กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--บลจ.บัวหลวง
‘กองทุนบัวหลวง’ ประสบความสำเร็จต่อเนื่อง ล่าสุดจากการจัดอันดับอยู่ในกลุ่ม ‘11 กองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี 2557’ จาก “วารสารการเงินการธนาคาร” รวมสูงถึง 5 กองทุน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1 กองทุน อีกทั้ง ‘บลจ.บัวหลวง’ ขึ้นแท่นความเป็นผู้นำด้านธุรกิจกองทุนรวม จากการรับรางวัล “บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนยอดเยี่ยม” 2 ปีซ้อน จากงาน SET Awards 2012 และ 2013
วารสารการเงินการธนาคาร ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2557 รายงานถึงการจัดอันดับกองทุนรวมประจำปี โดยเป็นการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนย้อนหลัง ณ วันที่ 27 ธันวาคม 2556 ผลปรากฎว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ได้รับการจัดอันดับกองทุนรวมที่มีผลงานยอดเยี่ยม จำนวนรวมถึง 5 กองทุน จากการจัดอันดับทั้งหมด 11 กองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี 2557 โดยการจัดอันดับกองทุนรวมแบ่งออกเป็น 11 กลุ่มตามนโยบายการลงทุน ซึ่งใช้การวัดอัตราผลตอบแทนที่ปรับด้วยค่าความเสี่ยงในการพิจารณาจัดอันดับ โดยกองทุนตราสารหนี้ ใช้ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี และกองทุนตราสารทุน ใช้ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ทั้งยังเพิ่มการพิจารณาเรื่องความเสี่ยงในการลงทุนของการลงทุนเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะการณ์ในปัจจุบันด้วย
ผลการจัดอันดับกองทุนดังกล่าว บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด มีกองทุนที่มีผลการดำเนินงานเป็นอันดับ 1 ในแต่ละประเภท จำนวน 5 กองทุนที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมในแต่ละประเภท คือ
1. กองทุนหุ้นขนาดใหญ่ (Equity Large) ที่ลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ เฉลี่ยมากกว่า 70% ของการลงทุน ได้แก่ กองทุนบัวแก้ว มีนโยบายเน้นลงทุนระยะปานกลางและระยะยาวในหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจสูง หรือมีปัจจัยพื้นฐานดี
2. กองทุนหุ้นทั่วไป (Equity General) ที่ลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ เฉลี่ยน้อยกว่า 70% ของการลงทุน ได้แก่ กองทุนบัวแก้ว2 มีนโยบายเน้นลงทุนระยะปานกลางและระยะยาวในหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตทางธุรกิจสูงหรือมีปัจจัยพื้นฐานดี
3. กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพตราสารทุน (RMF Equity) ได้แก่ กองทุนบัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ เน้นลงทุนในตราสารแห่งทุน ทั้งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และมีปัจจัยพื้นฐานดี
4. กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หุ้นประมาณ 70% (LTF 70/30) ได้แก่ กองทุนบัวหลวงหุ้นระยะยาว 75/25 ลงทุนระยะยาวในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีศักยภาพสูงในการให้ผลตอบแทนจากการลงทุน โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่า 65% และไม่เกิน 75% ของ NAV
5. กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หุ้น 100% (LTF 100) ได้แก่ กองทุนบัวหลวงหุ้นระยะยาว เน้นลงทุนระยะยาวในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีศักยภาพสูงในการให้ผลตอบแทนจากการลงทุน
ทั้งนี้ ในปีก่อนหน้านี้ กองทุน 3 ลำดับหลัง ประกอบด้วย กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (BERMF) กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว 75/25 (B-LTF75) และ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว (B-LTF) ก็ได้รับการจัดอันดับเป็น ‘กองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี 2556’ ของ วารสารการเงินการธนาคาร รวมถึงอีกหนึ่งกองทุน คือ กองทุนเปิดบัวหลวงทศพล (BTP) ซึ่งในปี 2557 นี้ ได้ลำดับที่ 2 รองจาก กองทุนเปิดบัวแก้ว นั่นเอง
นอกจากนี้ บลจ.บัวหลวง ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านการบริหารกองทุน ด้วยรางวัล ‘บริษัทจัดการกองทุนยอดเยี่ยม’ จากงาน SET Awards 2013 อันเป็นโอกาสพิเศษในการครบรอบ 10 ปี ของการจัด SET Awards ที่จัดโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ วารสารการเงินการธนาคาร อีกทั้ง รางวัลนี้ ยังเป็นรางวัลที่ได้รับต่อเนื่องถึง 2 ปีซ้อน คือ บลจ.ยอดเยี่ยม ในปี 2555 และ ปี 2556 นอกเหนือจากรางวัลที่แสดงถึงความสำเร็จที่ บลจ.ได้รับจาก SET Awards อีก 4 รางวัลก่อนหน้า นั่นคือ บลจ.ที่มีผลตอบแทนโดยรวมสูงที่สุดเมื่อเทียบกับความเสี่ยงประเภทกองทุนตราสารหนี้ จากผลงานในปี 2546 จากงาน SET Awards 2004 จากงาน SET Awards 2005 อีก 2 รางวัล คือ บลจ.ที่มีผลตอบแทนโดยรวมสูงที่สุดเมื่อเทียบกับความเสี่ยงประเภท กองทุนตราสารทุน และ ประเภทกองทุนผสม จากผลงานในปี 2547 และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมยอดเยี่ยม จากผลงานในปี 2551 จากงาน SET Awards 2009
คุณวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กองทุนบัวหลวง กล่าวในโอกาสนี้ว่า นับเป็นความภาคภูมิใจสำหรับรางวัลเกียรติยศสำหรับกองทุนทั้ง 5 กองทุนในปีนี้ นับเป็นรางวัลที่ตอบแทนความตั้งใจและความมุ่งมั่นของทีมจัดการกองทุน รวมทั้งคณะกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานทุกคน และกำลังใจจากตัวแทนขายกองทุน รวมไปถึงผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนบริษัทในทุกด้าน คือ ธนาคารกรุงเทพ กรุงเทพประกันชีวิต และ กรุงเทพประกันภัย ที่ต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าในกลุ่มครอบครัวบัวหลวงที่ยึดมั่นถึงประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นสำคัญ ดังสโลแกนของบริษัทที่ว่า ‘บลจ.บัวหลวง มิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน’
สำหรับแนวทางการบริหารกองทุนของบริษัท เน้นความสำคัญของการลงทุนในระยะยาวเพื่อผลตอบแทน โดยมี Theme การลงทุนในปี 2557 คือ ‘มีตรา ยั่งยืน โปร่งใส มีชัย ไปกับ AEC’ (AEC, Brand Quality, Sustainability, Transparency) ด้วยการมุ่งเน้นการลงทุนระยะยาวในบริษัทต่างๆ ที่ใช้โอกาสจาก AEC ในการขยายทางการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวัสดุก่อสร้าง ที่มีตราสินค้าที่ดี มีธรรมาภิบาล มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า มี Pricing Power และทำให้ผู้บริโภคมีความจงรักภักดีต่อตราของบริษัทนั้นๆ ได้ เพราะบริษัทเหล่านี้จะเติบโตได้อย่างยั่งยืนและแข็งแกร่งต่อไป ท่ามกลางมรสุมจากภายในและภายนอก