กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--ไทยออยล์
นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 บริษัทฯ ได้ร่วมกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ และมีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นนายทะเบียนหุ้นกู้ ได้เปิดให้ผู้ลงทุนสถาบันและ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่แสดงความจำนงซื้อหุ้นกู้บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2557 หุ้นกู้ดังกล่าวมีมูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ แบ่งเป็น 4 ชุด ดังนี้
หุ้นกู้ชุดที่ 1 มูลค่า 2,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2560 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.41% ต่อปี
หุ้นกู้ชุดที่ 2 มูลค่า 3,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2562 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.13% ต่อปี
หุ้นกู้ชุดที่ 3 มูลค่า 3,000 ล้านบาท อายุ 7 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2564 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.61% ต่อปี
หุ้นกู้ชุดที่ 4 มูลค่า 7,000 ล้านบาท อายุ 10 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.84% ต่อปี
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า “ ในการเสนอขายหุ้นกู้ไทยออยล์จำนวนรวม 10,000 ล้านบาท และมีหุ้นกู้สำรองสำหรับเสนอขายเพิ่มเติมอีกไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ปรากฏว่าหุ้นกู้ฯ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก โดยมียอดแสดงความจำนงในหุ้นกู้ทั้ง 4 ชุดรวมสูงกว่าจำนวนที่บริษัทฯ จะเสนอขายกว่า 4.29 เท่า ทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจออกหุ้นกู้ในครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท โดยได้มีการเสนอขายในระหว่างวันที่ 7, 10-11 มีนาคม ที่ผ่านมา การออกและเสนอขายหุ้นกู้สกุลเงินบาทดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในนโยบายด้านการบริหารทางการเงินของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดหาเงินกู้ โดยเงินที่ได้จากการออกและเสนอขายหุ้นกู้จะนำมาใช้เพื่อเป็นเงินลงทุน และ/หรือเงินทุนหมุนเวียน ”
นายวีรศักดิ์ กล่าวเสริมว่า “การออกและเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ที่อนุมัติให้บริษัทฯ ออกและเสนอขายหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศ วงเงินรวมกันไม่เกิน 15,000 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555 และ 2556 ได้อนุมัติวงเงินให้บริษัทฯ ออกและเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่นักลงทุนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ในวงเงินคงเหลือจำนวนรวม 1,150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
หุ้นกู้ไทยออยล์ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัดที่ระดับ AA-(tha) อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงการที่บริษัทฯ ดำเนินกิจการโรงกลั่นน้ำมันที่มีกำลังการผลิตสูงโดยเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งดำเนินธุรกิจเชิงบูรณาการด้านการกลั่นนำมันและปิโตรเคมีที่ต่อเนื่องอย่างครบวงจร มีกระบวนการกลั่นน้ำมันแบบคอมเพล๊กซ์ที่สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปชนิดที่มีมูลค่าสูงได้ในสัดส่วนที่สูง ในขณะที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ ทำให้สามารถรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆในภูมิภาคฯนอกจากนั้นการที่บริษัทฯขยายสายการผลิตไปยังธุรกิจปิโตรเคมี นำมันหล่อลื่นพื้นฐาน ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจขนส่งทางเรือและทางท่อ ธุรกิจพลังงานทดแทน เป็นการเพิ่มระดับการผลิตแบบครบวงจร ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของส่วนต่างรายได้กับต้นทุน
ความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ เป็นผลมาจากผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องและมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง อันเนื่องมาจากกระแสเงินสดและความสามารถในการชำระหนี้ยังอยู่ในระดับที่สูง รวมถึงความเชื่อมโยงกับ บมจ.ปตท. ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ โดยบริษัทฯ มีความสำคัญด้านกลยุทธ์ต่อ บมจ.ปตท.เนื่องจากเป็นโรงกลั่นที่สำคัญในกลุ่มโรงกลั่นนำมันที่เป็นบริษัทในเครือของปตท. รวมถึงเป็นผู้ขายนำมันสำเร็จรูปหลักให้กับธุรกิจค้าปลีกนำมันของ ปตท.อีกด้วย และล่าสุดในเดือน มกราคม 2557 ที่ผ่านมาไทยออยล์ได้รับการประกาศจาก RobecoSAM ซึ่งเป็นผู้ทำการประเมินให้แก่ DJSI ให้เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในกลุ่มธุรกิจน้ำมันและแก๊สระดับ Gold Class ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดของรางวัล Sustainability Award 2014 โดยมีคะแนนอยู่ในกลุ่มสูงสุด 1% แรกของโลกในอุตสาหกรรมนี้ ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นจากผู้มีส่วนได้เสียตลอดจนได้รับการจับตามองจากกลุ่มนักลงทุนทั่วโลก เหล่านี้ล้วนเป็นจุดแข็งที่ส่งผลให้นักลงทุนแสดงความจำนงในหุ้นกู้ไทยออยล์อย่างล้นหลามในครั้งนี้ ”