กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
นายกรัฐมนตรี สั่งการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เร่งสอบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเชิงลึกของรถทัศนศึกษา ที่ปราจีนบุรี ดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ เยียวยาสภาพจิตใจ พร้อมวางแนวทางแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน ติดตั้งป้ายเตือนในจุดเสี่ยง จัดตั้งจุดตรวจสกัดความเร็ว เพิ่มความเข้มข้นในการนำรถไปทัศนศึกษา โดยตรวจสอบความพร้อมของสภาพรถ ความชำนาญของพนักงานขับรถ และความถูกต้องของใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ ตลอดจนแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงเชิงวิศวกรรมและโครงสร้างถนนให้มีความปลอดภัย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวถึงกรณีเกิดอุบัติเหตุรถโดยสาร 2 ชั้น บรรทุกนักเรียนไปทัศนศึกษา ประสบอุบัติเหตุชนรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 กบินทร์บุรี – นครราชสีมา ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย บาดเจ็บ 19 ราย ว่า ในเบื้องต้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้ประสานให้อนุกรรมการด้านการจัดการข้อมูลและติดตามประเมินผล ร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 3 ปราจีนบุรี และจังหวัด ส่งทีมสืบสวนอุบัติเหตุลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อสอบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเชิงลึก พร้อมประสานอนุกรรมการสวัสดิศึกษาด้านการป้องกันอุบัติภัยในสถานศึกษา กำหนดแนวทางป้องกันอุบัติเหตุรถโดยสารนักเรียนและรถทัศนศึกษา โดยเพิ่มความเข้มข้น ในการเช่ารถโดยสารไปทัศนศึกษา คุมเข้มการตรวจสอบสภาพรถ และความพร้อมของพนักงานขับรถ ทั้งใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ ทักษะและความชำนาญในการขับรถ พิจารณากำหนดช่วงเวลาในการเดินทางที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงกลางคืนและเช้ามืด รวมถึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกในการใช้เส้นทาง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์สั่งการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุรถทัศนศึกษา โดยในเบื้องต้นได้สั่งการกระทรวงสาธารณสุขระดมทีมแพทย์ พยาบาลให้การดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างดีที่สุด ส่วนผู้เสียชีวิตให้ตรวจสอบการประกันภัยและสิทธิประโยชน์ที่พึงได้จากกองทุนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดส่งเจ้าหน้าที่ดูแลสภาพจิตใจของผู้ประสบเหตุและครอบครัว สำหรับการแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงดังกล่าว ในระยะเร่งด่วน ให้ติดตั้งป้ายเตือนเพิ่มเติม โดยเฉพาะช่วงขึ้น – ลงเขาเพิ่มไฟส่องสว่างบริเวณเส้นทางดังกล่าว ประสานตำรวจทางหลวงตั้งจุดสกัดในการตรวจจับความเร็ว และเข้มงวดการตรวจสอบความถูกต้องของใบอนุญาตขับรถโดยสารสาธารณะ ส่วนระยะยาว มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม พิจารณาจัดหางบประมาณในการแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงเชิงวิศวกรรมและโครงสร้างถนนให้มีความปลอดภัย
นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแนวทางแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ มุ่งเน้นการแก้ไขจุดเสี่ยงที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง การตรวจสอบสภาพรถโดยสารให้มีความปลอดภัย รวมถึงความพร้อมของพนักงานขับรถต้องมีประสบการณ์และทักษะการขับรถโดยสารขนาดใหญ่ ความชำนาญในการใช้เส้นทาง โดยเฉพาะจุดเสี่ยงทางลาดชันขึ้น - ลงเขา ตลอดจนประสานกระทรวงศึกษาธิการกำหนดมาตรการเชิงป้องกันอุบัติเหตุรถโดยสารนักเรียนและรถทัศนศึกษา เพื่อมิให้เกิดความสูญเสียชีวิตของนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาจากอุบัติเหตุทางถนน
0-2243-0674 0-2243-2200
www.disaster.go.th