กรุงเทพ--12 ก.ย.--สำนักงานเขตกรุงเทพ
ที่กรุงเทพธนาคม จำกัด เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 40 เวลา 16.30 น. นายสมใจ นิลสิทธานุเคราะห์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ผู้อำนวยการเขตกลุ่มวังหลวง ประกอบด้วย นายทวีศักดิ์ กมลเวช ผู้อำนวยการเขตพญาไท นายรัฐพล มีธนาถาวร ผู้อำนวยการเขตราชเทวี นางวรรณวิไล พรหมลักขโณ ผู้อำนวยการเขตดุสิต นายธีระชัย เธียรสรรชัย ผู้อำนวยการเขตพระนคร และนายนคร สุวรรณานนท์ ผู้อำนวยการเขตบางรัก ร่วมแถลงข่าวโครงการต่าง ๆ ของกลุ่มเขตวังทองหลาง
ผู้อำนวยการเขตราชเทวี กล่าวว่า เขตราชเทวีได้จัดบริการ "นัดก่อนมา" ขึ้น ซึ่งเป็นระดับหนึ่งของการบริการเกี่ยวกับเรื่อง งานทะเบียน อาทิ ทะเบียนราษฎร์ ทะเบียนครอบครัว ประกอบด้วย ทะเบียนสมรส การรับรองบุตร บัตรประชาชน ฯลฯ วิธีปฏิบัติ เช่น การจดทะเบียนสมรสประชาชนในพื้นที่ฯ สามารถโทรศัพท์สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารที่ว่าต้องนำเอกสารใดไปบ้าง และประชาชนสามารถส่งเอกสารนั้น ๆ ไปทางแฟ๊กซ์เขตเพื่อตรวจสอบหลักฐาน เมื่อเอกสารครบถ้วนและถูกต้อง ทางเขตก็จะนัดวัน เวลา เพื่อมาจดทะเบียนสมรส ซึ่งจะใช้เวลาทั้งสิ้นไปเกิน 5 นาที เป็นต้น นับเป็นความสะดวกและรวดเร็ว และไม่ต้องเสียเวลาเข้าคิวรออีกด้วย ซึ่งการบริการนี้เขตราชเทวี เป็นเขตนำร่อง และได้เปิดบริการไปแล้ว โดยประชาชนสามารถโทรสอบถามเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับทะเบียนราษฎร์ได้ที่โทร. 246-8981 (อัตโนมัติ)
นอกจากนี้เขตราชเทวีจะได้จัดแหล่งสินค้าราคาถูกที่บริเวณ ถ.โยคี ซึ่งใกล้แหล่งชุมชนและเป็นถนนเชื่อมระหว่างถนนพหลโยธิน กับถนนพระราม 6 ความยาวประมาณ 1 กิโลครึ่ง โดยจัดให้เป็นแหล่งสินค้าราคาถูก มีการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นได้แก่ ข้าวสาร น้ำปลา น้ำตาล เนื้อสัตว์ อาหารทะเลบางส่วน ผลไม้ ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม ไข่ไก่ เครื่องครัว ซึ่งทางเขตจะประสานกับผู้ผลิตสินค้านั้น โดยตรง เช่น ผู้ค้าข้าว นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือน ต.ค.นี้ โดยเขตจะเป็นผู้ประสานงาน ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระเศรษฐกิจของประชาชนในขณะนี้ โดยบริเวณนี้จะเป็นแหล่งขายสินค้าราคาถูกของพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนสามารถมาใช้บริการ พักผ่อนหย่อนใจ พร้อมทั้งเดินซื้อสินค้าได้ เป็นต้น
ผู้อำนวยการเขตบางรัก กล่าวว่า ตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่จะให้จัดหาลานบันเทิงสำหรับประชาชนนั้น ที่ ถ.คอนแวนต์ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เขตฯ ได้จัดกิจกรรมเกี่ยวกับศิลปะวัฒนธรรม การแสดงพื้นบ้าน การละเล่นต่าง ๆ ผลปรากฏว่า ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก และมีการสอบถามจะจัดขึ้นอีกเมื่อไร ซึ่งทางเขตได้เริ่มเป็นโครงการนำร่องไปแล้ว และจะจัดขึ้นทุกเดือน สำหรับเดือนกันยายนนี้ กำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 28 ก.ย. ศกนี้ โดยจะมีรูปแบบเปลี่ยนไปเป็นถนนคนเดินบันเทิง ประกอบด้วย ของโบราณ อาทิ รถยนต์โบราณ มีการวาดภาพ โดยผู้สมัครเล่นหรือมืออาชีพการแกะสลัก หรือแผงขายหนังสือเก่า ซึ่งผู้ขายสามารถอธิบายเกี่ยวกับความเป็นมาของหนังสือนั้น ๆ เนื้อหาของหนังสือ ซึ่งที่อื่นจะไม่มี รวมทั้งบุคคลที่มีความสามารถพิเศษมาแสดงให้ชม อาทิ การเล่านิทาน การเล่นดนตรี ดีด สี ตี เป่า เป็นต้น ทั้งหมดนี้จะไม่มีที่ไหน นอกจากถนนคนเดินบันเทิงแห่งนี้เท่านั้น ซึ่งจะรวมผู้ที่มีความสามารถพิเศษ และกล้าที่จะแสดงออกในกิจกรรมที่ตนอยากจะแสดง จึงขอเชิญชวนประชาชนไปเดินถนนบันเทิงได้ในวัน เวลา ดังกล่าว
ผู้อำนวยการเขตดุสิต กล่าวว่า ตามนโยบายของผู้บริหารกรุงเทพมหานครที่ต้องการให้เยาวชนหันมาให้ความสนใจในการกีฬามากขึ้น กลุ่มวังหลวงจึงได้ร่วมพิจารณาเห็นว่า ในเรื่องของเยาวชนควรให้ความสนใจมากที่สุด เพื่อให้หลีกไกลยาเสพติด ซึ่งหลายหน่วยงานก็ได้ให้ความสนใจในด้านการกีฬาอยู่แล้ว แต่สำหรับมวยไทย ซึ่งเป็นกีฬาดั้งเดิม เก่าแก่ของไทยสมควรอนุรักษ์ไว้ เนื่องจากหลายคนเข้าใจว่ามวยไทยเป็นกีฬาอันตราย ไม่สมควรให้บุตรหลานมาฝึกซ้อม ฉะนั้นกลุ่มวังหลวง จึงร่วมพิจารณากับ มทบ. 11 (มณฑลทหารบก) กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ และสมาคมมวยไทยสมัครเล่น ร่วมกันฝึกเด็กที่มีอายุระหว่าง 10-18 ปี มาฝึกซ้อม ซึ่งไม่ใช่การแข่งขัน สำหรับรายละเอียดและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ จะมีการแถลงข่าวในวันที่ 15 ก.ย. นี้ ที่สโมสรทหารบก โดยมี นายถิรชัย วุฒิธรรม รองผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร พล.ท.วรยุทธ์ มีสมมนต์ นายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่น มทบ. 11 และกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ร่วมกันแถลงข่าว
อนึ่ง โครงการฝึกมวยไทยสำหรับเด็กนี้ เด็กทุกคนที่มาฝึกจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้นจะเป็นผู้จัดหา ผู้สนับสนุนให้ต่อไป และบริเวณฝึกซ้อม คือที่มทบ. 11 และกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ โดยมีสมาคมมวยไทยสมัครเล่นเป็นผู้ฝึกซ้อม ทั้งนี้เพื่อให้เยาวชนของชาติจะได้มีกีฬาที่เขามีใจรัก และเป็นพลเมืองที่ดีห่างไกลยาเสพติด
ผู้อำนวยการเขตพระนคร กล่าวว่า สำนักทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ได้ประสานกับธนาคารไทยพาณิชย์ ทุกสาขา และจังหวัดปทุมธานี จัดบริการประชาชนเกี่ยวกับการใช้บัตร ATM ร่วมกับบัตรประชาชนแบบแถบระบบคอมพิวเตอร์ ได้แก่ การนำบัตรประชาชนไปติดต่อขอเปิดบัญชีได้ที่ธนาคาร หรือเมื่อเปิดบัญชีไว้แล้วก็ให้นำบัตรประชาชนไปบันทึกเป็นบัตร ATM ก็ได้ ซึ่งในเดือนกันยายนนี้ ท่านสามารถยื่นขอทำบัตรประชาชน (ซึ่งเป็นแบบแถบ) แล้วไปขอเปิดบัญชีเป็นบัตร ATM กับทางธนาคาร ก็จะสามารถใช้บริการได้ภายใน 7 วัน แต่หลังจากวันที่ 1 ตุลาคม 2540 จะสามารถใช้บริการได้ภายใน 1 วัน หลังจากได้รับบัตรประชาชนและไปเปิดบัญชีแล้ว ซึ่งประชาชนสอบถามความคืบหน้าการบริการดังกล่าว รวมทั้งผลที่ได้รับในการบริการได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ทุกสาขา และนับเป็นความก้าวหน้าของการใช้บัตรประชาชนแบบแถบอีกด้วย--จบ--