กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--ปตท.
สโมสรฟุตบอล ปตท.ระยองทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ปรับทัพครั้งใหญ่เพื่อสู้ศึกโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก เร่งจัดกิจกรรมชวนชาวระยองและแฟนบอล รวมพลังใจเชียร์ นักแข่งและเพื่อขอบคุณที่สนับสนุนทีมอย่างต่อเนื่องจนผงาดสู่ไทยลีกในฤดูกาล 2014 อย่างเต็มภาคภูมิ
ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และ พล.ต.ท. ดร. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้จัดการสโมสรฟุตบอล ปตท.ระยอง พร้อมด้วย, ปีเตอร์ วิธ หัวหน้าผู้ฝึกสอน, ร่วมเป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวสโมสรฟุตบอล ปตท. ระยอง โดยมี ทีมงานผู้ฝึกสอน, ผู้เล่น นายปิยะ ปิตุเตชะ (นายกฯ ช้าง) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง และแฟนคลับ ให้เกียรติร่วมงานจำนวนมาก ณศูนย์การค้าแหลมทอง จังหวัดระยอง โดยมี
ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. ผู้สนับสนุนหลักของสโมสร กล่าวว่า “ผมขอบคุณแฟนคลับชาวระยองทุกท่านที่ให้การสนับสนุนสโมสรฟุตบอล ปตท. ระยอง จนก้าวขึ้นสู่การแข่งขันโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2014 ได้ตามเป้าหมายที่เราได้ตั้งไว้ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสโมสร และขอแสดงความยินดีและชื่นชมในความสามารถของนักฟุตบอล ทีมงานผู้ฝึกสอน รวมทั้งผู้บริหารทุกคนที่ผลักดันให้ทีมประสบความสำเร็จในครั้งนี้ เรามีนโยบายอย่างชัดเจนที่จะสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับชาวระยอง ในฐานะที่เป็นสมาชิกรายหนึ่งของชุมชน เนื่องจาก ปตท.และบริษัทในกลุ่มปตท. มีฐานการผลิตอยู่ในจังหวัดระยองเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมในจังหวัด สามารถเป็นสื่อกลางช่วยสร้างความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน กระชับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและชุมชนระยอง ตลอดจนสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทในกลุ่ม ปตท. และจุดประสงค์หลักสำคัญ คือ เราต้องการเห็น “สโมสรฟุตบอล ปตท. ระยอง ก้าวเป็นทีมชั้นนำในไทยพรีเมียร์ลีก และเป็นที่รักของชาวระยองทุกคน”
การที่สโมสรจะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องได้รับการสนับสนุนอย่างดีจาก แฟนคลับ หรือผู้เล่นคนที่ 12 ในปีนี้ สโมสรได้จัดกิจกรรมเพิ่มสีสันการชมฟุตบอลกับทีมปตท. ระยอง ตลอดฤดูกาล กิจกรรมแรก คือ การแข่งขันโตโยต้าพรีเมียร์ลีกนัดแรกกับทีมสิงห์ท่าเรือในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ โดยสโมสรจัดรถบัสให้แฟนคลับตามไปเชียร์ติดขอบสนามแพท สเตเดียม ที่กรุงเทพฯ รวมทั้งจัดปาร์ตี้การถ่ายทอดสดจอยักษ์ให้ชมร่วมกันในจังหวัดระยองที่ “ซู้ด (ZOOD)” ร้านอาหารชื่อดังฟรี ส่วนวันที่ 8 มีนาคมที่จะเปิดบ้านสนาม พีทีที สเตเดี้ยม พบกับทีมเชียงราย ยูไนเต็ด ขอเชิญชวนแฟนคลับและชาวระยองร่วมแสดงพลังเชียร์ทีม ปตท. ระยอง กันให้เต็มสนาม ร่วมไปกับกิจกรรมสนุกๆ ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย และการถ่ายทอดสดผ่านจอ LED ขนาดยักษ์ให้ชมอย่างชัดเจนเต็มตาที่ด้านหน้าของสนาม โดยสโมสรมีกำหนดจะจัดกิจกรรมสร้างสีสีนในการแข่งขันที่สนาม พีทีที สเตเดียม ทุกนัด
พล.ต.ท.ดร.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้จัดการสโมสรฟุตบอล ปตท.ระยอง กล่าวถึงแนวทางในการทำทีมเพื่อสู้ศึก โตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014 ว่า “ก่อนอื่นผมขอขอบคุณแฟนคลับและชาวระยองทุกคนที่ให้การสนับสนุนและมีส่วนสำคัญทำให้ทีมก้าวสู่ลีกสูงสุดของประเทศได้สำเร็จ นับเป็นสโมสรฟุตบอลแรกในจ.ระยองที่สามารถก้าวสู่ไทยพรีเมียร์ลีกซึ่งถือเป็นงานที่หนักในปีนี้ เรามุ่งมั่นให้ทีมเป็น Power of Rayong หรือ พลังเพลิง พลังระยอง ที่ชาวระยองทุกคนมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของและสร้างความภาคภูมิใจร่วมกันอย่างแท้จริง โดยเริ่มจากการใช้คำขวัญประจำฤดูกาล 2014 ที่มาจากการร่วมประกวดจากแฟนคลับ คือ พลังเพลิงคว้าชัย พลังใจชาวระยอง
สำหรับนโยบายการทำทีมในฤดูกาล 2014 มีการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างเพื่อสร้างทีมให้แข็งแกร่งที่สุด ด้วยงบประมาณในการทำทีมกว่า 100 ล้านบาท ภาพรวมทุกส่วนของทีมในตอนนี้ก็ถือว่าพร้อมเต็มที่ โดยตั้งเป้าหมายฤดูกาล 2014 นี้ ไว้ว่าต้องจบฤดูกาลในอันดับกลางตารางของลีก เริ่มต้นจากหัวหน้าผู้ฝึกสอน เราได้ดึงตัว ปีเตอร์ วิธ อดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทยเพียงผู้เดียวที่สร้างประวัติศาสตร์นำทีมชาติไทยเข้าสู่รอบสุดท้ายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย ด้านผู้เล่น นอกจากการเก็บผู้เล่นตัวหลักจากฤดูกาลก่อนไว้ เรายังได้เซ็นสัญญาผู้เล่นฝีเท้าดีทั้งไทยและต่างชาติเข้าเสริมทีมในหลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น รูฟินโญ รูโฟ ซานเชส (อินเตอร์ เดอ มาดริด), ธงชัย โพธิ์นาง (แอร์ฟอร์ซ), ลี ซอง ยอง (เปอร์ซิราม ราจา), สุจินต์ นาคนายม (บีอีซี เทโรศาสน), ไพฑูรย์ เทียบมา (โอสถสภา), เทรนท์ แม็คคลีนาฮาน (ซิดนีย์ เอฟซี) และ ราฟาเอล เวลลิงตัน ผมมั่นใจว่าทั้งหมดเป็นขุมกำลังที่แข็งแกร่งไม่เป็นรองใคร รวมถึงปรับรูปแบบการฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาทีมเวิร์คและความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่น”
สโมสรยังได้ใช้งบประมาณอีก 60 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงสนาม พีทีที สเตเดียม สนามเหย้าของสโมสรให้กลายเป็นสนามที่ดีที่สุดในภาคตะวันออก ตามมาตรฐาน AFC โดยมีจุดเด่น คือ ไม่มีลู่วิ่ง จึงสามารถชมการแข่งขันได้อย่างใกล้ชิดเต็มอิ่มกว่า ด้วยจำนวนที่นั่งถึง 12,000 ตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ขณะที่ความพร้อมในเรื่องของผู้เล่น ปีเตอร์ วิธ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม กล่าวว่า “ความพร้อมของทีมตอนนี้ อยู่ในระดับ 100% เต็ม เราได้เสริมทัพผู้เล่นในตำแหน่งที่ต้องการ ต้องขอขอบคุณผู้บริหารสโมสรที่สนับสนุนอย่างเต็มที่ ที่สำคัญจากผลการอุ่นเครื่องในหลายๆ นัด ผู้เล่นหลายคนทำผลงานได้ตามแท็กติก ผมค่อนข้างพอใจกับฟอร์มของทีมโดยรวม ทีมเราพร้อมจะประเดิมนัดเปิดสนามที่ไปเยือน สิงห์ท่าเรือ ในวันที่ 23 ก.พ.นี้ และเชื่อว่า ทีม ปตท. ระยอง ในฤดูกาลนี้ จะสามารถสร้างฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นได้อย่างแน่นอน”
ในส่วนของ กีรติ เขียวสมบัติ ศูนย์หน้าตัวเก่งของทีม ก็ได้กล่าวถึงความมั่นในการลงสู้ศึก โตโยต้าไทยพรีเมียร์ ลีก ในฤดูกาล 2014 ว่า “จากการที่ได้ฝึกซ้อม และลงอุ่นเครื่องกับทีมมาได้ระยะหนึ่ง ผมคิดว่าแม้ฤดูกาลที่จะถึงนี้ทีมมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องตัวผู้เล่นพอสมควร แต่นักเตะที่เข้ามาเป็นนักเตะที่มีความสามารถสูง บวกกับโค้ชที่มีความสามารถอย่าง ปีเตอร์ วิธ ผมมั่นใจว่า ปตท.ระยอง จะไม่เป็นรองใครใน ไทยลีกแน่นอนครับ”
เช่นเดียวกับ อดิศักดิ์ ศรีกำปัง อีกหนึ่งศูนย์หน้าชาวระยองตัวเก่งของทีม กล่าวแสดงความมั่นใจว่า “ด้วยศักยภาพของทีมงานผู้ฝึกสอน ผู้เล่นในทีม ผมมั่นใจว่าเราสามารถสู้ทุกทีมในไทยพรีเมียร์ลีกได้ รวมทั้งทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน ในฐานะชาวระยอง ผมอยากเชิญชวนพี่น้องชาวระยอง ทุกคน มาให้กำลังใจเชียร์ ปตท.ระยอง กันเยอะๆ ครับ”
ขณะที่นักเตะใหม่อย่าง รูฟินโญ รูโฟ ซานเชส ชาวสเปน ที่สโมสรเซ็นสัญญาคว้าตัวมาจาก สตอลเลียน เอฟซี สโมสรในลีกประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวว่า “ผมดีใจมากที่สโมสรตัดสินใจเซ็นสัญญาให้ผมเข้าร่วมทีม ตอนนี้สภาพร่างกายพร้อมเต็มที่สำหรับฤดูกาลใหม่ ผมสัญญาว่า จะทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อมอบความสุขให้กับแฟนบอลชาวระยองทุกคนครับ”
ผลงานการแข่งขันนัดอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่นของสโมสร ปตท.ระยอง : แพ้จุดโทษ อาร์มี่ ยูไนเต็ด 11-10 (หลังจากเสมอในเวลา 1-1) และชนะ เพื่อนตำรวจ 3-0 คว้าอันดับ 3 ในศึก ช้าง ชลบุรี อินวิเทชั่น, ชนะ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-0 ในศึกการกุศลหารายได้ให้สมาคมกีฬาจังหวัดระยอง, ชนะ อาร์แบค เอฟซี 2-0, ชนะ แดกู เอฟซี ทีมจาก เค-ลีก ประเทศเกาหลีใต้ 3-2 และเสมอ ชุนนัม ดรากอน ทีมจาก เค-ลีก ประเทศเกาหลีใต้ 2-2 ซึ่งถือว่าเป็นผลงาน ในระดับดีทีเดียว