กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--24 คูณ 7
วอลโว่ กรุ๊ป ลุยเปิดสาขา ขยายเครือข่ายตามแผนงาน
- ล่าสุด เปิดสาขานครปฐม ประตูเชื่อมทุกภาค
- เตรียมพร้อมการเข้าสู่ประชาคมประชาชาติเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC
บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายรถบรรทุกหนักวอลโว่และยูดีทรัคส์ แต่ผู้เดียวในประเทศไทย เดินหน้าขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายและศูนย์บริการทั่วประเทศ โดยล่าสุด เปิดสาขานครปฐม ประตูเชื่อมทุกภาคของประเทศไทย
มร. ฌาร์ค มิเชล ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าจังหวัดนครปฐม ถือเป็นจังหวัดยุทธศาสตร์เชื่อมทุกภูมิภาคของประเทศไทย ทั้งนี้เพราะจังหวัดนครปฐม ถือเป็นจังหวัดหน้าด่านเชื่อมสู่ภาคใต้ อีกทั้งเป็นประตูเข้าสู่ภาคตะวันตก และเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างภาคใต้สู่ภาคเหนือและภาคตะวันออก จึงถือว่าจังหวัดนครปฐม เป็นจังหวัดที่สำคัญที่วอลโว่ กรุ๊ป เชื่อมั่นว่าจะสามารถให้บริการแก่รถวอลโว่ ทรัคส์ และยูดี ทรัคส์ จากทั่วประเทศ
“จังหวัดนครปฐม เป็นจังหวัดที่ติดกับกรุงเทพมหานคร และเป็นจังหวัดท่องเที่ยวและการเกษตร ดังนั้น การเปิดสาขาแห่งนี้ จึงเป็นสาขาที่สำคัญที่จะรองรับการขนส่งทั้งภาคการเกษตรและการท่องเที่ยว แต่ที่สำคัญคือนครปฐม ถือเป็นจังหวัดเชื่อมต่อทุกภาคของประเทศไทย ทำให้จำนวนรถบรรทุกและรถโดยสารวิ่งผ่านจังหวัดนี้เป็นจำนวนมาก” มร. มิเชล กล่าว
มร.มิเชล กล่าวว่าภายใต้แผนการขยายงานของวอลโว่ กรุ๊ป บริษัทฯ ได้ตั้งงบประมาณไว้สูงถึง 3,000 ล้านบาทในการสร้างสาขาเพิ่มเติม 10 แห่งและขยายปรับปรุงสาขาปัจจุบันจำนวน 5 แห่ง ทั่วประเทศ โดยขณะนี้ได้มีสาขาที่ให้บริการ 14 แห่ง และวอลโว่ กรุ๊ป จะเร่งเปิดให้ครบตามแผนงานทั้งสิ้น 15 แห่งภายในปีนี้
มร.มิเชล กล่าวเพิ่มเติมว่าศูนย์บริการสาขาจังหวัดนครปฐมแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 8 ไร่ มี ซึ่งเป็นพื้นที่ให้บริการทั้งแบรนด์วอลโว่ และแบรนด์ยูดี พร้อมให้บริการ 4 ช่องซ่อม ตามแบบมาตรฐานของวอลโว่ สามารถรองรับการให้บริการได้มากกว่า 10 คันต่อวัน
“ผมมีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าสาขานครปฐมนี้ จะเป็นสาขาที่สามารถให้บริการได้ทั้งรถที่มาจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย ทั้งนี้เพราะจังหวัดนครปฐมเป็นทางผ่านของรถจากภาคใต้เชื่อมผ่านไปภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย” มร. มิเชลกล่าว และเสริมว่าบริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าตลาดรถบรรทุกหนักยังคงมีศักยภาพที่จะเติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้เพราะประเทศไทยกำลังเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ในปีหน้า ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นภาคการขนส่ง อีกทั้งการลงทุนทางด้านปัจจัยพื้นฐานของประเทศ ถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลใหม่ที่จะต้องเดินหน้าต่อไป
ในภาพ นายธานี ธัญญาโภชน์ (คนกลาง) แสดงความยินดีกับ มร. มิเชล ในพิธีเปิดสาขานครปฐมอย่างเป็นทางการ