กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10 ) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 15 - 137 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ปริมาณฝุ่นละอองไม่เปลี่ยนแปลงจากวันที่ผ่านมา โดยคุณภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดลำปาง เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่จังหวัดน่าน แพร่ พะเยา อยู่ในระดับเฝ้าระวัง ซึ่ง ปภ. ได้ประสานจังหวัดภาคเหนือดำเนินมาตรการคุมเข้มมิให้ มีการเผาในพื้นที่โล่ง รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาทุกชนิด เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศของ 9 จังหวัดภาคเหนือกับกรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 พบว่า ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 15 - 137 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งคุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับดีถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ปริมาณฝุ่นละอองไม่เปลี่ยนแปลงจากวันที่ผ่านมา โดยคุณภาพอากาศบริเวณสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปางเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ค่า PM10 137 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศ ค่า AQI อยู่ที่ 108 ขณะที่บริเวณสำนักงานเทศบาลเมืองน่าน จังหวัดน่าน การประปาส่วนภูมิภาคแม่เมาะ จังหวัดลำปาง สถานีอุตุนิยมวิทยาแพร่ จังหวัดแพร่ อุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา มีปริมาณฝุ่นละอองในอากาศค่อนข้างสูง อยู่ในระดับเฝ้าระวัง ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือดำเนินมาตรการคุมเข้มมิให้มีการเผาในพื้นที่โล่ง โดยเฉพาะการเผาริมทาง การเผาในพื้นที่ป่า และพื้นที่การเกษตร พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาขยะ เศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันมิให้วิกฤตมากขึ้น รวมถึงระดมรถบรรทุกน้ำฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชื้นและลดปริมาณหมอกควันฝุ่นละอองในอากาศ ตลอดจนบูรณาการทุกภาคส่วนสนธิกำลังในการระดมวัสดุอุปกรณ์ควบคุมไฟป่าและหมอกควัน สำหรับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม ให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน เพราะจะสูดดมฝุ่นละอองจำนวนมากเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้เจ็บป่วยได้ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มี โรคประจำตัว หากเจ็บป่วยจะมีอาการรุนแรงกว่าปกติ รวมถึงใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัย ปิดปาก และจมูกทุกครั้งที่ออก นอกบ้าน เพื่อป้องกันมิให้สูดดมฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์หมอกควัน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป