กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--ประชาสัมพันธ์ โครงการ ASIA VENTURE CHALLENGE 2014
เวทีการแข่งขันแผนธุรกิจระดับภูมิภาคเอเชีย “ASIA VENTURE CHALLENGE 2014” เปิดฉากอย่างเป็นทางการ โดยมีหม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด ประเดิมการแข่งขันนัดแรกอย่างเข้มข้น โดยการแข่งเสนอแผนธุรกิจภายในเวลา 60 วินาที จากตัวแทนผู้เข้าแข่งขัน ต่อจากนั้นนักศึกษาทุกทีมจะต้องแข่งขันกันต่ออีกหลายรอบ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแผนธุรกิจระดับภูมิภาคเอเชีย ชิงทุนการศึกษากว่า 18,000 เหรียญสหรัฐและเตรียมเป็นตัวแทนของเอเชียเข้าแข่งขันแผนธุรกิจระดับโลกที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้ชนะระดับโลกจะได้รับเงินรางวัล 100,00 เหรียญสหรัฐ และมีโอกาสลั่นระฆังเปิดตลาดหุ้น NASDAQ ที่นิวยอร์ก อีกด้วย
หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล กล่าวว่า “นับเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ทางคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้จัดโครงการประกวดแผนธุรกิจ “ASIA VENTURE CHALLENGE” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำต่างๆ ในประเทศไทย นักศึกษาไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันประกวดแผนธุรกิจในครั้งนี้จะได้ประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีค่าต่อชีวิตในวันข้างหน้าอย่างมาก ทั้งการเสริมสร้างทักษะในเรื่องการเขียนแผนธุรกิจ และการนำเสนอแผนธุรกิจอย่างมืออาชีพ และโอกาสที่ได้ประชันความรู้ความสามารถกับนักศึกษาจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวนักศึกษาเองในการเตรียมพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ประกอบการธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์และศักยภาพในอนาคต”
ศ.ดร. ศิริลักษณ์ โรจนกิจอำนวย คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า “การแข่งขันประกวดแผนธุรกิจระดับภูมิภาคเอเชีย “ASIA VENTURE CHALLENGE 2014” ภายใต้แนวคิด “ซื่อตรงต่อธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน” ได้รับความสนใจจากนักลงทุน และนักธุรกิจชั้นนำทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก โดยมีนักศึกษาเข้า
แข่งขันทั้งหมด 12 ทีม จาก 9 ประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินเดีย ไทย เกาหลี และ บังคลาเทศ เชื่อว่าทุกทีมเตรียมตัวมาอย่างดี จึงคาดว่าการแข่งขันในแต่ละรอบจะเข้มข้นและน่าสนใจมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน”
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “นับเป็นปีที่ 9 ติดต่อกันที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพและทักษะเชิงธุรกิจของนักศึกษาไทยผ่านโครงการประกวดแผนธุรกิจในระดับเอเชีย “ASIA VENTURE CHALLENGE 2014” เวทีที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ทางธุรกิจและมีโอกาสเรียนรู้ทักษะเชิงธุรกิจ เช่น การวางแผนทางธุรกิจ การวางแผนด้านการเงิน การเขียนแผนงานธุรกิจและทักษะการนำเสนองาน เป็นการเตรียมความพร้อม หาประสบการณ์จริง เพื่อพัฒนาเป็นนักธุรกิจไทยที่มีศักยภาพในอนาคต เพราะจากสถานการณ์ธุรกิจปัจจุบัน พบว่าผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญกับความท้าท้ายที่เพิ่มขึ้นทั้งจากปัจจัยภายในประเทศ เช่น นโยบายการเพิ่มรายได้แรงงาน และจากปัจจัยภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และการเปิดตลาดเสรีทางการค้าในปี 2558 รวมถึงความต้องการจำนวนผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยที่มีอยู่ จำเป็นต้องเร่งปรับตัวเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของไทยในอนาคต”
ศ.ดร. ศิริลักษณ์ โรจนกิจอำนวย คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า “นักศึกษาของประเทศไทย มีความสามารถเป็นที่ยอมรับเนื่องจากเคยได้รับรางวัลชนะเลิศมา 3 ปีซ้อน รวมทั้งเคยคว้ารางวัลแชมป์โลก จากการแข่งขันแผนธุรกิจระดับโลก Venture Labs Investment Competition (VLIC) ที่มหาวิทยาลัย เท็กซัส แห่งออสติน ประเทศสหรัฐอเมริกามาแล้ว ดังนั้น จึงคาดว่าในปีนี้ นักศึกษาไทย 2 ทีม คือ ทีม SugarDrop จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ทีม RediGen จากสถาบันศศินทร์ มีลุ้นเข้าไปถึงรอบชิงแชมป์ในระดับภูมิภาค ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 13 มีนาคม 2557 เวลา 13.00 น. ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี่ โดยในรอบชิงแชมป์ (final round) นี้จะมีการนำเสนอแผนธุรกิจ 45 นาที พร้อมการถามสดจากคณะกรรมการ เปิดโอกาสผู้สนใจทั้งนิสิต นักศึกษา นักธุรกิจ นักลงทุน และประชาชนทั่วไปเข้าฟังรอบ final round ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด”
อนึ่ง โครงการประกวดแผนธุรกิจระดับภูมิภาคเอเชีย “ASIA VENTURE CHALLENGE 2014” ได้รับการสนับสนุนหลักจากองค์กรธุรกิจชั้นนำ ได้แก่ บมจ.ปตท (PTT), ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บริษัท แกรนท์ ธอนตัน จำกัด, บริษัท บอดี้ โกลฟ บีจีที คอร์ปอเรชั่น จำกัด, (มหาชน), บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ห้องอาหารสีฟ้า จำกัด, โคนิก้า มินอลต้า และ แอร์เอเชีย