กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--FYI
จากความสำเร็จในการจัดเวิร์คช๊อป โดย ธนาคารแห่งการพัฒนาเอเชีย ”Energy Wise: Saving Money with Energy Efficiency Services” Asian Development Bank : ADB) สำหรับผู้บริหารระดับสูงทั้งชาวไทยและต่างชาติจากองค์กรชั้นนำ เน้นความสำคัญและผลประโยชน์ในระยะยาวที่จะได้รับจากการลงทุนในโครงการจัดการประสิทธิภาพพลังงานทั้งในการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการ แนะแนวทางการจัดหาเงินลงทุน รวมถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จทั้งในและต่างประเทศ
ทางผู้บริหารระดับสูงจาก ADB – Mr. Daniel Wiedmer ได้กล่าวถึงการริเริ่มนำโครงการด้านการจัดการประสิทธิภาพพลังงานที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในอเมริกาและยุโรป มาให้บริการแก่ผู้ประกอบการ โดยเป็นแผนงานเต็มรูป โดยเป็นแผนงานเต็มรูปแบบตั้งแต่การจัดหาเงินทุนไปจนถึงการจัดหาผู้ให้บริการด้านการจัดการพลังงาน (ESCO) สำหรับการวางแผนและดำเนินการด้านการประหยัดพลังงานในอาคาร สำนักงาน และโรงงาน ส่วน Dr. Peter Du Pont ที่ปรึกษาพิเศษ ของโครงการนี้ กล่าวว่า “มั่นใจว่าธุรกิจด้านการจัดการพลังงาน (ESCO) ในประเทศไทยจะต้องเติบโตอย่างแน่นอน เพราะองค์กรชั้นนำจะใช้เรื่องนี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์และดัชนีชี้วัดความสำเร็จในการบริหารงานในอนาคตอันใกล้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการ รวมถึงอัตราการลดลงของการใช้พลังงานในอาคารและโรงงานได้กว่า ร้อยละ 25-40 ซึ่งจะให้ประหยัดเงินงบประมาณในแต่ละปีในเรื่องนี้ได้มาก”
โดยในงานได้มีการเชิญผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำได้ประเทศ ซึ่งประสบความสำเร็จในการจัดการประสิทธิภาพพลังงานมาร่วมบรรยายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ อาทิ
คุณอนุรัตน์ สุธรรมนิรันด์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านวิศวกรรมโครงการผลิตภัณฑ์อาหาร บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เล่าถึงการลงทุนติดตั้งระบบผลิตพลังงานร่วมโดยใช้กังหันแก๊สและระบบเพิ่มประสิทธิภาพมอเตอร์แบบควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ปีละประมาณ 36 ล้านบาท หรือ 26% และคุณธีระชาติ นุมานิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานพัฒนาธุรกิจและบริหารโครงการก่อสร้าง บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กับการติดตั้งระบบทำความเย็นขนาด 6,000 ตัน รวมถึงอุปกรณ์ควบคุมความเร็วรอบมอเตอร์ของปั๊ม เครื่องส่งลมเย็น เครื่องเป่าลมเย็น หอหล่อเย็น และ ระบบจัดการเครื่องทำความเย็นอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในห้างสรรพสินค้าลงประมาณ 10.5% ต่อปีหรือประมาณ 5 ล้านบาท เป็นต้น
สำหรับการจัดเวิร์คช๊อปนี้ ได้จัดมาแล้วในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในทุกประเทศ นอกจากนี้ ADB ยังคาดการณ์ว่าภายในปี พ.ศ. 2563 กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีความต้องการเงินลงทุนประมาณ 3.3 แสนล้านบาท ในการจัดการประสิทธิภาพพลังงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ด้านการประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งตัวเลขดังกล่าวจะเป็นการลงทุนในประเทศไทยประมาณ 600 ล้านบาท