กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--บ้านพีอาร์
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) แถลงถึงผลการดำเนินงานปี 2556 และเจาะแผนธุรกิจปี 2557 โดยนายพิเชษฐ เผยว่า ปี 2556 เป็นปีที่ธุรกิจหลักทรัพย์มีผลประกอบการที่ดีจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่สูงกว่าประมาณการมาก ส่งผลให้หลักทรัพย์บัวหลวงมีผลกำไรสูงขึ้นกว่าร้อยละ 48.88 จากปี 2555
สำหรับปี 2557 หลักทรัพย์บัวหลวงยังคงตั้งเป้าที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่า ในปี 2557 ปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะมีประมาณลดจากปี 2556 ที่มีค่าเฉลี่ยสูงถึง 50,000 ล้านบาทต่อวันเป็น 30,000 ล้านบาทต่อวัน แต่ก็เป็นโอกาสที่นักลงทุนจะจัดแบ่งการลงทุนอย่างเหมาะสม ตามระดับความเสี่ยงของแต่ละคน
“ด้วยทีมงานที่แข็งแกร่งของหลักทรัพย์บัวหลวง และเครื่องมือต่างๆที่เรามุ่งมั่นพัฒนาให้กับนักลงทุน เราเชื่อว่า หลักทรัพย์บัวหลวงจะสามารถเป็นกำลังสำคัญสำหรับนักลงทุนในการตัดสินใจในการลงทุน เพื่อที่จะสร้างผลตอบแทนได้ในภาวะที่ตลาดมีความผันผวน ทั้งจากสภาพการเมือง และเศรษฐกิจในประเทศ ตลอดจนความผันผวนที่มาจากปัจจัยต่างประเทศ” นายพิเชษฐกล่าว
นายพิเชษฐ กล่าวต่อว่า หลักทรัพย์บัวหลวง มุ่งมั่นที่จะเป็นเพื่อนสนิทของนักลงทุน หรือ Your Trusted Investment Partner ด้วยนวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนต่างๆ ที่จะทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้ง่ายขึ้น รวมถึงการจัดการอบรมด้านการลงทุนหลากหลายระดับ เพื่อที่จะสร้างสังคมการลงทุนที่มีคุณภาพ
ในขณะที่งานด้านวาณิชธนกิจ ในปี 2556 หลักทรัพย์บัวหลวงประสบความสำเร็จจากการช่วยบริษัทจดทะเบียนระดมทุน และคาดว่าจะยังคงมีต่อเนื่องในปี 2557 รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในหลายๆกรณี นอกจากนี้ ในด้านธุรกิจจัดการกองทุน หลักทรัพย์บัวหลวงยังให้บริการธุรกิจจัดการกองทุนส่วนบุคคล และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งเมื่อสิ้นปี 2556 มีมูลค่าหลักทรัพย์ภายใต้การจัดการรวมเกินกว่า 20,000 ล้านบาท
“ด้วยการที่หลักทรัพย์บัวหลวงมีหน่วยธุรกิจที่ครบวงจร ทำให้เราสามารถให้บริการลูกค้าได้หลากหลาย ทั้งการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์บุคคลและสถาบัน ธุรกิจวาณิชธนกิจในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และระดมทุนให้กับลูกค้า นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจจัดการกองทุนที่ช่วยบริหารเงินให้ลูกค้าทั้งลูกค้าบุคคลและสถาบัน ตลอดจนการบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยทุกหน่วยธุรกิจเน้นการให้บริการแบบมืออาชีพ เพื่อให้ลูกค้าได้ผลประโยชน์ที่ดีที่สุด” นายพิเชษฐกล่าว
ในส่วนของแผนธุรกิจและกิจกรรมการตลาดของธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ กล่าวว่า กลยุทธ์หลักของหลักทรัพย์บัวหลวงเน้นการสร้างนวัตกรรมทางการลงทุน โดยการสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถใช้ในการตัดสินใจในการลงทุนได้ดีขึ้น รวมไปถึงการเน้นการให้ความรู้แก่นักลงทุน เพื่อเป็นการสร้างสังคมการลงทุนที่มีคุณภาพ ซึ่งหลักทรัพย์บัวหลวงยังคงเป็นผู้นำในการขยายฐานนักลงทุน ที่ได้พิสูจน์แล้วจากการเข้าร่วมงานกิจกรรมการตลาดต่างๆ ที่สามารถเป็นผู้นำในการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยความร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ บริษัทแม่ที่ผู้ลงทุนให้ความไว้วางใจในความมั่นคงแข็งแกร่ง จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ที่เริ่มมีเงินเก็บและพร้อมจะศึกษาและลงทุนเพื่อเป็นการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว
“ในปีนี้เราจะนำนวัตกรรมด้านการลงทุนใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ต่อความต้องการของนักลงทุน ซึ่งคาดว่าจะทำให้ลูกค้าของเราลงทุนได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น ระบบการวิเคราะห์ผลงานการลงทุนของนักลงทุนแต่ละคนที่จะเป็นเหมือนการอ่านลายมือของท่านว่าท่านลงทุนอย่างไรและสามารถที่จะปรับปรุงด้านไหนได้อีกบ้างเป็นต้น และในส่วนของกิจกรรมสำหรับนักลงทุนในปีนี้ เรายังคงให้ความสำคัญกับมุมมองว่าการบริหารเงินออมควรเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ของผู้คน และไม่ใช่เรื่องยากหากคุณได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องเหมาะสม ตัวอย่างของกิจกรรมในปีนี้ที่เริ่มแล้วคือ การสร้างหลักสูตรการเรียนรู้อย่างเป็นระบบและกิจกรรมต่างๆ ที่ “Bualuang Investment Station สถานีการเรียนรู้การลงทุน” ที่หลักทรัพย์บัวหลวงสาขาซิลลิคเฮาส์ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้สนใจด้านการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และอีกกิจกรรมที่กำลังจะเริ่มคือการร่วมมือกับร้านโอบองแปง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ด้วยการเปิดโอกาสให้นักลงทุนและผู้สนใจทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูลและความรู้เรื่องการลงทุนได้ง่ายขึ้นผ่าน Kiosk ของหลักทรัพย์บัวหลวงในสาขาของโอบองแปงชั้นนำ ซึ่งจะทำให้ภาพลักษณ์เกี่ยวกับการลงทุนเป็นเรื่องที่เข้าถึงง่าย ในบรรยากาศสบายๆ” นายบรรณรงค์กล่าว
สำหรับกิจกรรม The Stock Master ที่เป็นกิจกรรมการสร้างสังคมนักลงทุนที่มีคุณภาพ ในปีนี้ ก็จะยังมีต่อเนื่อง โดยอาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เข้มข้นขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้สนใจด้านการลงทุนที่ต้องการ “รู้จริงกับสนามจริง” ตามแนวคิดของโครงการ