กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--เมืองไทยประกันภัย
“เมืองไทยประกันภัย” แสดงผลกำไรประจำปี 2556 สุทธิ 772.4 ล้านบาท ด้วยยอดเบี้ยประกันภัยรับรวมสูงถึง 8,891.7 ล้านบาท พร้อมประกาศเป้าหมายปี 2557 "ก้าวสู่ 10,000 ล้านอย่างมั่นคง" โดยมุ่งเน้นการพัฒนาช่องทางขายผ่านตัวแทน และ Bancassurance อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมออก 4 แบบประกันภัยใหม่ ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์
นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำปี 2556 ว่า บริษัทฯ มีผลประกอบการกำไรสุทธิ 772.4 ล้านบาท ซึ่งเป็นปีที่มีกำไรสูงสุดนับแต่มีการควบรวมกิจการ ส่วนในปี 2555 บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิที่ 862.5 ล้านบาท เนื่องจากการบันทึกสินไหมกรณีเหตุการณ์อุทกภัยจำนวน 1,534.4 ล้านบาท (โดยมีผลกระทบขาดทุนสุทธิหลังภาษีประมาณ 1,228 ล้านบาท) ในปีนี้สินไหมดังกล่าวได้จ่ายชำระให้ผู้เอาประกันภัยไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ ทำให้สามารถปรับลดค่าใช้จ่ายสินไหมลงเป็นจำนวน 260.1 ล้านบาท เป็นผลให้มีผลกำไรสุทธิปีนี้สูงถึง 772.4 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทฯ สามารถจัดโครงสร้างการประกันภัยต่อได้ดียิ่งขึ้นกว่าที่ผ่านมา เป็นผลให้ต้นทุนเกี่ยวกับการประกันภัยต่อลดลงตามลำดับภายหลังเหตุการณ์ต่างๆ เข้าสู่ภาวะปกติ โดยบริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 8,891.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,388.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ18.5 จากปีก่อน อันเป็นผลมาจากการมีช่องทางขายที่หลากหลาย เน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลายระดับ ทั้งด้านประกันภัยรถยนต์และประกันภัยทั่วไป
นอกจากนี้บริษัทฯ มีรายได้และผลกำไรจากการลงทุนในหลักทรัพย์รวม 362.5 ล้านบาท ด้านค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยทั้งหมดอยู่ที่ 4,026.9 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 1,488.0 ล้านบาท และกำไรจากการรับประกันภัย 709.9 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯ มีกำไรก่อนหักภาษีเงินได้ 1,024.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่มีผลขาดทุน 1,052.9 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 197.3 และกำไรสุทธิ 772.4 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วคิดเป็นร้อยละ 189.6
“สำหรับในปี 2557 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของเบี้ยประกันรับตรงอยู่ที่ 10,350 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนเป็นประกันภัยรถยนต์ (Motor) 47% และเป็นประกันภัยทั่วไป (Non-Motor) 53% นางนวลพรรณ กล่าวเพิ่มเติม
นางนวลพรรณ กล่าวต่อว่า ในปี 2557 นี้ บริษัทฯ มีแผนงานหลัก ได้แก่
แผนการพัฒนาด้านช่องทางการจัดจำหน่าย
ในปี 2557 บริษัทฯ มีแผนงานขยายการขายผ่านช่องทางต่างๆ ครอบคลุมครบทุกช่องทางที่หลากหลาย (Multi Channels) ซึ่งมีช่องทางธุรกิจขายตรง ช่องทางธุรกิจนายหน้า ช่องทางขายธุรกิจตัวแทน ช่องทางพันธมิตรธุรกิจรถยนต์ ช่องทาง Bancassurance และช่องทางเครือข่ายพันธมิตร สำหรับช่องทางที่มีอัตราการขยายตัวค่อนข้างสูง คือช่องทางธุรกิจตัวแทนและช่องทาง Bancassurance
ช่องทางธุรกิจตัวแทนนั้น บริษัทฯ จะขยายจำนวนตัวแทนรายใหม่ทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถดูแลลูกค้าได้ทั่วถึง นอกจากภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ที่บริษัทฯ ได้มีการขยายตัวทั้งจำนวนตัวแทนและยอดขายผ่านช่องทางนี้ค่อนข้างสูงในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงเน้นนโยบายการสร้างตัวแทนรายใหม่ๆ พร้อมทั้งพัฒนาตัวแทนรายเดิมให้มีศักยภาพในการแข่งขันกับช่องทางต่างๆ ให้เป็นผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยด้านประกันภัย (Insurance Entrepreneur) ที่มีความเป็นมืออาชีพทั้งด้านประกันภัย และด้านการบริการจัดการธุรกิจของตัวเองให้มีความยั่งยืนในอาชีพนี้ต่อไป ภาคที่มีการขยายจำนวนตัวแทนโดยมีเป้าหมายสูงกว่าปีที่ผ่านมา คือ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นอกจากนี้ช่องทางหลักอีกช่องทางของบริษัทฯ ที่มีอัตราการขยายตัวค่อนข้างสูงคือ ช่องทาง Bancassurance เนื่องจากพันธมิตรหลักของบริษัทฯ คือ ธนาคารกสิกรไทย ที่มีการขยายจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นทั่วประเทศซึ่งขยายการให้บริการไปยังภูมิภาค ทำให้เป้าหมายของช่องทางนี้มีความเติบโตสูง เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายลูกค้าของธนาคารมีความหลากหลาย (Multi-target Segmentation) ผ่านช่องทางที่หลากหลายของธนาคารเช่น สาขา และเครื่อง ATM เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าธนาคารได้ครบถ้วน ทำให้บริษัทฯ วางแผนในด้านผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ทุกช่วงอายุ หรือกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจ โดยคำนึงในด้านความต้องการเพื่อป้องกันความเสี่ยงและพฤติกรรมของลูกค้า จึงมีผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่หลากหลาย (Product mix) เช่น ประกันภัยอุบัติเหตุและประกันสุขภาพซึ่งเหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ตั้งแต่ประกันภัย พ.ร.บ. ประกันภัยเป็นแบบ package หรือประกันภัยรถยนต์ประเภทหนึ่ง หรือแม้แต่การประกันภัยทรัพย์สินที่ออกแบบให้เหมาะสมกับธุรกรรมของลูกค้าของธนาคาร เนื่องจากจุดขายที่ลูกค้าสามารถติดต่อซื้อประกันภัยค่อนข้างสะดวก บริษัทฯ มีประกันภัยการเดินทางต่างประเทศเพื่อการขอวีซ่า หรือครอบคลุมเหตุต่าง ลูกค้าสามารถหาซื้อได้ทุกสาขาทั่วประเทศ นอกจากนี้แล้วยังมีประกันอุบัติเหตุให้ท่านซื้อได้เองง่าย ๆ จากตู้ ATM ของธนาคารได้ทั่วประเทศ
บริษัทฯ ยังคงพัฒนาช่องทางการจำหน่ายใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความสะดวกให้แก่ลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อประกัน On-Line ผ่านทาง Website ท่านสามารถซื้อประกันภัยรถยนต์ทั้ง พ.ร.บ. และประกัน package ต่างๆ อีกทั้งประกันการเดินทางต่างประเทศเพื่อขอวีซ่าประเทศต่างๆ และการประกันอุบัติเหตุอย่างง่ายไว้ให้ท่านเลือกคลิกได้เองทุกที่ทุกเวลา
แผนการพัฒนาการให้บริการ
เนื่องจากอัตราการขยายตัวรถยนต์ของบริษัทฯ ในปีนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากช่องทางต่างๆ บริษัทฯ มีโครงการพัฒนากระบวนการทำงานระบบเทคโนโลยีและเจ้าหน้าที่ เพื่อให้มีความพร้อมในการให้บริการสินไหมประกันภัยรถยนต์ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นสำคัญ โดยมีเป้าหมายขยายจำนวนอู่และศูนย์ซ่อมแซมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยปัจจุบันมีจำนวนอู่คู่สัญญาทั้งหมด 622 แห่ง และศูนย์บริการรับงานจำนวน 480 แห่ง และสำนักงานตัวแทนจำนวน 222 แห่ง รวมถึงศูนย์บริการลูกค้าจำนวน 21 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อให้มีคุณภาพด้านบริการที่สะดวกรวดเร็วมากขึ้น
แผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ปี 2557
ในปี 2557 นี้ บริษัทฯ มีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้เหมาะกับ Lifestyle อย่างน้อย 4 ผลิตภัณฑ์ โดยเน้นการออกผลิตภัณฑ์โดยเน้นการแบ่งกลุ่มทางการตลาด (Segmentation) ที่ชัดเจน เริ่มจากประกันสุขภาพHi-end หรือ Healthcare High Sum เป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ และมีความต้องการในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลชั้นนำ โดยให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 40 ล้านบาท และสามารถให้ความคุ้มครองทั่วโลก หากเดินทางท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจที่ต่างประเทศ โดยให้ความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติมถึงค่าดูแลบุตรที่อายุต่ำกว่า 18 ปีในขณะที่ผู้เอาประกันภัยพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และยังให้ความคุ้มครองถึงการปลูกถ่ายอวัยวะ การล้างไต และการรักษาโรคมะเร็งสำหรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยนอกโดยไม่ต้องซื้อความคุ้มครองเพิ่ม รวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับการจ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลที่บ้าน
ผลิตภัณฑ์ที่สองคือ ประกันฟัน เป็นการเสริมความคุ้มครองเพิ่มเติมจากประกันภัยอุบัติเหตุหรือประกันภัยสุขภาพ ปัจจุบันคนไทยได้ตื่นตัวกับการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันกันเป็นจำนวนมากและต้องการความคุ้มครองในส่วนนี้ บริษัทฯ ได้ทำการศึกษาแล้วพบว่ามีกลุ่มลูกค้าสองกลุ่มหลักไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริษัทฯ ซึ่งสวัสดิการของบริษัทฯ เอกชนส่วนใหญ่ไม่ได้ขยายถึงการคุ้มครองทันตกรรม รวมถึงผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระที่จะต้องรับภาระในส่วนนี้เอง บริษัทฯ จึงเตรียมแผนการออกความคุ้มครองที่ครอบคลุมการรักษาฟันทั่วไป (อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน เคลือบฟลูออไรด์) การรักษาฟันจากอุบัติเหตุ คุ้มครองสูงถึงการผ่าฟันคุดและรักษารากฟัน พร้อมบริการสิทธิพิเศษ บริการนัดหมายทันตแพทย์ที่คุณเลือกได้เอง และเข้ารับการรักษาโดยไม่ต้องสำรองจ่าย
ผลิตภัณฑ์ที่สามคือ เมืองไทย Cats & Dogs เป็นผลิตภัณฑ์ที่คุ้มครองสัตว์เลี้ยง สังคมไทยในปัจจุบันนั้น คนเริ่มหาเพื่อนรู้ใจที่เป็นสัตว์เลี้ยงแสนซื่อสัตย์ รักและดูแลสัตว์เลี้ยงเหมือนลูกหลาน บริษัทฯ จึงออกผลิตภัณฑ์นี้เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของคนรักสัตว์เลี้ยง ด้วยความคุ้มครองที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความคุ้มครองจากการเสียชีวิต/ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วย ความรับผิดต่อชีวิตและร่างกายของบุคคลภายนอก อันเนื่องมาจากสัตว์เลี้ยง ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา การประกาศเพื่อติดตามสัตว์เลี้ยงที่สูญหาย เป็นต้น โดยจะรับประกันสัตว์เลี้ยงที่มีอายุระหว่าง 3 เดือน ถึง 7 ปี
ผลิตภัณฑ์ที่สี่คือ P.A.Senior ในอนาคตอันใกล้สังคมไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความอุ่นใจในทุกจังหวะการดำรงชีวิตให้กับผู้สูงอายุ และหมดความกังวลกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น จึงขอนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล P.A. ผู้สูงอายุ รับประกันต่อเนื่องตั้งแต่ 45-80 ปี ต่ออายุได้ตลอดชีพ มอบความคุ้มครองทั้ง เงินช่วยเหลือกรณีเสียชีวิต ค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดจากอุบัติเหตุ โดยไม่ต้องสำรองจ่าย เพียงยื่นบัตร Care Card กับโรงพยาบาลคู่สัญญากว่า 260 แห่งทั่วประเทศ พร้อมเพิ่มความคุ้มครองพิเศษสำหรับ ค่า wheel chair และเงินชดเชยกรณีกระดูกแขนหรือขาแตกหักเนื่องมากจากอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังขยายตลาดประกันภัยรถยนต์ในอีก Segment ได้แก่ การประกันภัยรถบรรทุก ซึ่งเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายที่สอดรับการการขยายตัวของธุรกิจ Logistics ที่มีแนวโน้มการข้ามชายแดนระหว่างประเทศมากขึ้น โดยมีการกำหนดแนวทางการรับประกันภัยที่ชัดเจน ในตลาดนี้ มีผู้รับประกันภัยจำนวนน้อยราย และแนวโน้มการขยายตัวสูง ทำให้หากมีการรับในปริมาณรถที่มากพอ มีโอกาสที่จะทำให้มีกำไรได้เช่นกัน
แผนพัฒนาการบริหารความเสี่ยง Risk Management
ในปี 2556 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านความเสี่ยงขององค์กร(Enterprise Risk Management , ERM) อย่างต่อเนื่อง มีการจัดตั้งคณะกรรมการย่อยเพื่อศึกษาและการกำหนดระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ( Risk Appetite) โดยมีการประเมินความเสี่ยงด้านต่างๆ รวมทั้งการทดสอบภาวะวิกฤต ( Stress Test) เพื่อพิจารณาถึงความเหมาะสมในการจัดการ/ควบคุมความเสี่ยงด้านต่างๆ เช่น ด้านการตลาด ด้านเครดิต และ ด้านประกันภัย เป็นต้น บริษัทฯ ได้นำข้อมูลจากการวิเคราะห์ดังกล่าวมาประกอบการจัดทำโครงสร้างและเงื่อนไขสัญญาประกันภัยต่อให้เหมาะสมและนำมาเป็นปัจจัยในการจัดทำงบประมาณปี 2557 ด้วย สำหรับปี 2557 บริษัทฯ จะมุ่งเน้นการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ การกำหนดตัววัดในเชิงต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาเครื่องมือในการวัดผลและประเมินความเสี่ยงที่เป็นมาตรฐานสากล ซึ่งจะสอดคล้องกับแผนงานของ สนง.คปภ.ในการพัฒนา Risk Based Capital Phase 2 นอกจากนี้บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความตระหนักในเรื่องความสำคัญของการบริหารจัดการความเสี่ยงและความเชื่องโยงไปสู่การปฏิบัติงานในทุกด้านแก่พนักงานในทุกระดับ อีกทั้งยังได้กำหนดให้เป็นปัจจัยหนึ่งในการประเมินผลการปฏิบัติงานในปี 2557 ด้วย
แผนพัฒนาการประกันภัยต่อปี 2557
ในส่วนประกันภัยต่อ จากแผนการบริหารความเสี่ยงและเป้าหมายการเจริญเติบโตของบริษัทฯ สำหรับปี 2557 บริษัทฯ จึงได้วางกรอบนโยบายด้านประกันภัยต่อเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและบรรลุวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ โดยนโยบายประกันภัยต่อนี้ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรม การของบริษัทฯเป็นที่เรียบร้อย
ในปี 2557 นี้ บริษัทฯ ได้วางนโยบายประกันภัยต่อโดยสามารถสรุปโดยสังเขปได้ดังนี้
1. การประกันภัยต่อตามสัญญา (Treaty)
1.1 สัญญาแบบเป็นสัดส่วน (Proportional Treaty) บริษัทฯ ได้จัดทำสัญญาเพื่อให้ขีดความสามารถในการรับงานได้มาก โดยสัญญาหลักซึ่งได้แก่สัญญากรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สิน บริษัทฯ สามารถเจรจาเพิ่มขีดความสามารถในการรับงานมากขึ้นกว่าเดิม 20% เมื่อเทียบกับปี 2556 ที่ผ่านมา
1.2 สัญญาแบบไม่เป็นสัดส่วน (Excess of Loss) ซึ่งคุ้มครองส่วนที่บริษัทฯ รับเสี่ยงภัยไว้เอง รวมทั้งการคุ้มครองภัยธรรมชาติ บริษัทฯ ได้มีระบบ IT เพื่อรวบรวมข้อมูลการสะสมภัย (risk accumulation) พร้อมกับการเชิญบริษัทนายหน้าประกันภัยต่อมืออาชีพเข้ามาทำการศึกษาเรื่องการสะสมของภัยโดยเฉพาะภัยธรรมชาติร่วมกับนักคณิตศาสตร์ประกันภัยของบริษัทเพื่อให้บริษัทฯ ดำเนินการจัดซื้อความคุ้มครองได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
ในการคัดเลือกบริษัทรับประกันภัยต่อ (Reinsurer Selection) บริษัทฯ ได้คัดสรรบริษัทรับประกันภัยต่อ(Reinsurer) อย่างระมัดระวังโดยเลือกเฉพาะรายที่มีความมั่นคงทางด้านการ เงินและมีประวัติการจ่ายค่าสินไหมทดแทนที่ดีอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยหลัก
2. การประกันภัยต่อเฉพาะราย (Facultative Reinsurance)
เช่นเดียวกับการประกันภัยต่อแบบสัญญา(Treaty) บริษัทฯ ได้วางนโยบายเรื่องการประกันภัยต่อเฉพาะรายโดยคำนึงถึง ความมั่นคง/ฐานะการเงินของผู้รับประกันภัยต่อความเป็นมืออาชีพ อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีมาตรการควบคุมไม่ให้เกิดการกระจุกตัวของการใช้บริษัทรับประกันภัยต่อรายใดรายหนึ่งจนมากเกินไป
นางนวลพรรณ กล่าวในตอนท้ายว่า “ผลการดำเนินงานประจำปี 2556 ของบริษัทฯ เป็นผลมาจากบริษัทฯ ได้ขยายช่องทางและสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับพันธมิตรธุรกิจ ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า ทำให้สามารถเพิ่มยอดเบี้ยประกันภัยได้อย่างต่อเนื่องอีกทั้งบริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาระบบการให้บริการให้มีประสิทธิภาพมาก รวมทั้งการพัฒนาบุคคลากรของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯ จะดำเนินการเช่นนี้ตลอดไป”