แบรนด์วีต้า เปิดนวัตกรรมล่าสุด “วีต้าเบอร์รี่ สูตรอัพเกรด” เพิ่มวิตามินเอ 2 เท่า

ข่าวทั่วไป Monday March 3, 2014 16:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์ แบรนด์วีต้า เปิดนวัตกรรมล่าสุด “วีต้าเบอร์รี่ สูตรอัพเกรด” เพิ่มวิตามินเอ 2 เท่าช่วยในการมองเห็น ด้วยเทคโนโลยีไมโครเอ็นแคปซูเลชั่น ช่วยกักเก็บวิตามินได้ครบถ้วน “แบรนด์” ผู้นำอาหารเสริมสุขภาพของเมืองไทย เปิดตัวนวัตกรรมล่าสุด วีต้าเบอร์รี่ สูตรอัพเกรด” เพิ่มวิตามินเอ 2 เท่าจากสูตรเดิม ด้วยคอนเซ็ปท์ “อยู่หน้าจอ...ไม่ต้องรอ ดื่มวีต้าเบอร์รี่ สูตรอัพเกรดทุกวัน” พร้อมกักเก็บคุณสมบัติของวิตามินต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีไมโครเอ็นแคปซูเลชั่น ให้ผู้บริโภคมั่นใจได้มากขึ้นถึงคุณค่าของวิตามินเอที่ช่วยในการมองเห็นและวิตามินอื่นๆ ตามที่ร่างกายต้องการ เผยอุดช่องว่างทางการตลาดสนองตอบพฤติกรรมของคนในยุคปัจจุบันที่มีการใช้สายตากับหน้าจอต่างๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การดูแลดวงตาจึงจำเป็นมากขึ้น ตั้งงบการตลาดกว่า 40 ล้านบาท จัดกิจกรรมทางการตลาดครบวงจร พร้อมแจ้งเกิดเต็มตัว ตั้งเป้าการเติบโต 10-15 % ตอกย้ำภาพผู้นำตลาด นายตุลย์ วงศ์ศุภสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนไทยมีพฤติกรรมการใช้สายตากับหน้าจอต่างๆมากขึ้นและใช้ระยะเวลานานขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค การดูโทรทัศน์ และซีรีย์ต่างๆ เป็นต้น ในขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิตอลและพฤติกรรมการใช้สายตาต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ดังนั้นเพื่อดูแลรักษาดวงตาได้ดียิ่งขึ้น แบรนด์ จึงได้ออก “วีต้าเบอร์รี่ สูตรอัพเกรด” ในคอนเซ็ปท์ “อยู่หน้าจอ ... ไม่ต้องรอ ดื่มวีต้าเบอร์รี่ สูตรอัพเกรดทุกวัน” เพิ่มวิตามินเอสองเท่า ซึ่งสูตรนี้มีปริมาณวิตามินเอตามที่ร่างกายต้องการต่อวัน (100% RDI) ประกอบกับเทคโนโลยีไมโครเอ็นแคปซูเลชั่น (Microencapsulation) อนุภาคขนาดเล็กระดับไมโคร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกักเก็บคุณค่าของวิตามินเอ และวิตามินต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนจนถึงวันหมดอายุของสินค้า นอกจากนี้วีต้าเบอร์รี่ทุกขวดยังผ่านการสกัดโดยกระบวนการ แบรนด์ ดับเบิ้ล วี เอสเซ้นส์ เอกสิทธิ์เฉพาะวีต้า สกัดจนได้หยดเอสเซ้นส์เข้มข้นทำให้เก็บคุณประโยชน์จากธรรมชาติไว้ได้สูงที่สุด ไม่มีสารแต่งกลิ่นและไม่เติมน้ำตาลอีกด้วย ข้อมูลจากกรมสถิติเปิดเผยว่าคนส่วนใหญ่ใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์มากกว่าวันละ 8 ชั่วโมง ยังไม่นับรวมมือถือแท็ปเล็ตต่างๆซึ่งนับวันจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้น ซึ่งเราไม่เคยรู้เลยว่า แสง Blue Light ที่มาจากหน้าจอ ทำร้ายดวงตาของเราโดยทำให้เกิดอนุมูลอิสระสะสม ทำร้ายเซลล์ดวงตา และก่อให้เกิดความผิดปกติทางสายตาบางอย่าง เช่น ตาแห้ง ตาล้า ตาพร่ามัว ซึ่งอย่าคิดว่าไม่สำคัญเพราะเป็นการเพิ่มความเสี่ยง และต้นเหตุที่นำไปสู่โรคทางสายตาที่รุนแรงและรักษาได้ยาก เช่น จอประสาทตาเสื่อม ต้อหิน ต้อกระจก เป็นต้น เนื่องจากตลาดเครื่องดื่มนี้ ยังเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหม่ แต่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการดูแลดวงตาอยู่เป็นจำนวนมาก วีต้าเบอร์รี่ ผู้นำตลาดจึงได้อัพเกรดสินค้าขึ้นเป็นสูตรวิตามินเอ 2เท่า (100%RDI) ซึ่งคิดว่าจะตอบโจทย์ความต้องการดูแลดวงตาของผู้บริโภคในยุคดิจิตอลได้เป็นอย่างดี แบรนด์วีต้าเบอร์รี่จึงมีนโยบายในการรณรงค์ให้คนไทยกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา ที่ใช้หน้าจอต่างๆนานๆต่อวัน หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพดวงตา มากขึ้นโดยการรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา ซึ่งวีต้าเบอร์รีเป็นหนึ่งในทางเลือก อาหารบำรุงสายตาที่มีคุณภาพสูง เพราะมีวิตามินเอสูงพอเหมาะในปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน (100%RDI) วิตามินซี และอี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงมีแอนโทไซยานิน พฤกษเคมีจากผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ที่มีประโยชน์ต่อดวงตา นอกจากนี้แบรนด์วีต้าเบอร์รี่ยังได้วางงบประมาณสำหรับกิจกรรมทางการตลาดกว่า 40 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมทางการตลาดครบวงจร พร้อมกับเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาทางทีวีชุด “อยู่หน้าจอ...ไม่ต้องรอดื่มวีต้าเบอร์รี่สูตรอัพเกรดทุกวัน” ซึ่งนำแสดงโดย ณเดชณ์ คุกิมิยะ แบรนด์แอมบาสเดอร์ของวีต้าเบอร์รี่ ที่เพียงแค่เห็นแววตาก็จะนึกถึงวีต้าเบอร์รี่ทันที โดยโทนของการเล่าเรื่องยังคงใช้เพลงที่สดใส สนุกสนาน ในแบบฉบับของวีต้าเบอร์รี่ สอดแทรกการใช้ชีวิตติดจอ ติดคอมของสาวๆ ทั้งหลายที่ถูกตัวเลข ตัวอักษร จากหน้าจอพุ่งออกมาทำร้าย แต่ไม่ว่าจะเจออีกกี่หน้าจอ พวกเธอก็มีวีต้าเบอร์รี่สูตรอัพเกรด ที่ช่วยในการมองเห็น นอกจากนี้ยังมีสื่อสนับสนุนอื่นๆ อาทิ สื่อทีวีในรถไฟฟ้าบีทีเอส, วิทยุในห้างสรรพสินค้า, ชงชิมในห้าง, และป้ายโฆษณาตามจุดต่างๆ โดยตั้งเป้าหมายในการขยายตลาดให้เติบโตในปี 2014 อย่างน้อย 10-15% จากมูลค่าโดยตลาดรวมประมาณ 2,200 ล้านบาท แบรนด์วีต้ายังคงเป็นเจ้าตลาด ด้วยส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 80%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ