กรุงเทพ--5 ก.พ.--กปส.กทม.
ตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าว การติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิดเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรของกรมตำรวจ ขาดการดูแลรักษาให้ใช้งานให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผู้บริหารกรุงเทพมหานครปฏิเสธความรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง นั้น
นายบุญญวัฒน์ ทิพทัส ผู้อำนวยการสำนักงานการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่า โทรทัศน์วงจรปิดที่เปิดใช้งานสำหรับใช้ในการควบคุมการจราจรในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานคร (ไม่นับรวมของทางด่วนพิเศษ) ขณะนี้มีทั้งสิ้น 60 แห่ง ทั้งหมดได้ติดตั้งจอภาพและเครื่องควบคุมกล้องโทรทัศน์ที่อยู่ที่ศูนย์ควบคุมการจราจร ๖บก.02) ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ถนนศรีอยุธยา ตรงข้ามโรงพยาบาลสงฆ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมและใช้งานอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้มีโทรทัศน์วงจรปิดจำนวน 16 แห่ง ติดตั้งโดยงบประมาณจากรัฐบาลจัดสรรให้แก่กรมตำรวจ โดยตำรวจเป็นผู้กำหนดข้อกำหนดเฉพาะ (เสปค) ประมูล คุมงาน ตรวจรับงาน ใช้งานและดูแลบำรุงรักษาเองทั้งหมด เพราะเป็นทรัพย์สินของตำรวจ ขณะนี้เปิดใช้งานแล้ว และมีโทรทัศน์วงจรปิดจำนวน 44 แห่ง ติดตั้งโดยงบประมาณของกทม.60% และได้รับอุดหนุนจากรัฐบาล 40% กทม. โดยสำนักการโยธา เป็นผู้ประมูลและทำสัญญาซื้อขาย การดำเนินงานด้านการกำหนดจำเพาะ (เสปค) ประมูลและรับตรวจงาน กทม.เป็นผู้ดำเนินงานร่วมกับผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาลทุกขั้นตอน ขณะนี้เปิดใช้งานแล้ว โดยมีสัญญาให้กับบริษัทผูติดตั้งทำการบำรุงรักษา 2 ปี ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างสัญญาบำรุงรักษา พร้อมทั้งเสนอให้ยืนราคาค่าซ่อมไว้ถึง 5 ปี เพื่อสามารถจ้างซ่อมบำรุงต่อไปอีก โทรทัศน์วงจรปิดส่วนนี้ถือเป็นทรัพย์สินของกทม. มอบให้ตำรวจใช้งานอยู่ที่ศูนย์ควบคุมจราจร (บก.2) โทรทัศน์วงจรปิดทั้ง 44 เครื่องนี้ ถ้าเครื่องใดขัดข้อง ตำรวจสามารถแจ้งให้บริาทมาซ่อมบำรุงได้ทันที หากผู้ขายไม่ปฏิบัติตามสัญญา กทม. สามารถดำเนินการลงโทษตามที่สัญญากำหนดไว้ ซึ่งตามสัญญาซื้อขายครั้งนี้ได้ให้บริษัทปรับปรุงโทรทัศน์วงจรปิด 16 แห่งของตำรวจให้ใช้งานร่วมกันอีกด้วย
ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณี กทม.ปฏิเสธความรับผิดชอบในเรื่องค่าซ่อมบำรุงนั้น ข้อเท็จจริง กทม.จ่ายค่าซ่อมบำรุงโทรทัศน์วงจรปิดล่วงหน้าแล้ว 2 ปี นอกจากนี้ได้จ่ายค่าซ่อมบำรุงทรัพย์สินของกทม.ตลอดมา รวมถึงรถยนต์ต่างๆ ที่มอบให้ตำรวจไว้ใช้งานก็จะจัดสรรน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าซ่อมบำรุงให้ตลอดมาทุกปี เว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ไม่ใช่ทรัพย์สินของกทม. ก็ไม่อาจนำเงินงบประมาณมาจ่ายได้ตามระเบียบการพัสดุ--จบ--