กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--กรีนพีซ
วันนี้เป็นวันครบรอบหนึ่งปีที่ บริษัท เอเชีย พัลพ์ แอนด์ เพเพอร์ (เอพีพี) ได้ประกาศคำมั่นยุติการตัดไม้ทำลายป่า โดยในระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมานี้เอพีพีได้ดำเนินการตามนโยบายหยุดการข้องเกี่ยวการตัดไม้ทำลายป่าที่ได้ประกาศไว้
เนื่องในโอกาศครบรอบหนึ่งปีที่เอพีพีประกาศคำมั่นสัญญา บุสตาร์ ไมทาร์ หัวหน้างานรณรงค์ด้านป่าไม้ประเทศอินโดนีเซีย กรีนพีซสากล กล่าวว่า
“เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วที่ เอพีพี ได้ดำเนินการตามนโยบายที่จะยุติการข้องเกี่ยวการตัดไม้ทำลายป่า แม้ว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา เอพีพีจะเผชิญกับความท้าทายมากมายในประเทศอินโดนีเซีย แต่ความคืบหน้าด้านนโยบายหยุดการทำลายป่าของเอพีพีนั้นได้เพิ่มแรงกดดันต่อบริษัทอื่นๆ เช่น บริษัทในเครือ APRIL และ RGE ที่ยังคงตัดไม้ทำลายป่าอยู่ ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษในประเทศอินโดนีเซีย”
“ล่าสุด กลุ่ม APRIL และ RGE ออกมาประกาศนโยบายที่จะคงดำเนินการตัดไม้ทำลายป่าต่อไปได้อีกมากกว่า 6 ปี นี่คือสิ่งที่กรีนพีซไม่อาจยอมรับได้ กรีนพีซจะจับตาความเคลื่อนไหวและเปิดโปงเบื้องหลังของกระบวนการสร้างภาพของกลุ่มบริษัทดังกล่าวต่อไป”
ในภาคอุตสหกรรมอื่นๆ เช่น บริษัทวิลมาร์ซึ่งเป็นบริษัทส่งออกน้ำปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลกก็ได้ออกมาแสดงเป้าหมายต่อคำมั่นสัญญาในการไม่ตัดไม้ทำลายป่า
ความท้าทายที่เกิดขึ้นจากการที่เอพีพีได้ริเริ่มปฏิบัติตามนโยบายหยุดตัดไม้ คือ“การทำงานในปีที่ผ่านมาของเอพีพีได้เผชิญความท้าทายสำคัญในเรื่องใบอนุญาตสัมปทานป่าไม้ในพื้นที่ทับซ้อน เนื่องจากพื้นที่ที่ระบุไว้ในใบอนุญาตได้ถูกจัดสรรให้แก่บริษัทอุตสาหกรรมอื่นเช่นกัน รัฐบาลจำเป็นที่จะออกมาแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วนเพื่อให้การอนุรักษ์ป่าไม้ในประเทศอินโดนีเซียประสบความสำเร็จ
กรีนพีซเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศอินโดนีเซียออกมาทบทวนกการออกใบอนุญาตสัปทานป่าไม้ทั้งหมดอย่างเร่งด่วนเพื่อเป็นการพัฒนาการกำกับดูแลอุตสาหกรรมป่าไม้”