กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--ธามดี พลัส
ศูนย์วิจัยทองคำเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือนมี.ค. 57 เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.พ.57 อยู่ที่ระดับ 53.73 จุด คงมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำในประเทศเป็นเดือนที่สาม ด้านผู้ค้าคาดราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบ 1,280 – 1,400 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ปัจจัยลบลดคิวอียังเป็นหลัก เงินบาท-ความเสี่ยงยูเครนปัจจัยหนุน
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ (Gold Price Sentiment Index) เดือนมีนาคม 2557 ว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำอยู่ที่ระดับ 53.73 จุด เพิ่มขึ้น 0.18 จุด หรือ 0.3% ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 53.55 จุด สะท้อนทัศนคติที่มีต่อราคาทองคำในประเทศยังเป็นเชิงบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่สาม อย่างไรก็ดีค่าดัชนีดังกล่าวยังอยู่ใกล้ระดับ 50 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ใช้เปรียบเทียบจึงอาจไม่สะท้อนมุมมองเชิงบวกมากเท่าที่ควร โดยกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าความผันผวนของค่าเงินบาท การลดขนาดมาตรการคิวอีและความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อราคาทองคำเดือนมีนาคม
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำโดยรวมในช่วงสามเดือนปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.00 จุด หรือ 30.62% อยู่ที่ระดับ 59.72 จุด จากความวิตกกังวลต่อความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย โดยนักลงทุนมองเป็นความเสี่ยงทั้งด้านเศรษฐกิจ และความมั่นคงในระดับโลก จึงคาดว่าจะเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
นายกมลธัญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศยูเครนยังเป็นปัจจัยที่กระทบราคาทองคำในระยะสั้น แม้ว่าขณะนี้จะเริ่มเห็นสัญญาณคลี่คลาย รวมถึงต้องมองแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะทำให้มีการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินจากผ่อนคลายเริ่มที่จะเข้มงวดมากขึ้น ส่งผลต่อทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงดอกเบี้ย ซึ่งมองว่าการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะกดดันให้ค่าเงินบาทมีการอ่อนค่าในเชิงเปรียบเทียบทำให้ราคาทองคำในประเทศจะได้รับผลกระทบต่อประเด็นดังกล่าวไม่สูงเท่าราคาทองคำในตลาดโลก
ดร.ทรรศนะ บุญขวัญ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยบทสรุปความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ (Gold Trader Consensus) ที่รวบรวมตัวอย่างจากผู้ค้าส่งทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 10 ตัวอย่าง เชื่อว่า ราคาทองคำในตลาดโลกช่วงเดือนมีนาคมโดยเฉลี่ยน่าจะเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ โดยให้กรอบการเคลื่อนไหวในกรอบ 1,280 – 1,400 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ โดยกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่ากรอบราคาต่ำสุดในเดือนมีนาคมน่าจะอยู่ในช่วง 1,280-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่กรอบสูงสุดน่าจะอยู่ในกรอบ 1,390-1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 96.5%) กลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าราคาจะเคลื่อนไหวระหว่าง 19,800-21,600 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดกลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักระหว่าง 19,800-20,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และมีกรอบการเคลื่อนไหวสูงสุดบริเวณ 21,000-21,200 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ โดยมีประเด็นความผันผวนของค่าเงินบาท ความเสี่ยงในยูเครนซึ่งอาจจะตามมาด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจและการเมือง การลดขนาดมาตรการคิวอี และอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนที่เพิ่มขึ้นจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย การลงทุนและการบริโภคจริง