กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์
แอ็กซอลตา โค้ทติ้ง ซิสเต็มส์ (Axalta Coating Systems) ผู้นำระบบสีพ่นรถยนต์อันดับหนึ่งของโลก เปิดบ้านใหม่ รีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ สีพ่นรถยนต์ดูปองท์ (DuPont) เป็น “โครแมกซ์ (Cromax)” พร้อมเผยทิศทางธุรกิจปี 2557 ที่เน้นนวัตกรรมที่จะช่วยเพิ่มมาตรฐาน และขีดความสามารถของศูนย์บริการพ่นซ่อมสีรถยนต์ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องค้นหาสูตรสี และปรับแต่งเฉดสี (Acquire II) เพื่องานพ่นซ่อมสีรถยนต์ แบบเต็มครบวงจร อีกทั้งเปิดศูนย์ผสมสีโครแมกซ์ คัลเลอร์ เซ็นเตอร์ (Cromax Color Center) เพื่อเดินหน้าขยายช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีพ่นซ่อมรถยนต์ให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค
นายสิทธิศักดิ์ อนันตประยูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็กซอลตา โค้ทติ้ง ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดสีพ่นซ่อมรถยนต์ในปีที่ผ่านมาว่า “ยังมีแนวโน้มเติบโต โดยมีมูลค่าตลาดกว่า 4,000 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณรถยนต์สะสมที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ยอดการเข้าบริการศูนย์ซ่อมมาตรฐานเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งการที่ตลาดรถยนต์ไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ธุรกิจที่เชื่อมโยงก็ได้รับปัจจัยสนับสนุนให้เติบโตเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะนโยบายคืนภาษีให้กับผู้ซื้อรถยนต์คันแรกของภาครัฐที่จบลงไป ส่งผลให้ยอดรถยนต์จดทะเบียนสะสมเพิ่มจำนวนมากขึ้น”
ทั้งนี้ หลังจากได้แยกการดำเนินงานจากบริษัทแม่ ภายใต้ชื่อแบรนด์เดิม "ดูปองท์ รีฟินิช" เป็น "แอ็กซอลตา" ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2556 ทำให้การดำเนินธุรกิจมีความคล่องตัวและมีเอกภาพมากขึ้น ช่วยลดขั้นตอนการบริหารจัดการต่าง ๆ
“ล่าสุด บริษัทฯ ได้ทำการรีแบรนด์ผลิตภัณฑ์สีพ่นซ่อมรถยนต์ภายใต้ชื่อใหม่ Cromax ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับมาอย่างยาวนานในตลาดโลก เนื่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์โครแมกซ์จะเน้นในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะได้รับการออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูง โดยได้รวบรวมเอาแบรนด์ผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมภายใต้แบรนด์ ดูปองท์ รีฟินิช เดิม ได้แก่ Centari, Cromax Pro, DuPontTM Refinish มานำเสนอลูกค้า พร้อมโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมมากที่สุด” นายสิทธิศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายมนตรี ค้ำโพธิ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท แอ็กซอลตา โค้ทติ้ง ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นอกจากเราจะมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับโลกแบบครบวงจรให้บริการกับลูกค้าแล้ว เรายังได้พัฒนานวัตกรรมต่างๆ อาทิ เครื่องมือค้นหาสูตรสี และปรับแต่งเฉดสี Acquire II ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่สำหรับงานซ่อมสีที่ช่วยให้ค้นหาสูตรสีได้แม่นยำ ใช้งานง่าย ได้งานเร็ว โดยสามารถระบุสีได้รวดเร็วและเชื่อถือได้ เป็นเครื่องมือค้นหาสูตรสีและปรับแต่งเฉดสีด้วยระบบคอมพิวเตอร์แบบพกพา มีความสามารถในการอ่านค่าและแสดงเฉดสีที่แท้จริงของรถ และสามารถ่ายโอนข้อมูลการอ่านค่าสีเข้าในระบบฐานข้อมูลสูตรสีของ Axalta Coating Systems ได้มากกว่า 500,000 สูตร จากการผสมผสานที่ลงตัวดังกล่าวจะช่วยให้การค้นหาสูตรสีและปรับแต่งเฉดสีมีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือและประหยัดเวลาได้มาก นอกจากนี้ยังสามารถใช้วัดค่าความเหมือนของสีรถกับชิ้นงานที่พ่นซ่อมได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความรวดเร็วในการทำงาน เพื่อรองรับระบบงานพ่นซ่อมสีรถยนต์ด่วน (Quick Repair Systems) เช่น ผลิตภัณฑ์เคลียร์ทับหน้า G3-8800S ซึ่งจะช่วยให้ศูนย์พ่นซ่อมสีรถยนต์ สามารถส่งมอบงานซ่อมรถยนต์ให้ลูกค้าได้เร็วขึ้นกว่าเดิม
“แผนธุรกิจจากนี้ไปเราจะเร่งขยายช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีพ่นซ่อมรถยนต์ พร้อมทั้งสนับสนุนอู่ซ่อมสีรถยนต์ให้ปรับเปลี่ยนมาเป็นศูนย์บริการซ่อมสีรถยนต์มาตรฐานสูง ให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มองว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการเติบโตไปยังตลาดต่างประเทศ อาทิ พม่า กัมพูชาและมีแผนขยายตลาดไปยังประเทศลาวในปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะขยายกลุ่มลูกค้าไปยังศูนย์ซ่อมรถยนต์ ระดับกลาง และเล็กมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่มุ่งเน้นตลาดระดับพรีเมียมเป็นหลัก โดยคาดว่าจะแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มสินค้าสีรองพื้น จากปัจจุบันที่ได้เริ่มทำตลาดมาระยะหนึ่งแล้วในกลุ่มสินค้าแลกเกอร์ เพื่อเป็นทางเลือกแก่ลูกค้าให้มีสินค้าที่หลากหลายระดับราคา เนื่องจากกลุ่มลูกค้าระดับบน และระดับกลางมีสัดส่วนมากกว่า 50%
และเมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทฯ ได้มีการเปิดศูนย์ผสมสี “โครแมกซ์ คัลเลอร์ เซ็นเตอร์” จังหวัดอุดรธานี ซึ่งถือได้ว่าเป็นศูนย์ผสมสีรถยนต์มาตรฐานภายใต้แบรนด์ “โครแมกซ์ ” แห่งแรกในประเทศไทย เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถัง ในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์สีพ่นรถยนต์คุณภาพสูงจากโครแมกซ์ แบบเต็มระบบ ครบวงจร ทั้งสีโป๊ว สีพื้น แล็กเกอร์ ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพงานซ่อม
“คาดว่าในปีนี้ยอดขายสีพ่นซ่อมรถยนต์น่าจะเติบโตประมาณ 10% สูงกว่าการเติบโตของตลาดรวมที่คาดว่าจะเติบโตราว 3-5% จากการขยายตัวในกลุ่มของศูนย์บริการซ่อมสีรถยนต์ ซึ่งการเติบโตของบริษัทนั้นมาจากนโยบายการสนับสนุนลูกค้า และคู่ค้า ทั้งด้านการบริการหลังการขาย การจัดฝึกอบรมทักษะช่าง เพื่อให้ความรู้ตั้งแต่ทักษะการผสมสีจนถึงการลงพื้นที่ฝึกการทำงานจริง เพื่อให้ได้รับประสิทธิภาพสูงสุดจากการใช้งานผลิตภัณฑ์ รวมถึงมีการนำเข้าเทคโนโลยีค้นหาสูตรสีมาใช้ พร้อมทั้งมีฐานข้อมูลสูตรสีส่วนกลางมากกว่า 500,000 สูตร ซึ่งจะมีการอัพเดทข้อมูลสูตรสีใหม่ ทุก ๆ 6 เดือนแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง” นายมนตรี กล่าวทิ้งท้าย