กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม
ศ.ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ,ดร.กุลธิดา เสาวภาคย์พงศ์ชัย กรรมการรองผู้อำนวยการและอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระดับอุดมศึกษา ร่วมแถลงผลวิจัยความรับรู้และการทำกิจกรรมเกี่ยวเนื่องกับวันมาฆบูชาของเยาวชนไทย ที่ได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 5-11 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางแผนรณรงค์ให้เยาวชนไทยเล็งเห็นความสำคัญกับการทำกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญทางศาสนาให้มากขึ้น
สืบเนื่องที่ปี พ.ศ. 2557 นี้วันมาฆบูชาได้บังเอิญมาตรงกับวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นเทศกาลสุดฮิตเยาวชนมักทำ การมอบดอกกุหลาบ มอบช็อคโกแลต หรือเลี้ยงฉลอง ด้วยเหตุนี้ หลายฝ่ายในสังคมทั้งนักวิชาการ พ่อแม่ผู้ปกครอง ตลอดจนผู้คนทั่วไปจึงได้ตั้งข้อสังเกตถึงการให้ความสำคัญกับวันมาฆบูชาในปี พ.ศ. 2557 ของพุทธศาสนิกชนที่เป็นกลุ่มวัยรุ่น รวมถึงได้แสดงความห่วงใยว่ากลุ่มวัยรุ่นจะให้ความสนใจและให้ความสำคัญกับกิจกรรมใดมากกว่ากันระหว่างกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวันมาฆบูชากับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวันวาเลนไทน์
ดังนั้น เนื่องในโอกาสวันมาฆบูชาปี พ.ศ. 2557 นี้ สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์จึงได้ทำการสำรวจความรับรู้เกี่ยวกับวันมาฆบูชากับพฤติกรรมและความคิดเห็นต่อการทำกิจกรรมเนื่องในวันมาฆบูชาปี พ.ศ. 2557 ของกลุ่มวัยรุ่นไทยในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 5-11 กุมภาพันธ์
ศ.ศรีศักดิ์กล่าวสรุปว่าผลสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,121 คน เป็นเพศหญิงร้อยละ 51.56 ขณะที่ร้อยละ48.44 เป็นเพศชาย กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 37.91 มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 19 ถึง 22 ปี และกลุ่มตัวอย่างประมาณหนึ่งในสามมีการศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าซึ่งคิดเป็นร้อยละ 32.65
ในด้านความรับรู้เกี่ยวกับวันมาฆบูชา กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 93.31 ทราบว่าวันมาฆบูชาตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ตามปฏิทินของไทย ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 6.69 ไม่ทราบ ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 73.33 ทราบว่าวันมาฆบูชามีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าวันจาตุรงคสันนิบาต แต่อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มตัวอย่างถึงประมาณหนึ่งในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 26.67 ไม่ทราบ
สำหรับความรับรู้ต่อเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในวันมาฆบูชาทั้ง 4 เหตุการณ์นั้น กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 89.03 ทราบว่าเป็นวันที่พระสงฆ์ 1,250 รูปมาประชุมกันเพื่อเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าโดยมิได้นัดหมาย ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 81.18 ทราบว่าเป็นวันเพ็ญ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 69.22 ทราบว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ แต่อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มตัวอย่างไม่ถึงครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 49.15 ที่ทราบว่าพระสงฆ์ทั้ง 1,250 รูปล้วนเป็นเอหิภิกขุคือเป็นผู้ที่ได้รับการบวชโดยตรงจากพระพุทธเจ้า
สำหรับการทำกิจกรรมทางศาสนาในวันมาฆบูชานั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 46.74 ระบุว่า ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาตนเองได้ทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนา เช่น การทำบุญ ตักบาตร ไหว้พระ เวียนเทียน ฟังเทศน์ฟังธรรม เนื่องในวันมาฆบูชา อย่างน้อยหนึ่งครั้งในหนึ่งปี ขณะที่มีกลุ่มตัวอย่างเพียงร้อยละ 21.59 ที่ระบุว่าตนเองได้ทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาติดต่อกันทุกปี แต่มีกลุ่มตัวอย่างถึงเกือบหนึ่งในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 24.53 ระบุว่าตนเองไม่เคยทำกิจกรรมทางศาสนาเนื่องในวันมาฆบูชาในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาเลย
ในด้านความรับรู้และความคิดเห็นต่อวันมาฆบูชาในปี พ.ศ. 2557 นี้ กลุ่มตัวอย่างประมาณสามในสีหรือคิดเป็นร้อยละ 76.27 ทราบมาก่อนว่าวันมาฆบูชาในปี พ.ศ. 2557 นี้ตรงกับวันวาเลนไทน์ ส่วนกิจกรรมที่กลุ่มตัวอย่างตั้งใจจะทำในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 นี้ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชาและวันวาเลนไทน์สูงสุด 5 อันดับได้แก่ ไปเวียนเทียน คิดเป็นร้อยละ 90.81 ไปรับประทานอาหารนอกบ้าน คิดเป็นร้อยละ 87.51 ไปห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 84.21 ตั้งใจที่จะมอบดอกกุหลาบ/ช็อคโกแลท/การ์ดให้แฟน/คนรัก/คนใกล้ชิด คิดเป็นร้อยละ 79.84 และไปทำบุญตักบาตร/ไหว้พระ คิดเป็นร้อยละ 78.14 นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 57.18 มีความเห็นว่าในวันมาฆบูชาปี พ.ศ. 2557 นี้ซึ่งตรงกับวันวาเลนไทน์ จะไม่ส่งผลให้กลุ่มวัยรุ่นให้ความสนใจทำกิจกรรม เช่น ทำบุญตักบาตร ไหว้พระ เวียนเทียน ฟังเทศน์ฟังธรรม น้อยลง ขณะที่มีกลุ่มตัวอย่างถึงเกือบหนึ่งในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 32.74 ที่เห็นว่าจะส่งผลให้วัยรุ่นให้ความสนใจทำกิจกรรม เช่น ทำบุญตักบาตร ไหว้พระ เวียนเทียน ฟังเทศน์ฟังธรรม น้อยลง แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 38.89 ระบุว่าตนเองสนใจทำกิจกรรมทั้งที่เกี่ยวข้องกับวันมาฆบูชาและวันวาเลนไทน์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 นี้เท่า ๆ กัน ขณะที่มีกลุ่มตัวอย่างประมาณหนึ่งในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 25.07 ยอมรับว่าตนเองให้ความสนใจทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวันวาเลนไทน์มากกว่า ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 22.21 ให้ความสนใจทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวันมาฆบูชามากกว่า และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 7.85 ไม่ให้ความสนใจทำกิจกรรมทั้งสองอย่างเลย