กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--มหาวิทยาลัยศรีปทุม
กว่า 40 ปี ของการตั้งคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ซึ่งนับเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกที่มองเห็นความสำคัญของการสร้างบุคลากรทางนิติศาสตร์ให้กับสังคม และได้ผลิตบัณฑิตออกสู่สังคมแล้วกว่า 12,000 คน ปัจจุบันเปิดการสอนทั้งระดับปริญญาตรี โท เอก โดยคณาจารย์ผู้สอนซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มากด้วยประสบการณ์อันยาวนานด้านกฎหมาย ทั้งผู้พิพากษา อัยการ ทนายความ และที่ปรึกษากฎหมาย
สิ่งที่ทำให้คณะนิติศาสตร์ของ ม.ศรีปทุมยังคงแข็งแกร่งมาได้ตลอดกว่า 40 ปี อาจารย์กุศล สังขนันท์ ผู้ช่วยอธิการบดีด้านกฎหมาย และคณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.ศรีปทุม บอกว่า “การที่เรามีอาจารย์พิเศษซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง ผู้พิพากษา อัยการ ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ และอาจารย์จากมหาวิทยาลัยของรัฐ เข้ามาสอนในคณะของเรา และอาจารย์ประจำของเราก็เป็นอาจารย์ระดับศาสตรจารย์ รองศาสตรจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งบางท่านเป็นถึงผู้พิพากษา ผู้พิพากษาสมทบ ทำให้วิชาการของที่นี่แข็งแกร่งมาก”
อีกสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นได้ถึงคุณภาพของการเรียนการสอน คือ คุณภาพของบัณฑิตที่จบไปจาก ม.ศรีปทุม สามารถสอบเป็นผู้พิพากษา และอัยการได้จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว รวมถึงได้ทำงานกับบริษัทที่ปรึกษากฎหมาย (Law Firm) และงานที่เกี่ยวข้องกับด้านกฎหมายทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สิ่งเหล่านี้คือเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีถึงคุณภาพของบัณฑิตคณะนิติศาสตร์ ม.ศรีปทุม
คณบดีคณะนิติศาสตร์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันคณะนิติศาสตร์ ม.ศรีปทุม เปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรี “นิติศาสตรบัณฑิต” ซึ่งมีจุดแข็งในส่วนของวิชาเลือกที่แตกต่างจากที่อื่น ส่วนหลักสูตรระดับปริญญาโท “นิติศาสตรมหาบัณฑิต” มี 4 กลุ่มวิชา คือ กฎหมายธุรกิจ กฎหมายมหาชน กฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา กฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีหลักสูตรภาคค่ำ หรือเสาร์-อาทิตย์ ให้เลือกเรียนด้วย ซึ่งผู้ที่มาเรียนต่อส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ทำงานด้านกฎหมายอยู่แล้ว แต่ต้องการต่อยอดเพื่อเพิ่มความรู้ในสายวิชาชีพ หรือพัฒนาธุรกิจของตนเองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ หลักสูตรปริญญาโท ม.ศรีปทุม ยังได้รับการรับรองให้สามารถสอบผู้ช่วยผู้พิพากษาและอัยการผู้ช่วยในสนามเล็กได้
สำหรับระดับปริญญาเอก ม.ศรีปทุม เปิดสอน 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต และหลักสูตรปรัชญาดุษฏีบัณฑิต ในสาขานิติรัฐกิจและการบริหาร ซึ่งสาขาหลังนี้ เป็นการบูรณาการความรู้นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และการบริหารมารวมในหลักสูตรเดียวกันซึ่งหลักสูตรนี้ได้รับความสนใจจากผู้บริหาร และข้าราชการจากหน่วยงานต่างๆ เป็นอย่างดี
นอกจากคุณภาพของผู้สอนและผู้เรียนที่ทำให้คณะนิติศาสตร์ของ ม.ศรีปทุม มีชื่อเสียงมาตลอดกว่า 40 ปีแล้ว การมีศูนย์วิจัยกฎหมายเพื่อทำงานวิจัยกฎหมาย และยังมีสำนักงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายและคดีความ ให้ความรู้ด้านกฎหมายกับหน่วยงานภายนอกต่างๆ พร้อมทั้งช่วยประชาชนที่ไม่มีความรู้ด้านกฎหมายหรือมีคดีความได้เข้าใจ ซึ่งตรงนี้เราได้ให้นักศึกษาเข้ามามีบทบาท ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้กับประชาชนเสมือนทำงานจริงๆ โดยมีคณาจารย์ผู้สอนเป็นที่ปรึกษา เป็นสิ่งที่ทำให้คณะนิติศาสตร์ ม.ศรีปทุม ได้รับการยอมรับจากบุคคลและสังคมภายนอก
อย่างไรก็ดี การมีวิชาการที่ดีเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอสำหรับการแข่งขันในโลกแห่งการทำงาน สิ่งที่คณะจะช่วยสร้างให้กับนักศึกษา คือการสร้างประสบการณ์ในการทำงาน โดยมีการส่งนักศึกษาออกไปฝึกปฎิบัติงานจริงในหน่วยงานต่างๆ เช่น ศาล หน่วยงานในกระทรวงยุติกรรม สำนักงานทนายความ และเพื่อเป็นการรองรับ AEC ที่กำลังจะเกิดขึ้น คณะนิติศาสตร์ก็มีการพัฒนาความรู้ด้านภาษาอังกฤษให้กับนักศึกษาโดยก่อนจบนักศึกษาจะต้องสอบความรู้ด้านภาษาอังกฤษ
คณบดีคณะนิติศาสตร์ ยังชี้ให้เห็นถึงความต้องการของบุคลากรทางด้านนิติศาสตร์ว่า “ตลาดมีความต้องการบุคลากรด้านนี้จำนวนมาก ผมคิดว่าเป็นผลจากการเรียนรู้ของนักธุรกิจทั้งหลาย เมื่อก่อนองค์กรธุรกิจไม่ค่อยสนใจว่าต้องมีทนายความ มีที่ปรึกษาด้านกฎหมายเพื่อเข้ามาดูแลด้านกฎหมายเป็นประจำ แต่ปัจจุบันองค์กรธุรกิจมีความต้องการเพราะในการทำธุรกรรมต่างๆ ขององค์กรธุรกิจจะมีกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องแทบทั้งสิ้น”