กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--โฟร์ พี.แอดส์
นายแพทย์ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวหลังเป็นประธานเปิดงานการประชุมวิชาการ ครั้งที่ 25 ปี 2557ในหัวข้อ “2014 : Vision to ASEAN Community” ซึ่งจัดขึ้นที่โรงพยาบาลราชวิถีว่า ปัจจุบันประเทศต่างๆในกลุ่มอาเซียนมีความตื่นตัวและให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมทางด้านการแพทย์เพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่จะมาถึงในปี 2558 นี้ ในส่วนของประเทศไทย กรมการแพทย์ในฐานะที่เป็นองค์หลักด้านการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศ มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องความร่วมมือระหว่างอาเซียน โดยเฉพาะการจัดประชุมวิชาการเพื่อสนับสนุนให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ทางการแพทย์ระหว่าง บุคลากรทางการแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โรงพยาบาลราชวิถีสังกัดกรมการแพทย์ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทุกปี รวมทั้งนโยบายในการรับนักเรียน นักศึกษาจากต่างประเทศ และระดับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเข้ามาเรียนรู้ด้านวิชาการ เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ของไทย เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่กว้างขวางหลากหลายมากขึ้น ตามข้อผูกพันของสมาชิกอาเซียนที่จะร่วมกันผลักดันและส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จากการรวมตัวของประเทศอาเซียน
การจัดประชุมวิชาการปี 2557ในหัวข้อ “2014:Vision to ASEAN Community”ครั้งนี้ เปรียบเสมือนเวทีของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างนักวิชาการด้านการแพทย์ ที่มีการรวบรวมผลงานทางด้านการวิจัย งานวิชาการ องค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปต่อยอดและใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ และยังมีการจัดแสดงผลงานและนวัตกรรมทางการแพทย์ที่วิจัยและพัฒนาโดยฝีมือคนไทย ไว้อย่างหลากหลาย เช่น เครื่องวัดปริมาตรอากาศขณะหายใจออกแบบดิจิตอลและเตือนการหลุดของท่อเครื่องช่วยหายใจชนิดความดันที่สามารถใช้ประโยชน์ในการแสดงผลค่าสังเกตการณ์ของเครื่องช่วยหายใจออกมาเป็นตัวเลข เครื่องวัดอัตราการไหลของน้ำปัสสาวะที่สามารถใช้ในการวินิจฉัยโรคที่เกิดกับกระเพาะปัสสาวะของผู้ป่วยในโรงพยาบาล อุปกรณ์เคลื่อนย้ายทารกแรกเกิดและควบคุมอุณหภูมิ รวมทั้งผลงานการออกแบบอุปกรณ์ทดสอบเครื่องส่องไฟรักษาภาวะทารกตัวเหลือง เป็นต้น
“นอกจากนี้ยังได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลราชวิถีและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เพื่อให้เกิดความร่วมมือทางด้านวิชาการ ด้านการเรียนการสอนในหลักสูตรวิศวกรรมชีวการแพทย์และสาขาที่เกี่ยวข้อง งานวิจัย การพัฒนาบุคลากร รวมทั้งการสร้างนวัตกรรมทางเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์”นายแพทย์ประพนธ์กล่าว
ด้าน นายแพทย์อุดม เชาวรินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลราชวิถี มีอุปกรณ์ทางการแพทย์และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ ในการให้บริการผู้ป่วย ทุกสาขาโรค ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศ ด้านการรักษาและดูแลสุขภาพของประชากร การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯในครั้งนี้ ทำให้เกิดการร่วมมือทางด้านวิชาการ ระหว่างโรงพยาบาลราชวิถีและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของทั้ง 2 องค์กร ที่จะได้ร่วมกันพัฒนา สร้างงานวิจัย นวัตกรรม อุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ หรือสิ่งที่เป็นประโยชน์ทางด้านการแพทย์ ให้มีความปลอดภัย พร้อมใช้และเพียงพอ เพื่อช่วยลดการนำเข้าเครื่องมือและอุปกรณ์ทางด้านการแพทย์จากต่างประเทศ รวมทั้งประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ โดยโรงพยาบาลราชวิถีได้ให้การส่งเสริมสนับสนุนด้านการเรียนการสอนในหลักสูตรวิศวกรรมชีวการแพทย์และสาขาที่เกี่ยวข้อง เพื่อการพัฒนางานวิจัยและสร้างนวัตกรรมทางด้านการแพทย์ ด้านเครื่องมือ อุปกรณ์และนวัตกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพของบุคลากรในโรงพยาบาลราชวิถี และนักศึกษาสาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์ เมื่อจบการศึกษาแล้วจะกลายเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพสามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปพัฒนาวิชาชีพและสังคมต่อไป