ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต ชูโรดแมปแผนธุรกิจ 5 ปี เน้นคุณภาพและความยั่งยืนระยะยาว พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจผ่าน 3 ยุทธศาสตร์หลัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 11, 2014 11:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ก.พ.--ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต ชูวิสัยทัศน์ผู้นำตลาด วางโรดแมปแผนธุรกิจ 5 ปี เดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ผ่าน 3 ยุทธศาสตร์หลัก ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง บริหารช่องทางจำหน่ายหลากหลาย และมุ่งสู่บริการที่เป็นเลิศ เผยปี 57 มั่นใจประกันชีวิตยังเติบโตแข็งแกร่ง ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมเติบโต 30% นายวิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ SCBLIFE เปิดเผยว่า บริษัทวางโรดแมปแผนธุรกิจ 5 ปี มุ่งเน้นด้านคุณภาพ และความยั่งยืนระยะยาว โดยในปี 2557 ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมเติบโต 30% เชื่อมั่นว่า ภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตปีนี้ จะยังคงขยายตัวและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้การเติบโตในปีที่ผ่านมาจะชะลอตัวลงเนื่องจากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจ และสถานการณ์ทางการเมือง แต่ด้วยสถิติจำนวนกรมธรรม์ต่อประชากรไทย ณ สิ้นปี 2556 ที่ ประมาณ 36-37% ทำให้โอกาสของธุรกิจประกันชีวิตยังคงเปิดกว้างอีกมาก รวมทั้งมีปัจจัยหนุนหลายๆ ด้าน อาทิ โครงสร้างประชากรที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น บวกกับภาระหนี้สินภาคครัวเรือนของประชาชน จะเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญของการเก็บออมมากขึ้น และประกันชีวิตยังคงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีสำหรับการวางแผนเพื่ออนาคต นอกจากนี้ การมีช่องทางการขายที่หลากหลาย และการเปิดตัวของไมโคร อินชัวรันส์ ที่มีเบี้ยประกันราคาถูกจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อ ยิ่งทำให้ประกันชีวิตเข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว SCBLIFE จะต่อยอดการขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2557 โดยยังคงดำเนินการตาม 3 ยุทธศาสตร์หลักที่ได้มีการวางแผนไว้ ดังนี้ ยุทธศาสตร์ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ยังคงมุ่งออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม (Product Excellence) สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริง ตรงตามทุก ช่วงเวลาในแต่ละช่วงชีวิต (Life stage) และรูปแบบการใช้ชีวิต (Lifestyle) ที่เปลี่ยนไปของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายในทุกๆ ช่องทาง ดังในปีที่ผ่านมาเป็นปีแรกที่ทางบริษัทได้ออกแบบสินค้าและทำการสื่อสารการตลาด ที่เน้นตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป็นหลักโดยผ่านสินค้าสองตัว ได้แก่ ประกันมรดกตามใจ (Heritage) ที่นำสินค้าประเภทตลอดชีพ มาทำการสื่อสารใหม่ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการประกันชีวิตมาช่วยดูแลในส่วนของการวางแผนมรดกสำหรับอนาคตของคนในครอบครัว โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้ากลุ่มบน และประกันออมสบายชดเชยรายวัน ซึ่งออกแบบมาสำหรับลูกค้ากลุ่มอาชีพอิสระเพื่อเป็นการวางแผนสำรองในการชดเชยรายได้ ในวันที่ต้องเจ็บป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และในปีนี้ SCBLIFE ได้ทำการแบ่งประเภทของลูกค้า และศึกษาพฤติกรรม รวมถึงทัศนคติเกี่ยวกับการวางแผนการเงินเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความต้องการ และสื่อสารกับผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น ยุทธศาสตร์บริหารการขายแบบหลากหลายช่องทาง (Multi Distribution Channels) เพิ่มขีดความสามารถในการเข้าถึงลูกค้า ด้วยช่องทางการขายที่ยอดเยี่ยม (Distribution Excellence) โดยการพัฒนาช่องทางหลัก ควบคู่แสวงหาช่องทางใหม่ๆ พัฒนาศักยภาพทีมขายมืออาชีพเพื่อสร้างคุณภาพธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น โดยสร้างฝ่ายขายมืออาชีพเพื่อเป็นต้นแบบ (Role Model) จัดโครงสร้างทีมขายมืออาชีพที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ทั้งลูกค้ารายบุคคล กลุ่มเจ้าของธุรกิจ และบริษัท เพื่อให้สามารถดูแลลูกค้าได้ครอบคลุม และทั่วถึงทุกกลุ่ม ยุทธศาสตร์เพิ่มประสิทธิภาพระบบปฏิบัติการสู่ความเป็นเลิศ (Seamless Operations) มุ่งมั่นพัฒนาระบบปฎิบัติการ รวมทั้งนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ เพื่อสนับสนุนการให้บริการลูกค้าในทุกช่องทางการขาย และรองรับการขยายธุรกิจที่สำคัญของบริษัทในอนาคต เช่น การเรียกร้องสินไหมที่สามารถทำได้ที่สาขาของ SCBLIFE ทั่วประเทศ ด้านผลการดำเนินงานของ SCBLIFE ในปี 2556 นายวิพล เปิดเผยว่า นับเป็นอีกปีที่บริษัทสามารถบริหารจัดการ และขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจได้บรรลุตามเป้าหมายที่มุ่งเน้นด้านคุณภาพและความยั่งยืนระยะยาว แม้ต้องเผชิญความท้าทายจากปัจจัยลบข้างต้นตลอดทั้งปี โดยมีเบี้ยรับรวมจากทุกช่องทางการขาย 45,496 ล้านบาท เป็นอันดับ 4 ในธุรกิจ ครองส่วนแบ่งตลาด 10.3% เบี้ยธุรกิจใหม่จากทุกช่องทางการขายทั้งสิ้น 18,233 ล้านบาท อยู่ในอันดับ 3 ของธุรกิจ ครองส่วนแบ่งตลาด 12.31% ด้านคุณภาพธุรกิจของเรายังคงแข็งแกร่ง ซึ่งเห็นได้จากเบี้ยรับปีต่ออายุที่ขยายตัว 17% เป็น 27,264 ล้านบาท เป็นอันดับ 5 ในธุรกิจ ด้วยส่วนแบ่งตลาด 9.3% ส่งผลให้ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต ก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 4 บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยรับรวมสูงสุด และยังติด 1 ใน 3 ด้านเบี้ยธุรกิจใหม่ ช่องทางธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ แบงก์แอสชัวรันส์ ยังคงเป็นช่องทางหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตที่แข็งแกร่งให้บริษัท โดยมีเบี้ยธุรกิจใหม่ทั้งสิ้น 16,757 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งตลาด 20.6% และมีเบี้ยรับรวม 39,326 ล้านบาท เติบโต 8% ครองส่วนแบ่งตลาด 22.8% ด้านช่องทางตัวแทน มีผลงานการเติบโตที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของแผนงานปรับโครงสร้างของช่องทางตัวแทนในปีที่ผ่านมา และการมุ่งเน้นวางรากฐานการเติบโตอย่างมีคุณภาพ และยั่งยืนในระยะยาว โดยตัวแทนมีอัตราการทำงาน (Active Agent) สูงขึ้น 10% จากเดิม 30% เป็น 40% และมีค่าเฉลี่ยต่อกรมธรรม์สูงขึ้นจากเดิม 18,000 บาท เป็น 26,000 บาท โดยมีเบี้ยธุรกิจใหม่ 950 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 26.5% ด้านเบี้ยรับรวมทำได้ 3,649 ล้านบาท เติบโต 14% มีส่วนแบ่งตลาด 1.5% สำหรับช่องทางประกันชีวิตธุรกิจเฉพาะ มีเบี้ยธุรกิจใหม่ 526 ล้านบาท และมีเบี้ยรับรวม 2,521 ล้านบาท เติบโต 3% มีส่วนแบ่งตลาด 8.8% นายวิพล กล่าวทิ้งท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ