“บ๊วย-เชษฐวุฒิ” ชีวิตครอบครัวในวันที่ก้าวพลาด

ข่าวบันเทิง Thursday February 20, 2014 16:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--สตาร์แม็กซ์ เป็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับ กรณี “บ๊วย-เชษฐวุฒิ” หย่าร้าง “ตุ๊ก-ชนกวนันท์” ซึ่ง ณ วันนั้นฝ่ายชายอย่างบ๊วย เลือกที่จะอยู่นิ่งๆ มาวันนี้ “หนุ่มบ๊วย” ขอเปิดใจในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทาง “ช่อง 2 สตาร์แม็กซ์” แซ่บสะใจคนไทย ว่าเห็นตัวเองมากขึ้น ได้บทเรียนราคาแพงจากวันนั้น ยอมรับทุกคำวิจารณ์ในกับชีวิตครอบครัวในวันที่ก้าวพลาด และพร้อมรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้นร้อยเปอร์เซ็น ชีวิตครอบครัวที่ล้มเหลว ? “ผมเข้าใจทุกคนมากเลย ที่ผ่านมาผมทำชีวิตตัวเองทั้งหมด ผมบังคับวงมาลัยชีวิตผมเอง ขับเองแล้วก็มีคนนั่งข้างๆ พูดให้เลี้ยวขวาซึ่งผมก็หักพวงมาลัยซึ่งผมควบคุมอยู่นะเลี้ยวขวา พอมาถึงเลี้ยวขวามันไปผิดทาง ผมก็บอกทำไมคุณมาบอกให้ผมเลี้ยวขวาล่ะ ทั้งที่ผมเป็นคนหักพวงมาลัยมาเอง โดยสมัครใจเอง และมีอะไรบางอย่างที่คนข้างๆ พูด พูด พูด จนแบบช่าง แ-ง แล้ว จนหักพวงมาลัยคว่ำมันเลย พัก แ-ง เลย แล้วผมก็โทษว่ารถคว่ำเพราะคนข้างๆ แล้วพอผมออกมาเสร็จปุ๊บ คนมามุงเต็มเลย สื่อมวลชนคนในเน็ต คนที่รู้ข่าว แล้วผมก็ไปต่อไม่ได้ ผมก็บอกว่าที่ผมไปต่อไม่ได้เพราะพวกคุณมามุงดูผม ผมเห็นว่าแต่ก่อนชีวิตผมไม่พยายามรับผิดชอบอะไรเลย แล้วไปต่อไม่ได้ก็โทษคนอื่น ซึ่งจริงๆ แล้ว ผมเป็นคนควบคุมพวงมาลัยชีวิตตัวเอง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิต เรื่องราวจะเป็นยังไง ผมรับผิดชอบมันร้อยเปอร์เซ็น” พูดว่ารับผิดชอบในวันที่ทุกอย่างพัง ? “ผมไม่ได้เห็นตัวเองครับ ในมุมของผม ผมถูกมากนะ ผมว่าผมทำแบบนี้ผมถูกมากเลย สถานการณ์มันกดดัน มันทำให้ผมต้องทำแบบนี้ มันจริงมากที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ มันจริงมากที่ผมต้องหย่า มันจริงมากที่ผมโทษคนอื่น” ฟังคนอื่น ? “ไม่ใช่ว่าผมไปฟังคนอื่นแล้วมามีผลกับชีวิตผมเอง ผมฟังตัวเองฟังตัวเองว่าแบบ สมมุติว่ามีคนพูดอะไรบางอย่าง ผมจะทำไม่ทำมันก็เป็นสิทธิ์ของผม ต่อให้มีคนว่าผม บ่นผม ถ้าผมไม่ได้ตัดสินใจทำอะไรมันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเพราะผมโทษคนอื่น เพราะคนอื่นพูดมากตลอด เพราะคนอื่นพูดจาไม่ดีทำให้ผมรู้สึกไม่ชอบ ผมก็เลยไป ผมก็เลยทำ ผมเห็นว่าบ้วย คนที่มันไม่เห็นว่าตัวเองถือพวงมาลัยชีวิต เป็นบ้วยที่ยังเป็นเด็กอยู่ พอเห็นแล้วทุกอย่าง เห็นว่าผมเองเป็นคนกุมบังเหียนชีวิตตัวเอง แล้วตัวเองทำเองทั้งหมด ตอนนี้ที่บอกว่ารับผิดชอบ ไม่ว่าใครจะพูดอะไรผมรับหมด” ชีวิตตอนนั้นอยู่บนความประมาท และขากแผนการ ? “ผมไม่ฟังใคร” เป็นแบบนี้มาตลอด ? “มันสั่งสมกลมสันดานของผมเนี่ย(หัวเราะ) มั่นสั่งสม ผมเป็นตัวผมเอง คือผมเนี่ย ผมมีงานที่ยอดเยี่ยมเลย หาเงินได้เดือนละล้านเลย มีบ้านไร่หนึ่ง มีสระว่ายน้ำ มันภาคภูมิใจมากเลยมันทำให้ผมไม่ฟังใคร พูดอะไรก็ไม่ฟัง ผมอยากให้ชีวิตผมก็ตามใจตัวผมเอง แล้วก็ไม่เห็นว่าผลกระทบที่เกิดจากการกระทำของตัวเองมันจะเป็นยังไง” ตามใจตัวเองทั้งที่ตอนนั้นก็มีเมีย มีลูก ? “กำลังจะหมายถึงว่าผมทำผิดศีล? แต่จริงๆที่ผมจะบอกคือในชีวิตผม ผมไม่เคยฟังใคร ไม่ฟังใคร สมมุติผมทำงานอยู่แล้วมีคนบอกว่าบ้วยต้องทำแบบนี้ ไม่ ผมมั่นใจตัวเอง คือปากว่าโอเค ฟังๆ แต่จริงๆ มันไม่ได้ฟัง” ได้บทเรียน ? “ผมรู้สึกขอบคุณประสบการณ์อันนี้เลยนะ มันทำให้ผมได้สติ ไม่ว่าคุณผู้ชมจะมองยังไง หรือมองว่าผมผิดศีล หรือมองผมเป็นคนชั่ว ไม่เป็นไรครับ ผมยอมรับมันทั้งหมด แต่จะบอกว่าชีวิตผมมีหลายด้าน คนก็มองผมแค่ด้านนี้ อยากฟังความชั่วของผมอีกไหม ผมมีเงินเยอะ แต่ผมไม่ดูแลพ่อแม่ให้มนยอดเยี่ยม ผมก็เห็นตัวเองว่าเออ กูเอาแต่ตัวเองว่ะ เห็นแก่ตัว ทุกอย่างมารู้ที่หลังหมด พอตึ้ง!! อุบัติเหตุ ช๊อค ตั้งสติตัวเอง ตั้งสติอยู่ปีนึง ทำไงดี ไปไหนต่อ อาชีพพิธีกรแต่ไม่กล้าเจอหน้าผู้คน” โตแต่ตัว ? “ครับ” ติดตามการบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ได้ทางช่อง 2 สตาร์แม็กซ์ แซ่บสะใจคนไทย ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 7.00/11.00/17.00/20.00/23.00 น.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ