กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--IR network
CGS อวดผลดำเนินงานปี 56 มีรายได้รวม 2,068.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.08% และกำไรสุทธิ 344.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.42% ผลจากรายได้ต่างๆ พุ่งพรวด ทั้งค่านายหน้า ค่าธรรมเนียมและบริการ และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน หลังเปิดตัวผู้บริหารชุดใหม่ และวางกลยุทธ์เพื่อเสริมขีดความสามารถการแข่งขัน สู่ความเป็นโบรกเกอร์ชั้นนำ บอร์ดใจป้ำเสนอจ่ายปันผลหุ้นละ 0.11 บาท รวมทั้งอนุมัติแผนปรับโครงสร้างกิจการเป็น Holding Company ตั้ง “บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)” รอที่ประชุมผู้ถือหุ้นไฟเขียว 29 เมษายนนี้
น.ส. สุดธิดา จิระพัฒน์สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2556 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,068.84 ล้านบาท เทียบกับปี 2555 ที่มีรายได้รวม 1,615.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.08 และกำไรสุทธิ 344.81 ล้านบาท เทียบกับปี 2555 ที่มีกำไรสุทธิ 260.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.42 โดยมีกำไรสะสมจำนวน 657.72 ล้านบาท
ในส่วนของรายได้รวม 2,068.84 ล้านบาท ประกอบด้วยรายได้ค่านายหน้า 1,695.68 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 39.59 ล้านบาท กำไรจากเงินลงทุนและตราสารอนุพันธ์ 85.87 ล้านบาท ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย 86.42 ล้านบาท รายได้จากดอกเบี้ยรับและเงินปันผลและดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ 147.57 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ จำนวน 13.71 ล้านบาท
ทั้งนี้เป็นผลมาจากบริษัทฯ มีรายได้ค่านายหน้าเพิ่มขึ้น 426 ล้านบาท หรือร้อยละ 33.55 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่ 1,269.68 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น โดยปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 1,260 ล้านบาท หรือร้อยละ 40.52 จาก 3,110 ล้านบาท เป็น 4,370 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 20.81 ล้านบาท หรือร้อยละ 110.81 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่ 18.78 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และค่าธรรมเนียมการเป็นที่ปรึกษาการเงินเพิ่มขึ้น 15.20 ล้านบาทตามปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียเพิ่มขึ้น 35.63 ล้านบาท หรือร้อยละ 70.15 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่ 50.79 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทร่วมมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 72.27
“สาเหตุที่ทำให้ผลดำเนินงานปี 2556 ของ CGS เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เป็นผลจากการบริหารจัดการภายใต้ผู้บริหารชุดใหม่ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจหลักทรัพย์และกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ นอกจากนี้การเสริมทีมผู้บริหารชุดใหม่และการปรับกลยุทธ์เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ
บริษัทฯ เพื่อการก้าวสู่ความเป็นโบรกเกอร์ชั้นนำของประเทศ และเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ในปี 2558 ซึ่งจะช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายการบริหารงานแบบเป็นทีม มุ่งเน้นการทำกำไร ตลอดถึงการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังได้มีการขยายการลงทุนและเตรียมความพร้อม ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการ งานวิจัย และระบบไอที เพื่อการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง” น.ส. สุดธิดา กล่าว
พร้อมกันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2557 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 ได้อนุมัติการจัดสรรกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานงวดสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2556 เพื่อจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตรา 0.11 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 15 พฤษภาคม 2557 รายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 8 พฤษภาคม 2557 และปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นวันที่ 9 พฤษภาคม 2557
รวมทั้งได้อนุมัติแผนการปรับโครงสร้างกิจการของบริษัทฯ และแผนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัทฯ และการขอเพิกถอนหุ้นของบริษัทฯ จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 11/2556 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2556 โดยแต่งตั้งบริษัทที่ปรึกษาเอเชีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาต่อไป โดยบริษัทฯ จะจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งภายใต้ชื่อ “บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)” เพื่อประกอบธุรกิจทางด้านการลงทุนและถือหุ้นของหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป
ทั้งนี้ CGS จะจัดการประชุมชี้แจง (Presentation) เพื่อเสนอแนะความเห็นต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างของบริษัทฯ และ การขอเพิกถอนหุ้นของบริษัทฯ จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2557 ในวันที่ 29 เมษายน 2557 เวลา 14.00 น. ณ โรงแรมโลตัส กรุงเทพฯ โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนนในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2557 เป็นวันที่ 11 มีนาคม 2557 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนและพักการโอนหุ้น ในวันที่ 12 มีนาคม 2557