กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--อินโดรามา เวนเจอร์ส
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ผู้ผลิตในห่วงโซ่โพลีเอสเตอร์ชั้นนำระดับโลก รายงานผลประกอบการยอดเยี่ยมอีกปีแม้ว่าจะเป็นปีที่ยากลำบาก ทำรายได้รวม7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2555 โดยในไตรมาสที่ 4 มีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ กำไรหลักรวมก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) มีการเติบโตปานกลางในอัตราร้อยละ 4 ในปี 2556อยู่ที่ 487 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่มีการฟื้นตัวร้อยละ 30 ในไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 127 ล้านเหรียญสหรัฐจาก 101 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงไตรมาสเดียวกันของปี 2555 ธุรกิจผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มหรือ HVA ทั่วโลกและธุรกิจ Asian commodity มีผลการดำเนินงานที่ดี โดยมี Core EBITDA รวมเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 249 ล้านเหรียญสหรัฐจาก 157 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2555 แม้ว่าสถานการณ์ PTA ในเอเชียยังอยู่ในคงมีอุปทานส่วนเกินและมีกำไรคงที่ ในขณะที่ธุรกิจ Western commodity มี EBITDA ลดลงในปี 2556 ร้อยละ 22 เนื่องมาจากการครบกำหนดปรับปรุงและเปลี่ยน catalyst เป็นเวลา 2 เดือนตามแผนของโรงงานผลิตออกไซด์และไกลคอลในสหรัฐอเมริกา รวมทั้งการหยุดผลิตเนื่องจากเครื่องจักรขัดข้องที่โรงงานผลิต PTA ใน Rotterdam
นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าว “แม้ว่าปี 2556 จะเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับอุตสาหกรรม แต่กลยุทธ์การสร้างความแตกต่างและกลยุทธ์ต้นทุนต่ำ ทำให้เรามีผลกำไรที่ดีกว่า เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน ปริมาณการผลิตและการกระจายธุรกิจตามภูมิภาคของบริษัท ยังคงส่งผลให้เรามีการดำเนินงานที่โดดเด่นเหนือบริษัทอื่นในอุตสาหกรรม เราได้ขยายการบูรณาการในแนวนอนเพิ่มเติมด้วยการเข้าซื้อกิจการและพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม (HVA) ซึ่งให้ผลตอบแทนอย่างดีเยี่ยม โดยผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 19 ของการผลิต ร้อยละ 27 ของรายได้ และร้อยละ 34 ของ Core EBITDA ในปี 2556 การเข้าซื้อกิจการ FiberVisions ในปี 2555 ทำให้บริษัทกลายเป็นผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย และการเข้าซื้อกิจการ PHP Fibers ในประเทศเยอรมันเมื่อเร็วๆนี้ ส่งเสริมสถานภาพการเป็นผู้นำในด้านตลาดเส้นใยแรงดึงสูงที่ใช้สำหรับภาคธุรกิจถุงลมนิรภัยและเส้นใยสำหรับยางรถยนต์” นายโลเฮียกล่าว
ในด้านแผนการขยายธุรกิจในอนาคต “บริษัทยังคงมองหาการลงทุนใหม่ๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของเรา และพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ HVA อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มกำไรโดยรวม เรายังคงดำเนินกลยุทธ์การบูรณาการในแนวดิ่งเพื่อขยายห่วงโซ่โพลีเอสเตอร์แบบครบวงจรไปจนถึงพาราไซลีน ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีกำไรสูงขึ้นและมีเสถียรภาพมากขึ้นตลอดวัฏจักรอุตสาหกรรม” นายโลเฮียกล่าวสรุป
คณะกรรมการบริษัทมีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2556 ในอัตราหุ้นละ 0.28 บาท ซึ่งได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท