พลัส พร็อพเพอร์ตี้ รุกตลาดคอนโดฯ รีเซล ปรับกลยุทธ์กระจายรายได้ หลังปี 56 เติบโต 20%

ข่าวอสังหา Wednesday February 26, 2014 11:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้คร่ำหวอดในธุรกิจให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์มากว่า 18 ปี เผยภาพรวมปี 57 ธุรกิจต้องรอบคอบและยืดหยุ่นในการบริการจัดการ พร้อมปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ โดยพลัสฯ เดินหน้าการให้บริการอย่างครบวงจร เริ่มต้นที่ธุรกิจตัวแทนซื้อ-ขาย-เช่า ที่ขยายตลาดไปยังคอนโดฯ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ตลอดจนรุกกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ กับธุรกิจบริหารจัดการอาคาร พร้อมเปิดรับบริหารโครงการใหม่ๆ อย่างเต็มตัว ด้านผลการดำเนินงานปี 56 มีรายได้เติบโต 20% นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (Mr. Poomipak Julmanichoti, Managing Director, Plus Property Company Limited) ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา พลัสฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2556 ได้เปิดขายโครงการต่างจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงการบริหารโครงการที่ส่งมอบให้กับลูกค้า มีการสรรหาบุคลากรและพัฒนาการฝึกอบรมพนักงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นปีที่ประสบความสำเร็จสูง บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 790 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 20% จากปี 2555 มาจากธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (ตัวแทนซื้อ-ขาย-เช่าอสังหาฯ) 55% ซึ่งในส่วนนี้มีโครงการที่รับบริหารอยู่ทั้งสิ้น 1,800โครงการ และอีก 45% เป็นรายได้จากธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยและเพื่อการพาณิชย์ ปัจจุบันมีโครงการที่บริหารทั้งสิ้น 145 โครงการ อย่างไรก็ตาม รายได้ปีนี้จะไม่อยู่ในอัตราการเติบโตเหมือนปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชะลอแผนการลงทุน เปิดโครงการใหม่ลดลง ตลอดจนยังมีความไม่แน่นอนของอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ที่หลายฝ่ายจะทำการทบทวนอีกครั้งหลังไตรมาสแรก “โดยในปี 2557 นี้ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตั้งเป้าหมายทางธุรกิจที่เน้นเรื่องความยืดหยุ่น พร้อมปรับกลยุทธ์การดำเนินงานให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ภาพรวมธุรกิจยังคงเดินหน้าการให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจรแก่ลูกค้า ผ่านธุรกิจหลัก 2 ส่วน ที่มีการทำงานเสริมศักยภาพกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ เกิดการกระจายรายได้ที่สอดคล้องกับภาพรวมของตลาด เริ่มต้นจากส่วนแรกคือ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (ตัวแทนซื้อ-ขาย-เช่าอสังหาฯ) และบริหารงานขายโครงการ มุ่งเน้นการขายไปที่คอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (รีเซล) เนื่องจากผู้ประกอบต่างชะลอการเปิดโครงการ ส่งผลให้ซัพพลายใหม่มีน้อย ผนวกกับซัพพลายเดิมจากโครงการที่ลูกค้าซื้อไว้ลงทุนยังพอมีอยู่ในตลาด จึงนับเป็นโอกาสที่ดีของลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง โดยเฉพาะราคาของคอนโดฯ สร้างเสร็จพร้อมอยู่จะถูกว่าโครงการเปิดใหม่ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างราว 30% สำหรับการบริหารงานขายนั้น จะพิจารณารับบริหารโครงการให้ผู้ประกอบการที่มีฐานะการเงินมั่นคง มีประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และพัฒนาโครงการที่สอดคล้องกับผลของการวิจัยสำรวจตลาด ที่สำคัญแผนการก่อสร้างจะต้องผ่านการพิจารณาอนุมัติจากคณะกรรมการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดโครงการที่สร้างไม่เสร็จตามกำหนดเข้าสู่ระบบ และป้องกันความเสี่ยงของผู้บริโภคไปในตัว ส่วนที่สองคือธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย และเพื่อการพาณิชย์ ปีนี้จะมีการทำแคมเปญภายใต้แนวคิดสร้างความสุขความอบอุ่นให้กับลูกบ้านผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ทุกครอบครัวที่อยู่อาศัยภายใต้การดูแลของพลัสฯ ได้พบปะสังสรรค์ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีภายใต้สังคมและสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพ สำหรับการบริหารจัดการอาคาร ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์ ถือเป็นโอกาสที่ดี เนื่องจากมีโครงการใหม่ๆ เริ่มทยอยเสร็จออกมาเป็นจำนวนมาก สอดคล้องกับที่บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมทั้งเรื่องระบบและบุคลากรมากว่า 1 ปี ทำให้ในปี 2557 นี้ มีความพร้อมที่จะขยายการให้บริการกับโครงการใหม่ๆ อย่างเต็มตัว โดยพลัสฯ ได้รับการยอมรับและเชื่อถือด้านการให้บริการและให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจรทั้งจากภาครัฐและเอกชน บุคลากรของพลัสฯ ได้รับการอบรมให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานเทียบเท่าบริษัทสากล และมีการพัฒนาบุคลากรภายในอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดพลัสฯ ได้ร่วมมือกับสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ภาควิชาบริหารอาคาร ในโครงการนักศึกษาฝึกงานและพร้อมบรรจุนักศึกษาที่จบหลักสูตรเข้าทำงานเพื่อรองรับ AEC และการขยายงานของบริษัทฯ ต่อไป” ทั้งนี้ แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2557 จากข้อมูลของฝ่ายวิจัยและพัฒนา พลัส พร็อพเพอร์ตี้ คาดว่าหากสถานการณ์ต่างๆ เข้าสู่ภาวะปกติ จะส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ เริ่มกลับมามีสัญญาณบวก โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองตามแนวรถไฟฟ้าที่กำลังอยู่ในความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค รวมทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์บริเวณชานเมืองที่มีพื้นที่ติดถนนใหญ่ซึ่งมีแนวโน้มว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มทรงตัวหรือลดลง ถือเป็นปัจจัยที่ดีต่อภาคธุรกิจ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ