กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ หรือ QTC ประกาศงบปี56 รายได้ 811.68 ล้านบาท แม้จะลดลง 16% เหตุผลพวงทางเศรษฐกิจ และ สถานการณ์ทางการเมือง ส่งผลการประมูลงานภาครัฐ และ การส่งมอบงาน ชะลอต่อเนื่อง แต่ใจป้ำจ่ายปันผล 0.21 บาท ด้าน “ พูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ” ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ QTC ระบุ เตรียมลุยประมูงานภาครัฐต่อกว่า 3,000 ล้านบาท พร้อมเล็งวางแผนกลยุทธ์ทีมการตลาด สั่งบุกตลาดงานภาคเอกชน และ ต่างประเทศมากขึ้น ชี้ ล่าสุดอยู่ระหว่างศึกษาตลาดประเทศ อาทิ ดูไบ และ ญี่ปุ่น หวังสร้างมูลค่าเพิ่ม คาดการณ์ปีนี้ รายได้แตะ 1,100 ล้านบาท
นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ หรือ QTC ผู้ผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในรอบปี 2556 ว่า บริษัทฯมีรายได้รวม 811.68 ล้านบาท ซึ่งลดลง 16 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้ 969.70 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 74.51 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 118.40 ล้านบาท
ทั้งนี้ สาเหตุที่ผลการดำเนินงานปรับตัวลดลง เนื่องจากการชะลอตัวของภาคเศรษฐกิจ รวมถึงสถานการณ์การเมือง ที่ ส่งผลกระทบต่อการประมูลงานของภาครัฐ ที่ต้องเลื่อนการประมูลงานออกไปในช่วงปีที่ผ่านมา และจากปัจจัยดังกล่าว ก็ส่งผลกระทบต่อการชะลอในการส่งมอบหม้อแปลงไฟฟ้าของบริษัทฯออกไปเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงมีนโยบายจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานปี 2556 ในอัตราหุ้นละ 0.21 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 29 เม.ย. 2557 กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 2 พ.ค. 2557 ปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลวันที่ 6 พ.ค. 2557 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 พ.ค. 2557
“แม้ว่าผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมาจะไม่เป็นไปตามที่บริษัทฯคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยทั้งเศรษฐกิจ และ การเมืองที่เข้ามากระทบ แต่บริษัทฯก็ยังคงมนโนบายในการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น อย่างต่อเนื่องอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงอยากให้ผู้ถือหุ้น และ นักลงทุน ทุกท่าน มั่นใจในศักยภาพการบริหารงาน และ ความแข็งแกร่งด้านฐานะทางการเงิน ของบริษัทฯได้ ” นายพูลพิพัฒน์ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี2557 นั้น นายพูลพิพัฒน์ กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทฯเตรียมเข้าประมูลงานภาครัฐ คิดเป็นมูลค่า ประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถคว้างานประมูลดังกล่าวได้ ประมาณ 10-15% ของมูลค่ารวมที่เข้าประมูลทั้งหมด จากปัจจุบันที่บริษัทฯมีมูลค่างานในมื (Backlog) ที่ 300 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้ภายในเดือนเมษายนนี้
ขณะที่ งานภาคเอกชน บริษัทฯจะพยายามเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้ได้ 15-20% และเน้นทำการตลาดในต่างประเทศให้มากขึ้น โดยช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้เข้าไปศึกษาตลาดในประเทศดูไบ และญี่ปุน แล้ว เนื่องจากมองว่า ประเทศดังกล่าวยังมีดีมานความต้องการหม้อแปลงไฟฟ้า อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม การเน้นกลยุทธ์การเจาะตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ รวมทั้งบริษัทฯยังให้ความสำคัญกับงานด้านบริการ ให้ครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศ นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนเพิ่มกำลังการผลิต ซึ่งในปีนี้ ได้จัดสรรงบประมาณการลงทุน เพื่อขยายกำลังการผลิต ไว้ประมาณ 60 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ประมาณ 30% โดยงบประมาณหลักจะอยู่ที่ โรงงานสร้าง Tank Fabrication ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากปี 2556
พร้อมทั้ง มีแผนพัฒนาด้านทรัพยากรมนุษย์ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ให้ลดเวลาความสูญเสียในการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมาย ZERO DEFECT และ บริษัทฯมีแผนบริหารองค์กรอย่างยั่งยืน ที่ให้ความสำคัญกับนโยบายคืนกำไรสู่สังคม สิ่งแวดล้อมและการส่งเสริมกิจกรรมด้าน CSR ในปี 2557 และจากปัจจัยแผนกลยุทธ์ของบริษัทฯ ส่งผลให้บริษัทฯประมาณการณ์อัตราการเติบโตของรายได้ในปีนี้ที่ระดับ 1,100 ล้านบาท
“ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ จะมาจากภาครัฐ 30% ตลาดต่างประเทศ20% และ เอกชน/โครงการ รวม 40-50% ซึ่งจะเห็นได้ว่าสัดส่วนรายได้หลักยังคงมาจากภาครัฐ ดังนั้นในปีนี้ บริษัทฯมีผนที่จะกระจายสัดส่วนรายได้โดยจะเน้นหลักไปยังตลาดภาคเอกชน และ ต่างประเทศ ให้มากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงในเรื่องการเข้าประมูลงาน หากเกิดสถาน การณ์ทางการเมืองไม่เอื้ออำนวย ” นายพูลพิพัฒน์ กล่าว