กรุงเทพ--7 เม.ย.--กรมการค้าต่างประเทศ
นายประชา จารุตระกูลชัย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์ว่าปริมาณและมูลค่าการส่งออกข้าวในเดือนมีนาคม 2541 ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยส่งออกได้ 5.9 แสนตัน มูลค่า 8,700 ล้านบาท (211 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ซึ่งส่งออก 5.6 แสนตัน มูลค่า 8,863 ล้านบาท (191 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 มูลค่าคิดเป็นเงินบาทลดลงร้อยละ 1.8 แต่หากคิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งตัวขึ้น และหากพิจารณาการส่งออกข้าวไตรมาสแรกของปี 2541 (มค.-มีค.41) ไทยได้ส่งออกข้าวแล้ว 1.84 ล้านตันมูลค่าประมาณ 26,913 ล้านบาท (576 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เทียบกับระยะเดียวกันของปี 2540 ซึ่งส่งออก 1.06 ล้านตัน มูลค่า 10,866 ล้านบาท (420 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 73.5 และมูลค่าเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 147.6 (เป็นเงินเหรียญสหรัฐฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.1
นายประชา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จากภาวะความต้องการข้าวในตลาดโลกปี 2541 ซึ่งวงการค้าข้าวคาดว่าจะมีสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 22.75 ล้านตัน โดยประเทศในเอเชียเป็นผู้นำเข้าสำคัญ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และบังคลาเทศ แต่เนื่องจากประเทศที่ต้องนำเข้าข้าวเป็นจำนวนมากดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในอาเซียน กำลังประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้การสั่งซื้อข้าวชะลอตัวลง และมีการหันไปขอความช่วยเหลือในรูปของการขอรับบริจาคและซื้อเป็นเงินเชื่อระยะยาวจากญี่ปุ่น 1 ล้านตัน และจากสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้ปริมาณการสั่งซื้อในเชิงการค้าลดลง ประกอบกับค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มที่ไม่แน่นอน จึงคาดว่าการส่งออกรวมในไตรมาสที่ 2 อาจต่ำกว่าการส่งออกในไตรมาสแรก แต่อย่างไรก็ดีเนื่องจากขณะนี้ประเทศผู้ส่งออกข้าวหลายประเทศ เช่น ปากีสถานและอินเดีย มีข้อจำกัดในด้านปริมาณการส่งออก ในขณะที่เวียดนามมีปัญหาราคาข้าวแข็งตัวขึ้นมาก รวมถึงความล่าช้าในการส่งมอบข้าว จึงคาดว่าไตรมาสที่ 2 ปริมาณการส่งออกข้าวไทยจะยังอยู่ในระดับเดือนละ 4-5 แสนตัน ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์สูงและเพียงพอที่จะรองรับข้าวนาปรังซึ่งกำลังออกสู่ตลาดขณะนี้ได้--จบ--