กรุงเทพฯ--17 ก.พ.--สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
สพฉ.แนะประชาชนดูแล “หัวใจ” ในวันวาเลนไทน์ เหตุสถิติการช่วยเหลือจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันสูงขึ้น ย้ำหากพบผู้ป่วยฉุกเฉินต้องรีบโทรแจ้งสายด่วน 1669 ระบุหากผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลือภายใน 30 นาที โอกาสเสียชีวิตน้อยมากเพียงร้อยละ 3
“หัวใจ” ถือเป็นอวัยวะสำคัญซึ่งทำงานหนักต่อเนื่องตลอดเวลา ดังนั้นเนื่องในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ นี้ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาดูแล“หัวใจ” เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และหลีกเลี่ยงจากอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า โรคหัวใจส่วนใหญ่ที่คร่าชีวิตคนไทยมักมีสาเหตุมาจากภาวะหัวใจขาดเลือด หรือกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (STEMI) ซึ่งแต่ละปีจะมีแนวโน้มผู้ป่วยในอัตราที่สูงขึ้นเรื่อยๆโดยในปี 2556 สพฉ.ได้รับการแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 1669 และได้ออกปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินด้วยอาการเจ็บแน่นทรวงอกจากปัญหาด้านหัวใจ 24,252 ครั้ง จากอาการหายใจลำบาก 82,364ครั้ง และจากอาการหัวใจหยุดเต้น 852 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติที่มากขึ้นกว่าปี 2555
สำหรับผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน จะเกิดจากหลอดเลือดแดงที่ทำหน้าที่นำเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจเกิดการแข็งตัว มีไขมัน หรือแคลเซียมไปเกาะที่ผนังของหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดแดงตีบแคบลง ส่งผลให้ปริมาณเลือดแดงผ่านได้น้อย โดยอาการของผู้ป่วยนั้น จะมีอาการเจ็บแน่น จุกเสียดที่หน้าอกหรือท้องส่วนบน หรือมีอาการแน่นเหนื่อยขึ้นมาทันที ร่วมกับอาการหายไจไม่สะดวก หอบเหนื่อย คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ซึ่งเมื่อมีอาการดังกล่าว ให้รีบนั่งลงพักทันที อย่าตื่นเต้นโวยวาย เพราะการใช้แรงจะทำให้เจ็บมากยิ่งขึ้น จากนั้นโทรแจ้งสายด่วน 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ สำหรับผู้ป่วยที่รู้ว่าเป็นโรคดังกล่าวจะต้องรีบอมยาใต้ลิ้นเพื่อบรรเทาอาการ
ขณะที่ พญ.อรินทยา พรหมินธิกุล แพทย์จากโรงพยาบาลมหาราช จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงการดูแลผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (STEMI) ว่า การรักษาโรคนี้จะทำได้ใน 2 กรณีคือ การทำ CPI หรือการทำบอลลูนขยายหลอดเลือด และการฉีดยาเพื่อขยายลิ่มเลือดในหัวใจ ซึ่งการรักษานั้นหากได้รับการช่วยเหลือที่เร็ว ผู้ป่วยก็จะมีโอกาสรอดสูงขึ้น และหากได้รับการรักษาพยาบาลเกิน 6 ชั่วโมง ผู้ป่วยจะมีโอกาสเสียชีวิตสูง และโอกาสที่จะกู้คืนกล้ามเนื้อหัวใจจะเป็นไปได้น้อย
“ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจะต้องมาพบแพทย์ภายในระยะเวลา 120 นาที โดย 5 นาทีแรก ผู้ป่วยจะต้องประเมินตนเองได้ว่ามีอาการของโรคและ 8 นาทีต่อมา ระบบการแพทย์ฉุกเฉินจะต้องเข้าไปนำผู้ป่วยมาส่งที่โรงพยาบาล และผู้ปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉินที่มากับรถฉุกเฉินจะต้องวินิจฉัยโรคให้ได้ ต้องให้ยาในรถฉุกเฉินทันที เพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วย และหากให้ยาเองไม่ได้ จะต้องตัดสินใจในการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่สามารถทำบอลลูนขยายหลอดเลือดได้ ซึ่งถ้ามาถึงโรงพยาบาลภายใน 30 นาที โอกาสที่ผู้ป่วยจะเสียชีวิตก็จะมีเพียงร้อยละ 3 และหากมาถึงภายใน 90 นาที โอกาสที่จะเสียชีวิตก็จะมีมากขึ้นเป็น ร้อยละ 5-6 และหากเกิน 12 ชั่วโมงจะมีโอกาสรอดชีวิตต่ำมาก” พญ.อรินทยา กล่าว
ดังนั้นวันแห่งความรักนี้อย่าลืมดูแล “หัวใจ” ของคุณให้แข็งแรง โดยวิธีง่ายๆ คือ 1.ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง 2.หลีกเลี่ยงอาหารรสหวาน มัน เค็ม เกินไป เพราะจะทำให้มีเกิดการสะสมไขมันในหลอดเลือด โดยควรรับประทานอาหารที่มีไขมันน้อย เช่น ผัก ปลา ผลไม้ และอาหารที่มีกากมาก ๆ 3. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะในบุหรี่มีสารนิโคตินและสารอื่น ๆ ที่จะทำอันตรายต่อผนังบุด้านในหลอดเลือด และยังทำให้หลอดเลือดหัวใจหดตัว4. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียดกับงาน 5.ควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วนเกินไป และ 6. ตรวจเช็คสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง แต่ถ้ามีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเป็น ๆ หาย ๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที