กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--ช.การช่าง
นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่างจำกัด (มหาชน) หรือ CK เผยว่า ผลการดำเนินงานงวดปี 2556 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 7,674 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,214.04% เมื่อเทียบกับปี 2555 ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท โดยมีรายได้ก่อสร้าง 32,570 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.46% เทียบกับปี 2555 ผลประกอบการที่เติบโตอย่างมากในปีนี้มีสาเหตุจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ 1) รายได้และกำไรจากงานก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยงานในมือที่มีในปัจจุบันมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ10% ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการด้านวิศวกรรมและการเงินที่มีประสิทธิภาพของบริษัท และการเลือกรับงานอย่างรอบคอบ 2) รายได้และกำไรจากการลงทุนในบริษัทในกลุ่มเช่น บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ, น้ำประปาไทย, ซีเค พาวเวอร์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีผลประกอบการที่โดดเด่น สามารถสร้างเงินปันผลและกำไรจากการลงทุนให้แก่บริษัทอย่างมั่นคง 3) รายได้และกำไรจากการขายเงินลงทุนใน บมจ. น้ำประปาไทยและรถไฟฟ้ากรุงเทพ ซึ่งถือว่าเป็นผลตอบแทนการลงทุนที่ดีมากจากการลงทุนในบริษัททั้ง 2 แห่งตั้งแต่เริ่มต้น ผลประกอบการที่โดดเด่นนี้แสดงถึงความมั่นคงและเจริญเติบโตของบริษัท และกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัททั้งในด้านของงานก่อสร้างและงานลงทุนพัฒนา ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพ
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้เห็นชอบผลการดำเนินงานงวดปี 2556 และมีมติให้บริษัทจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญ จำนวนไม่เกิน 41,314,634 หุ้น (คิดที่ราคาหุ้นละ 1บาท) ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ในอัตรา 40 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 41,314,634 บาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลเท่ากับ 0.025 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ในกรณีผู้ถือ หุ้นรายใดมีเศษของหุ้นหลังการจัดสรรหุ้นปันผลแล้ว บริษัทจะจ่ายเงินปันผลในส่วนของเศษหุ้นนี้ เป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.025 บาท และจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.202778 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 335,107,949.27 บาท รวมเป็นการจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.227778 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงินเท่ากับ 376,422,583.27 บาท โดยเมื่อรวมการจ่ายปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการเดือนมกราคม ถึงเดือนมิถุนายน 2556 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท เป็นเงินจำนวน 330,517,067.20 บาท แล้ว เงินปันผลสำหรับปี 2556 เท่ากับ 0.402778 ต่อหุ้น พร้อมหุ้นปันผลในอัตรา 40 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล หรือเท่ากับ 0.427778 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้บริษัทได้กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิ์ปันผล(XD) คือวันที่ 7 พ.ค. 2557 และกำหนดจ่ายเงินปันผล วันที่ 28 พ.ค. 2557
นายปลิว กล่าวเสริมว่า แผนการดำเนินงานในปี 2557 บริษัทมั่นใจว่าผลประกอบการจะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยคาดว่าจะมีรายได้จากงานก่อสร้าง มากกว่า 30,000 ล้านบาท และมีกำไรขั้นต้นประมาณ 8-10% ทั้งนี้ยังไม่รวมงานใหม่ที่กำลังรอลงนามสัญญา เช่น โครงการโรงไฟฟ้าบางปะอิน เฟส 2 มูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท โครงการเขื่อนน้ำบาก ในสปป.ลาว มูลค่าประมาณ 15,000 ล้าน บาท งานก่อสร้างเพิ่มเติมสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ มูลค่ากว่า 700 ล้านบาท และงานเพิ่มเติมอื่นๆในโครงการที่ดำเนินการอยู่ และในส่วนของการลงทุนคาดว่าทุกบริษัทในกลุ่มจะเติบโตสร้างกำไรกลับให้ บริษัทอย่างมั่นคงเพราะเป็นธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐานที่มีการเจริญเติบโต อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของความล่าช้าในการประมูลงานของรัฐซึ่งมีผลจากปัญหาทางการเมือง บริษัทได้เตรียมการรับมือความเสี่ยงเหล่านี้ไว้แล้ว จะเห็นได้จากการที่บริษัทมีงานในมือทั้งสิ้นกว่า 1.2 แสนล้านบาท คลอบคลุมการดำเนินงานในช่วง 4-5 ปีนี้ การชะลอตัวในช่วงนี้ถือเป็นโอกาส อันดีที่บริษัทจะเร่งดำเนินงานในมือได้อย่างเต็มที่ สามารถจัดสรรบุคลากรและทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปรับปรุงไว้เพื่อรอรับงานใหม่ที่เข้ามาอีก ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่างานของภาครัฐไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนจะต้องเร่งรัดดำเนิน การประมูลอย่างแน่นอนเพราะเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ