการปฎิรูปการเมืองเกิดขึ้นคุณอยากให้ใครเป็นคนจัดตั้งคณะกรรมการ
54% ต้องการคณะกรรมการที่มาจากเสียงโหวตของประชาชน ในขณะที่ 44% อยากใด้คณะกรรมการการปฎิรูปการเมืองพระราชทาน และ 2% อยากให้มาจากรัฐบาล
คุณได้รับผลกระทบจากการชุมนุมของ กปปส. หรือไม่ เพียงใด
48% ของประชาชนได้มองข้ามเรื่องผลกระทบ เพราะรู้สึกเป็นหน้าที่ที่ต้องร่วมกันสู้เพื่อประเทศ ในขณะที่ 27% ไม่ได้รับผลกระทบ หรือได้รับบ้างแต่ไม่รู้สึกเดือดร้อน ส่วนอีก 25% ได้รับความเดือดร้อนและต้องการให้กปปส.ยุติการชุมนุม
คุณคิดว่ารัฐบาลจะจัดการแก้ปัญหาเรื่องการจำนำข้าวให้ชาวนาได้หรือไม่
ประชาชน 57% รู้สึกไม่มั่นใจกับการแก้ปัญหาของรัฐบาล แต่ 43% คิดว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรได้
ทั้งนี้ ไม่ว่ารูปแบบทางการเมืองในปัจจุบัน หรืออนาคตจะเป็นเช่นไร แต่รูปแบบการทำประชาพิจารณ์ เพื่อหยั่งความคิดเห็นของประชาชน และเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของประชาชนนั้น อาจเป็นอีกหนึ่งในโมเดลการปฏิรูปการเมืองเพื่อช่วยตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้อย่างตรงจุด และเติมเต็มให้การบริหารประเทศเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้น