APOSTROPHYS เบื้องหลังความสำเร็จ Sangsom MOVEaBAR 2013 กับดีไซน์สุดพีคใต้แสงจันทร์

ข่าวบันเทิง Friday February 7, 2014 15:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--อัพไฟว์ “งานทุกงานของเราจะต้องเน้นที่ความเป็นไทยหรือนำความเป็นเอกลักษณ์ของไทยมาผสมในการออกแบบ เสมือนกับการได้แสดงความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลกถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของอะโพสโทรฟีเอส” พันธวิศ ลวเรืองโชค SangSom MOVEaBAR บาร์แอนด์บิสโทรมัลติมีเดียเคลื่อนที่ซึ่งหลายๆ คนคงเคยได้ไปสัมผัสกันมาแล้ว เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของด้วยดีไซน์โครงสร้างและลูกเล่นที่โดดเด่นสะดุดตาที่ผสมผสานความเป็นแสงโสมได้อย่างลงตัว ซึ่งก็เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบแดงจากสตูดิโอออกแบบชื่อดังอย่าง อะโพสโทรฟีเอส เจ้าของผลงานการออกแบบเทคนิคพิเศษงานอีเว้นต์ Cotto ที่ได้ไปโชว์ไกลถึงมิลาน และในครั้งนี้ คุณพันธวิศ ลวเรืองโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท อะโพสโทรฟีเอสเดอะซิ เธซิส เซิร์ฟเวอร์ จำกัด ก็ได้มาร่วมเป็นอีกหนึ่งคนสำคัญของการสร้างสรรค์ผลงานโครงสร้างสุดยูนีคโดยมีวีธีการนำเสนอผ่านเทคโนโลยีสื่อใหม่อย่าง อินเทอร์แอ็กทีฟมีเดียล้ำ ภาพกราฟฟิคเคลื่อนไหว จนได้มาเป็น SangSom MOVEaBAR 2013 @ Parc Paragon พันธวิศ เล่าถึงไอเดียและแรงบันดาลใจในการออกแบบโครงสร้างของลาน SangSom MOVEaBAR 2013 ครั้งนี้ว่า “แสงโสมที่แปลว่าแสงของพระจันทร์ เราจึงนำไอเดียนี้มาและนึกถึงภาพที่คนเข้ามาดื่มสังสรรค์ท่ามกลางแสงจันทร์มาสร้างเป็น Illumination ambient ขึ้น และจากการทำงานเกี่ยวกับ Party Concert พบว่ามีรูปแบบคล้ายๆกัน คือมีการตั้งเวทีกับโต๊ะที่นั่งลูกค้าเท่านั้น แต่สำหรับลาน SangSom ที่มีคอนเซ็ปต์ “Unique Experience” กลุ่มเป้าหมายเป็นคนหลากหลายช่วงอายุที่สนใจในเรื่องศิลปะ จึงพยายามนำ Lighting art Installation เข้ามาผสม เมื่อลูกค้าที่เข้ามาดื่มสังสรรค์ภายในลาน ก็จะได้ชมงานศิลปะโดยที่ไม่ต้องไปถึงแกลอรี่” “ปัจจุบันการทำโครงสร้างงานอีเว้นต์จะมีดีไซน์สวยอย่างเดียวไม่พอ ต้องสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับคนที่เข้ามาในพื้นที่อีกทั้งยังทำให้จดจำแบรนด์ได้มากขึ้นอีก จึงเป็นเหตุผลที่เรานำ New Media หรือ Interactive Media เข้ามาใช้ในงาน นอกจากนี้จุดเด่นของงานที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ lighting art installation เข้ามาใช้เพื่อให้แสงนั้นถือเป็นตัวเชื่อมระหว่างเวทีกับคนดูให้รู้สึกสนุกสนานไปด้วยกัน โดย Theme สำหรับงานนี้คือ 7 Days 7 Lights การเลียนแบบแสง จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น Aurora แสงเหนือ แสงใต้ที่พุ่งจากขอบฟ้าเวลากลางคืน โดยที่แสงนั้นจะมีโทนสีชมพูและสีเขียว, Rainbow แสงสายรุ้ง 7 ลักษณะของแสงใน scene นี้ค่อนข้าง colorful หลากหลายสีสัน , Moonlight เลียนแบบแสงมาจากแสงของพระจันทร์สีเหลืองนวล และสาเหตุที่เลือก “พระจันทร์” มาเป็นจุดขายของลาน SangSom MOVEaBAR 2013 เนื่องจากพระจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของเวลากลางคืนที่สากลและเข้าใจได้ง่าย จึงเลือกนำพระจันทร์มาเป็นส่วนต่างๆภายในงาน ทั้งกราฟฟิก หรือลูกบอลลูกที่แสดงถึงพระจันทร์ยักษ์ฉายแสงอยู่ในลานนี้” พันธวิศ เล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับจุดเด่นและกิมมิคของลาน เมื่อถามถึงอุปสรรคความยากของการออกแบบโครงสร้างครั้งนี้ พันธวิศ เผยว่า “เรื่องการ set up คือความยากของการทำงานนี้ เพราะเป็นงานที่ถือว่ามีขนาดใหญ่จึงต้องพยายามหาทางที่ประหยัดเวลามากที่สุด โดยต้องทำโครงสร้างสำเร็จรูปและยืดหยุ่นมาจากโรงงานและนำมาประกอบที่พื้นที่ สำหรับเรื่องผลตอบรับของลาน SangSom MOVEaBAR 2013 ด้วยพื้นที่ๆ เป็นใจกลางเมืองและสามารถมองเห็นได้จากหลายทิศทาง การออกแบบบางส่วนเราออกแบบโดยคำนึงถึงการมองเห็นจากผู้คนที่อยู่มุมสูงหรือเดินผ่านไปมา ถือว่ามีการตอบรับและพูดต่อกันได้ดี ทั้งนี้ต้องยกเครดิตให้กับแบรนด์ที่มีการ PR ที่ดี” พันธวิศกล่าวทิ้งท้ายสำหรับความรู้สึกในการได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมงานกับ SangSom ในครั้งนี้ว่า “ต้องขอขอบคุณทางแสงโสมที่ให้โอกาสเหมือนเราได้ทำงานศิลปะในพื้นที่ Commercial โดยการทำ lighting art Installation เข้ามาผสม ซึ่งเราหวังว่างานที่เราทำออกไปสามารถสร้างประสบการณ์สุดยูนีคให้พื้นที่ของการสังสรรค์ของคนที่ชื่นชอบทั้งศิลปะและเสียงเพลง” ติดตามประสบการณ์สุดพีคครั้งต่อไปได้ที่ www.facebook.com/sangsomexperience
แท็ก พีค  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ