กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--วีเอส 09 ออริจินัล เฮิร์บ
วีเอส 09 ออริจินอลเฮิร์บ เปิดแผนรุกตลาดสบู่ผสมสมุนไพรทั้งในและต่างประเทศ เร่งศึกษาตลาดและมองหาพันธมิตรในอาเซียน เล็งพัฒนาการค้าแนวตะเข็บชายแดน ทั้งลาว กัมพูชา เมียนมาร์ และมาเลเซีย ย้ำผู้บริโภคเชื่อมั่นสินค้าจากไทยเพราะมีความคุ้นเคยและวัฒนธรรมใกล้เคียงกับคนไทย เผยลาดมีคู่แข่งสินค้าจะต้องมีคุณภาพ
นางสิญจ์พธู หาญวรากิตติ์ กรรมการฝ่ายพัฒนาการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท วีเอส 09 ออริจินอล เฮิร์บ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสบู่ผสมสมุนไพรแบรนด์ “วิภาดา” เปิดเผยถึงแผนการตลาดในช่วงต่อจากนี้ว่า บริษัทฯ มีนโยบายที่จะขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดภายในประเทศนั้นได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนากระบวนการจัดจำหน่ายให้กระจายสินค้าได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น ทั้งในรูปแบบของความร่วมมือกับศูนย์กระจายสินค้าในภูมิภาคต่าง ๆ รวมทั้งพ่อค้าขายส่งและขายปลีก นอกจากนี้แล้วยังมีแผนที่จะลงทำเอ็มโอยู (MOU) กับผู้แทนจำหน่ายที่มีศักยภาพในการกระจายสินค้าได้ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาตลาดของบริษัทฯ สำหรับการขยายตลาดในต่างประเทศนั้นขณะนี้อยู่ในช่วงของการศึกษาตลาดและเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ เพื่อขยายตลาดไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะเรื่องการหาและทำความรู้จักกับพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมากในการบุกตลาดต่างประเทศ ที่ผ่านมาได้ให้ความสำคัญกับการเก็บข้อมูลด้านการตลาด และแนวโน้มความเป็นไปได้ในการลงทุนในประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน ทั้งจากองค์กรของภาครัฐและตัวแทนการค้าในแต่ละท้องถิ่น คาดว่าภายในไตรมาส 3 ของปีนี้น่าจะมีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว
“ตลาดภายในประเทศนั้นไม่ได้หนักใจมากนัก เนื่องจากผลิตภัณฑ์สบู่ผสมสมุนไพรวิภาดามีจุดขายในตัว และเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่แล้ว สำหรับตลาดต่างประเทศนั้นต้องให้เวลากับการศึกษาปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพฤติกรรมผู้บริโภค วัฒนธรรม รวมทั้งสิ่งแวดล้อมทางการตลาดที่เกี่ยวข้อง แต่สิ่งที่สามารถทำได้ในเร็ว ๆ นี้ก็คือ การขยายตลาดบริเวณตะเข็บชายแดน เพราะที่ผ่านมาพ่อค้าคนกลางได้ทำหน้าที่กระจายสินค้าในจังหวัดชายแดน และส่งผลิตภัณฑ์สบู่ข้ามไปขายกับพ่อค้าที่อยู่ในท้องถิ่นของประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้ว แม้ว่ายังมีปริมาณไม่มากนักแต่มีแนวโน้มว่าความต้องการซื้อจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ บริษัทฯ จึงมีแผนที่จะโฟกัสตลาดดังกล่าวให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น” นางสิญจ์พธูกล่าว
นางสิญจ์พธู เปิดเผยเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าจะสามารถขยายตลาดบริเวณชายแดนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมาภาครัฐก็มีนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนการค้าชายแดนอยู่แล้ว ในขณะเดียวกันอุตสาหกรรมในกลุ่มอุปโภคและบริโภคจากประเทศไทยก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ และมาเลเซีย โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายและถนอมผิวพรรณ รวมทั้งเครื่องสำอางที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในตราสัญลักษณ์และคุณภาพของสินค้าไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และผู้บริโภคที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนคุ้นเคยกับสินค้าไทยรวมทั้งมีวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน ที่สำคัญประเทศเพื่อนบ้านยังไม่สามารถผลิตสินค้ากลุ่มดังกล่าวได้ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการซื้อ ทั้งนี้ การค้าชายแดนอาจไม่ใช้งบประมาณในการลงทุนพัฒนาตลาดมากนัก เพราะบริษัทฯ มีศักยภาพในการเชื่อมต่อกับตัวแทนจำหน่ายในภูมิภาคต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณจังหวัดชายแดนอยู่แล้ว โดยเฉพาะในประเทศแถบอินโดจีน รวมทั้งประเทศทางตอนใต้อย่างมาเลเซีย อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ประกอบการไทยที่ต้องการเปิดตลาดในภูมิภาคอาเซียน จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้า เนื่องจากตลาดการค้าชายแดนนั้นมีคู่แข่งจากชาติอื่นๆ โดยเฉพาะสินค้าจากจีน รัสเซีย และเวียดนาม