ความไม่สงบทางการเมืองของไทยส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดหมึกพิมพ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดย ไอดีซี

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday March 12, 2014 16:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--ไอดีซี ไอดีซีพบว่า ตลาดหมึกพิมพ์ไตรมาสที่ 4 ปี 2557 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น หดตัวลงร้อยละ 2.4 จากไตรมาสที่ 3 และลดลงร้อยละ 4.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 1,652.14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แม้ว่าภาพรวมตลาดหมึกพิมพ์ในภูมิภาคนี้จะแสดงถึงการเติบโตในประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อย่าง ประเทศจีน เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย แต่ทว่าปัจจัยด้านฤดูกาลส่งผลกระทบต่อประเทศออสเตรเลีย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นมาจากประเทศไทย เมื่อความไม่สงบทางการเมืองได้ส่งผลกระทบต่อช่องทางการจำหน่าย รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้ใช้งานในภาคธุรกิจต่าง ๆ และตลาดก็ได้หดตัวลงเป็นอย่างมาก ตลาดหมึกพิมพ์ในประเทศไทยพบว่าหดตัวลงถึงร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงถึงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการหดตัวลงในทุกประเภทของหมึกพิมพ์ จากภาพรวมของตลาดหมึกพิมพ์ทั้งหมด ตลาดหมึกพิมพ์ของผู้ค้าที่เป็นมือที่สาม (third party brand) มีสัดส่วนของตลาดเกือบ 370 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 22 ของมูลค่าตลาดทั้งหมด ในขณะที่ ผู้ผลิต OEM มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นในตลาดหมึกพิมพ์ตลับเนื่องจากความประหยัดและผลตอบแทนสูงจากตลาดหมึกพิมพ์ตลับ อีกด้านหนึ่งนั้นผู้ค้าที่เป็นมือที่สาม (Third party vendors) กำลังมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างมากในตลาดเลเซอร์โทนเนอร์ ผู้ค้าที่เป็นมือที่สามกำลังขยายธุรกิจของตนเองในประเทศต่าง ๆ ที่สาขาของตนเองตั้งอยู่และยังคงมองหาแนวทางขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศอีกด้วย “ผู้ค้าที่เป็นมือที่สามกำลังเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจของตนเอง จากการทำธุรกิจที่มองในเชิงขายสินค้าที่ครบวงจรมากกว่าจะขายเพียงสินค้าอย่างใดอย่างหนึ่งให้กับลูกค้า ผู้ค้าที่เป็นมือที่สามกำลังนำเสนอบริการใหม่ ๆ อย่างเช่น การให้เครื่องพิมพ์ฟรี การให้เช่าเครื่องพิมพ์ บริการบำรุงรักษาและซ่อมแซมเครื่องพิมพ์ ตลอดจนหมึกพิมพ์ตลับ ผู้ค้าที่เป็นมือที่สามกำลังจะเข้าสู่ธุรกิจการให้บริการ BPS/MPS (Basic Managed Print Services) อีกด้วยและยังมีโซลูชั่นอย่างการคิดค่าบริการตามจำนวนหน้าที่พิมพ์ ตามจำนวนตลับหมึกพิมพ์ หรือสัญญาแบบกำหนดจำนวนหน้าพิมพ์ขั้นต่ำ ผู้ค้าที่เป็นมือที่สามบางรายยังได้ขยายธุรกิจของตนเองด้วยการเป็นพันธมิตรธุรกิจกับผู้ค้าซอฟท์แวร์ และนำเสนอบริการงานพิมพ์ผ่านทางไกลผ่านบริการ MPS อีกด้วย” กล่าวโดย ปันกาจ ชวาลา ผู้จัดการฝ่ายวิจัยตลาดด้าน IPDS ประจำ ไอดีซี เอเชียแปซิฟิก ผู้ค้า OEM มีส่วนแบ่งตลาดหลักจากตลาดหมึกพิมพ์ตลับ เนื่องจากเครื่องพิมพ์มีค่าบริหารจัดการที่ต่ำลงและหมึกพิมพ์ตลับสร้างผลตอบแทนที่สูง ในเรื่องความคุ้มราคา ซึ่งเป็นตัวช่วยที่สำคัญ ผู้ค้า OEM กำลังรุกเข้าสู่ตลาดเลเซอร์โทนเนอร์และได้ขยายการให้บริการด้านการบริหารจัดการด้านงานพิมพ์ (Managed Printer Services) ผ่านพันธมิตรคู่ค้าต่าง ๆ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยังคงมีส่วนต่างด้านราคาที่แตกต่างกันมากระหว่างผู้ค้าโทนเนอร์ตลับประเภท OEM กับผู้ค้าที่เป็นมือที่สาม หากมองในแง่ของมูลค่าการจำหน่ายในตลาดเอเชียแล้ว ผู้ค้าที่เป็นมือที่สามยังคงได้รับความนิยมจากผู้ใช้งาน และบรรดาองค์กรธุรกิจต่าง ๆ แผนภาพข้างล่างนี้จะแสดงถึงมูลค่าตลาดหมึกพิมพ์ในประเทศต่าง ๆ แยกตามประเภทของหมึกพิมพ์ในไตรมาส 4 2013 แผนภาพนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการใช้งานสาธารณะสำหรับข่าวออนไลน์และโซเชียลมีเดีย รายละเอียดต่าง ๆ ของแผนภาพนี้ท่านสามารถค้นได้จากข่าวประชาสัมพันธ์นี้ที่ www.idc.com สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คุณศศิธร แซ่เอี้ยว ที่โทร. 662-651-5585 ต่อ 113 sasithorn@idc.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ