กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--แอกซ่าประกันภัย
แอกซ่าประกันภัยปลื้มผลประกอบการปี 2556 วิ่งฉิวเติบโต 16% สร้างเบี้ยประกันภัยทะลุมากกว่า 3,000 ล้าน และปิดหีบผลิตกำไรสุทธิดีเยี่ยม 408 ล้านบาท เตรียมรุกปีม้าทองขอขยายตัวต่อเนื่องตั้งเป้าเติบโตเหนือตลาด พร้อมลงทุนสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เอาใจลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ
นายมาร์ติน รูแอค กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 “แอกซ่าประกันภัยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 3,170 ล้านบาท เติบโตขึ้น 16% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้านี้ โดยเบี้ยประกันภัยรับมาจากพอร์ทงานรับประกันภัยธุรกิจรายบุคคล รายบรรษัท และประกันภัยสุขภาพ นอกจากนี้ คู่ค้าทางธุรกิจจากช่องทางต่างๆ ให้การสนับสนุนดีเยี่ยม ผนวกกับกลยุทธ์ที่สร้างความหลากหลายในแผนประกันภัยที่คุ้มค่าให้กับลูกค้า จึงทำให้บริษัทฯประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมา”
นอกจากการเติบโตที่มากกว่าอัตราการเติบโตของตลาดแล้ว ในส่วนของผลประกอบการอื่นๆ ยังเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก โดยสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 แอกซ่ามีกำไรจากการรับประกันภัยและกำไรจากการลงทุนดีเยี่ยม ทำให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 408 ล้านบาท(1) นอกจากนี้ แอกซ่าประกันภัยยังมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ที่ 322% ซึ่งมากกว่าที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้กำหนดไว้ถึง 2.3 เท่า
“ผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมในปี 2556 เป็นสิ่งที่พิสูจน์อย่างชัดเจนว่าแอกซ่าประกันภัยเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งตัวจริง หลังจากผ่านหลายปีที่ท้าทาย เช่น มหาอุทกภัยปี 2554 และเหตุการณ์อื่นๆ และเมื่อเร็วๆ นี้ จากการวิจัย Thailand’s Most Admired Brand ประจำปี 2557 ของนิตยสารแบรนด์เอจ(2) ซึ่งเป็นการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคและปัจจัยที่ผู้บริโภคใช้ในการตัดสินใจซื้อสินค้าแอกซ่าประกันภัยได้รับ
คัดเลือกให้เป็นแบรนด์บริษัทประกันต่างชาติที่ดีสุดในหมวดธุรกิจประกันวินาศภัยและในระดับภูมิภาค แอกซ่าประกันภัยยังได้รับรางวัลจากแอกซ่า เอเชีย โดยสามารถพิชิตชัย AXA Star Awards 3 รางวัล ในเวลาเดียวกัน ซึ่งได้แก่ บริษัทที่มีผลงานยอดเยี่ยมที่สุดในภูมิภาคเอเชีย รางวัลบริษัทที่มีอัตราการเติบโตที่ดีที่สุด และรางวัลบริษัทที่มีการปรับปรุงผลกำไรที่ดีที่สุด ซึ่ง 3 รางวัลนี้ถือเป็นรางวัลที่น่าภาคภูมิใจที่แอกซ่าประกันภัยได้รับ และยังทำให้กลุ่มแอกซ่ามั่นใจในการลงทุนในประเทศไทยต่อไป” นายมาร์ตินกล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2557 นายมาร์ตินกล่าวต่อว่า “เรามั่นใจในแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ โดยในปี 2557 แอกซ่าประกันภัยพร้อมเดินหน้าเต็มที่ ตั้งเป้าการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับเหนือกว่าอัตราการเติบโตของตลาดรวมทั้งมีผลกำไรที่ต่อเนื่อง โดยแอกซ่าประกันภัยให้ความสำคัญในการเลือกพิจารณารับงานประกันภัย และรุกช่องทางการจัดจำหน่ายเน้นสร้างความเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกัน ประกอบกับสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับลูกค้าในปัจจุบันให้มากขึ้น นอกจากนี้ แอกซ่าประกันภัยยังมีแผนเปิดตัวแผนประกันภัยใหม่ๆที่ยังไม่มีในตลาดประกันภัยไทย เน้นให้ความคุ้มค่าและเพิ่มผลประโยชน์ให้กับผู้เอาประกันภัยโดยตรง พร้อมขยายช่องทางธุรกิจใหม่ผ่านธุรกิจออนไลน์กับลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ และขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เราได้เปิดสาขาเชียงรายและสาขาอุบลราชธานีไปเรียบร้อยแล้ว”
นอกจากเป้าหมายในการสร้างปี 2557 ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ แอกซ่าประกันภัยยังคงให้ความสำคัญต่อความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร (Corporate Responsibility) โดยทางบริษัทฯ ได้สานต่อนโยบายหลักของกลุ่มแอกซ่าที่ร่วมทำกับองค์กรแคร์ นานาชาติ ในโครงการ Where the Rain Falls หรือฝนตกที่ไหนในประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการวิจัยระดับโลกเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป โดยแอกซ่ามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือประชากรที่ได้รับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศ พร้อมสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนให้สามารถจัดบริหารทรัพยากรน้ำได้ดีขึ้น โดยพนักงานจิตอาสาของแอกซ่าจะเดินทางไปสร้างฝายชะลอน้ำในเดือนเมษายนนี้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรภาคเหนือให้สามารถมีน้ำไปใช้ในการเกษตรได้ตลอดทั้งปี และเมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มแอกซ่าได้ต่อสัญญาเป็นพาร์ทเนอร์เพิ่มอีก 3 ปี (2557-2559) กับองค์กรแคร์ นานาชาติ ด้วยเงินสนับสนุนกว่า 2.3 ล้านยูโรหรือ 102.7 ล้านบาท
** (1)ผลยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบบัญชี
** (2)นิตยสารแบรนด์เอจ ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2557
เกี่ยวกับ บมจ.แอกซ่าประกันภัย ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2541 เป็นสมาชิกของกลุ่มแอกซ่าทั่วโลก เป็นกลุ่มบริหารทางการเงินระดับโลก แอกซ่า ประเทศไทยมีการขยายเครือข่ายทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ และมีสาขา 17 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ คือ เชียงราย เชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี ชลบุรี พัทยา ระยอง จันทบุรี หัวหิน สุราษฎร์ธานี สมุย หาดใหญ่ และภูเก็ต