กรุงเทพฯ--18 ก.พ.--ทีเอ็มบี
ทีเอ็มบีเดินหน้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มบรรษัทข้ามชาติ ที่เข้ามาสร้างฐานการผลิตในไทย ล่าสุดปล่อยสินเชื่อวงเงิน 485 ล้านบาทให้ จีพีวี กรุ๊ป (GPV Group) เพื่อลงทุนในที่ดินและสร้างโรงงานใหม่ในเขตอุตสาหกรรมบางปู เตรียมรุกตลาดอาเซียน
นาย ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบี กล่าวว่า "อุตสาหกรรมไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ ของไทยมีการเติบโตและขยายตัวมาเป็นเวลาเกือบสามทศวรรษ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอุตสาหกรรมไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ มีได้เพียงแต่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศจากการสร้างรายได้ในภาคการส่งออกเพียงอย่างเดียว แต่ยังนำพาประเทศไทยสู่ความเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย ซึ่งการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2015 นั้น จะยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น เพราะการรวมตัวกันของ 10 ประเทศในภูมิภาคนี้ จะทำให้ AEC เป็นตลาดขนาดใหญ่แบบครบวงจรและมีผู้บริโภคถึงกว่า 600 ล้านคน AEC จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ผลิต ที่จะได้รับประโยชน์จากการส่งต่อสินค้า เงินทุน การบริการ การลงทุนและ แรงงานอย่างเสรี"
จีพีวี กรุ๊ป เป็นผู้นำด้านการผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรและอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลกซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศเดนมาร์ก โดยเป็นผู้ให้บริการแก่อุตสาหกรรมหลายประเภท และมีฐานการผลิตในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน การลงทุนในประเทศไทยของจีพีวี กรุ๊ป เกิดจากความต้องการเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และวิสัยทัศน์ในการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน การจัดส่งสินค้า และการจัดหาสินค้าจากทั่วโลก ซึ่งจีพีวี กรุ๊ปได้ให้ความสำคัญกับความสำเร็จของการลงทุนครั้งนี้เป็นอย่างมาก ทีเอ็มบี ในฐานะที่เป็นผู้สนับสนุนบรรษัทข้ามชาติที่กำลังมองหาการลงทุนและโอกาสในการบรรลุข้อตกลงกับคู่ค้าทางธุรกิจในประเทศ ด้วยบริการทางการเงินที่หลากหลายและเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า เชื่อว่าการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อจำนวน 485 ล้านบาท จะช่วยให้จีพีวี กรุ๊ป มีความคล่องตัวอย่างเพียงพอ สำหรับการซื้อที่ดินและการสร้างโรงงานในประเทศไทย
นาย พอล วิกโก บาร์เทลส์ ปีเตอร์เสน ประธาน จีพีวี กรุ๊ป กล่าวว่า "การเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับความยั่งยืนขององค์กร ซึ่งการขยายการลงทุน และการสร้างโรงงานใหม่ในประเทศไทยนี้จะช่วยเสริมกำลังการผลิตที่มีอยู่และจะสามารถรักษาโอกาสทางธุรกิจของเราได้ โดยจีพีวีกรุ๊ปได้เริ่มลงทุนก้อนแรกไปแล้ว 290 ล้านบาท สำหรับ การวางแผนงานทั้งหมด ซึ่งรวมถึง การซื้อที่ดิน และค่าใช้จ่าย ในการก่อสร้าง โดยโรงงานใหม่ที่เขตอุตสาหกรรมบางปูนี้ จะพร้อมดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2015"