กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--เอพี (ไทยแลนด์)
AP ย้ำจุดแข็งเป็นผู้นำพัฒนาคอนโดเนียมในเมือง ที่เชี่ยวชาญในการจัดสรรพื้นที่ใช้สอย เดินหน้าจับมือ Mitsubishi Estate Group บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีสินทรัพย์มากเป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น ร่วมกันพัฒนาคอนโด 3 โครงการใหญ่ มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท ด้วยการผสานปรัญชาแนวคิดในการออกแบบของทางญี่ปุ่นเข้ากับไลฟ์สไตล์คนไทยในทำเลติดรถไฟฟ้า เตรียมเปิดตัวพร้อมกันกลางพฤษภาคมนี้
คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการผสานความร่วมมือทางธุรกิจกับทางมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (Mitsubishi Estate Group-MEC) ว่า สืบเนื่องจากเป้าหมายองค์กรที่ต้องการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ไวต่อการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า (To Be The Most Responsive Creator) โดยตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ สอดรับกับวิถีการดำเนินชีวิตของคนเมืองในปัจจุบัน ซึ่งการผสานความร่วมมือทางธุรกิจกับทาง MEC ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ AP ในการเพิ่มศักยภาพขององค์กร ตลอดจนบุคลากรภายในให้มีความรู้ ความสามารถ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการส่งทีมงานของทาง AP ไปเรียนรู้วิธีคิด วิธีการทำงาน ทั้งในเรื่องของขั้นตอนการก่อสร้าง การตรวจสอบคุณภาพสินค้า ตลอดจนขั้นตอนในการขาย เพื่อนำมาต่อยอดในการดำเนินงานให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล
สำหรับเป้าหมายในการผสานความร่วมมือครั้งนี้ นอกเหนือจากการได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกับทีมงานของทาง MEC แล้ว ยังเป็นการย้ำถึงจุดแข็งของ AP ที่เป็นผู้นำในการพัฒนาคอนโดเนียมที่เชี่ยวชาญในการจัดสรรพื้นที่ใช้สอย ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคนเมือง ที่นิยมความสะดวกสบายในการเดินทางและมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในเมือง ซึ่งการผสานความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกันเชิงลึกระหว่างทีม Product Design ของ AP กับทีมดีไซเนอร์ของทางบริษัท Mitsubishi Jisho Sekkei ซึ่งเป็นบริษัทสถาปนิกมืออาชีพในเครือของ MEC เพื่อนำปรัชญาแนวคิดในการออกแบบจากทางญี่ปุ่นมาผสมผสานกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนไทย ผ่านนวตกรรมดีไซน์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากการคิดค้นร่วมกัน เพื่อให้ทุกตารางนิ้วภายในคอนโดมิเนียมของ AP สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าสูงสุด (Space Optimization)
ทั้งนี้ โครงการภายใต้การร่วมทุน ประกอบด้วย 3 โครงการ มูลค่าประมาณ 7,100 ล้านบาท ใน 3 ทำเลติดรถไฟฟ้า โดยได้วางกลุ่มเป้าหมายไว้แตกต่างกัน คือ 1) RHYTHM สุขุมวิท 36-38 ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อเพียง 300 เมตร โฟกัสผู้ที่ชื่นชอบความหลากหลายของการใช้ชีวิตในโซนสุขุมวิท 2) RHYTHM อโศก II เพียง 400 เมตรจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพระราม9 และ 60 เมตรจากทางด่วน เหมาะสำหรับกลุ่มคนทำงานย่านอโศกหรือรัชดาภิเษก และ 3) Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีวงศ์สว่าง เพียง 50 เมตร เจาะกลุ่มลูกค้าที่เดินทางเข้ามาทำงานในเมืองหรือย่านรัชโยธิน ซึ่งทั้ง 3 โครงการมีแผนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกันในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้
คุณฮิโรทากะ สึกิยามะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ MEC กล่าวว่า มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ถือเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรในญี่ปุ่นมีประวัติความเป็นมายาวนานด้านการพัฒนาอาคารสำนักงาน โดยเริ่มต้นจากการซื้อที่ดินบริเวณมารุโนะอุจิจากรัฐบาลเมื่อปีค.ศ. 1890 โดยดำเนินธุรกิจครอบคลุมหลายด้าน ตั้งแต่การพัฒนา การบริหารจัดการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ควบคุมการบริหารจัดการอาคารสำนักงานและพื้นที่เพื่อการค้า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนและการขายเพื่ออยู่อาศัย รวมไปถึงการออกแบบและควบคุมดูแลอสังหาริมทรัพย์ และการเป็นตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ 3 แห่ง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และประเทศในแถบเอเชีย โดยได้เข้าไปพัฒนาและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1970 โดยได้ถือครองอาคารสำนักงานในเขตแมนฮัตตัน และโครงการลงทุนและพัฒนาในอีกหลายเมืองของสหรัฐ ผ่าน Rockefeller Group ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ส่วนธุรกิจพัฒนาและลงทุนในสหราชอาณาจักรของเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 โดยได้พัฒนาโครงการแบบรื้อสร้างใหม่ที่มีชื่อว่า ปาแตร์นอสแตร์ สแควร์ (Paternoster Square) ซึ่งอยู่ติดกับมหาวิหารเซนต์พอล (St Paul's Cathedral) ส่วนในเอเชียนั้นได้ตั้งบริษัท Mitsubishi Estate Asia Pte. Ltd. ขึ้นที่สิงคโปร์เมื่อปี ค.ศ. 2008 และนับแต่นั้นมาก็ได้ทำธุรกิจพัฒนาอาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์ รวมทั้งแสวงหาโอกาสในการลงทุนในประเทศอื่นๆ แถบนี้อย่างต่อเนื่อง
บริษัทฯ รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท เอพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งประเทศไทยเองก็ถือเป็นประเทศหนึ่งที่มีภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจที่ดี ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และจากปรัญชาในการดำเนินธุรกิจด้วยความจริงใจทั้งต่อพันธมิตรและลูกค้าของทาง AP นั้น ถือว่ามีความคล้ายคลึงกับปรัชญาในการดำเนินงานของทาง มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ที่ว่า A Love for People, A Love for City จึงมั่นใจว่าเมื่อนำองค์ความรู้เกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทยที่ AP มีอย่างดีเยี่ยม มาผนวกเข้ากับองค์ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนามารุโนะอุจิที่บริษัทฯ ดำเนินมานานกว่า 100 ปี รวมทั้งประสบการณ์ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ทาง มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป สั่งสมมาตลอด 50 ปี ทำให้มั่นใจว่าเราจะร่วมกันสร้างคุณค่าใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมทั้งนำเสนอสินค้าที่สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าและประสบความ สำเร็จในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย
“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจากนี้ไป AP และ กลุ่มบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จะดำเนินงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว และเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของกันและกันตราบนานเท่านาน” คุณฮิโรทากะ สึกิยามะ กล่าว
การร่วมทุนครั้งนี้ดำเนินการภายใต้การลงนามในสัญญาร่วมทุนกับ บริษัท MEC Thailand Investment Pte.Ltd (MTI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่จัดตั้งขึ้นโดย บริษัท Mitsubishi Estate Asia Pte. Ltd. (MEA) และ Mitsubishi Jisho Residence Co., Ltd. (MJR) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Mitsubishi Estate Co., Ltd. (MEC) โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นของแต่ละบริษัทในอัตรา AP 51% : MTI 49%
บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ MEC หนึ่งในผู้นำการพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรในประเทศญี่ปุ่น มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว MEC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว พ.ศ. 2496 ดำเนินงานครอบคลุมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการบริหารจัดการโครงการขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโครงการที่อยู่อาศัย (Residential Properties) ธุรกิจโครงการสำนักงาน (Office Buildings) ธุรกิจศูนย์การค้า (Retail Properties) และธุรกิจโรงแรม (Hotel Business) ซึ่งทุกโครงการมีความโดดเด่นในด้านคุณภาพ การออกแบบสถาปัตยกรรมและการบริหารพื้นที่ใช้สอยอย่างยั่งยืน โดยทีมออกแบบ ทีมควบคุมคุณภาพ และทีมสถาปนิกในเครือบริษัท Mitsubishi Jisho Sekkei (MJS) ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและบริหารอสังหาริมทรัพย์
ผลงานที่เห็นได้อย่างชัดเจนในกรุงโตเกียว คือ การพัฒนาโครงการสำนักงานกว่า 30 โครงการ และเป็นผู้พัฒนาเขตธุรกิจสำคัญใจกลางโตเกียว เช่น เขต Marunouchi มานานกว่า 120 ปี โดย Marunouchi เป็นเขตธุรกิจสำคัญที่มี คลอบคลุมพื้นที่กว่า 1,200,000 ตารางเมตร (120 hectares) ประกอบด้วยอาคารสำนักงานกว่า 100 อาคาร จำนวนกว่า 4,000 บริษัท และมีพนักงานกว่า 230,000 คน นอกจากนี้ MEC ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในประเทศญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 50 ปี อีกทั้งยังเข้าลงทุนพัฒนาโครงการในหลายๆ ประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และประเทศในกลุ่มเอเชีย โดยการดำเนินงานผ่านบริษัท MEA ประเทศสิงค์โปร์