กรุงเทพฯ--18 มี.ค.--ฟรานคอม เอเชีย
การท่องเที่ยวฮ่องกงและสำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ร่วมมือจัดตั้ง “เอเชีย ครูซ ฟันด์” กองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญในตลาดเอเชีย ซึ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว ในงาน ครูซ ชิบปิ้ง ไมอามี่ 2014 ที่ผ่านมา โดยการร่วมมือระดับภูมิภาคในครั้งนี้ ได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของท่าเรือต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย ที่ต้องการส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญ ซึ่งกองทุนนี้จะเริ่มต้นมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2557 เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยกองทุนนี้ ได้รับการสนับสนุนจากท่าเรือต่างๆ ที่ได้เข้าร่วม เพื่อเป็นกองทุนสนับสนุนบริษัทเรือสำราญ ในการพัฒนาและช่วยตีตลาดให้กับสินค้าต่างๆ ของทางบริษัท โดยมีกฎหลักคือ เรือสำราญจะต้องจอดเทียบท่าที่ท่าเรือที่เข้าร่วมในโครงการ อย่างน้อย 2 แห่ง ในหนึ่งเส้นทางการเดินทาง
มร.แอนโทนี เลา ผู้อำนวยการบริหารการท่องเที่ยวฮ่องกง กล่าวว่า “การจัดตั้งกองทุนครั้งนี้ถือเป็นการกำหนดทิศทางครั้งสำคัญให้กับธุรกิจเรือสำราญในภูมิภาค ซึ่งจะส่งผลดีอย่างมาก หากทางธุรกิจสามารถเพิ่มศักยภาพของตนและเติบโตจนก้าวสู่ความเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวระดับชนชั้นกลางจากทั่วเอเชีย และสามารถดำรงธุรกิจท่องเที่ยวนี้สืบต่อไปได้ในอีก 10 ปีข้างหน้า ทางเราเชื่อว่า กองทุนนี้สามารถเป็นเครื่องพิสูจน์ความทุ่มเทและความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญและเป็นการผนึกกำลังความสามัคคีจากภาคธุรกิจเรือสำราญเพื่อให้หันมาให้ความสนใจกำหนดเส้นทางเดินเรือเข้ามาในเขตเอเชียอีกด้วย ถือได้ว่า ทั้งท่าเรือที่เข้าร่วมโครงการ บริษัทเรือสำราญ และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ในธุรกิจนี้ ล้วนแล้วแต่จะได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า”
ดร. เวย์น ลิว รองอธิบดีสำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน เสริมว่า “เราจะร่วมมือกันส่งเสริมให้ท่าเรือต่างๆ ในเอเชียมาร่วมกองทุน เพื่อผลักดันการพัฒนาตลาดการล่องเรือสำราญในภูมิภาคนี้และเพิ่มความน่าสนใจในพื้นที่เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสารบนเรือ”
“ฮ่องกงได้พิสูจน์ให้เห็นความพร้อมในทุกๆ ด้าน สำหรับการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภูมิศาสตร์ และพื้นฐานโครงสร้างต่างๆ ที่ได้พัฒนาไว้แล้ว โดยทั้งโครงการรถไฟด่วนเส้นทางกวางโจว – เสินเจิ้น – ฮ่องกง และโครงการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างฮ่องกง – จูไห่ – มาเก๊า ที่มีแผนการแล้วเสร็จในอีกไม่กี่ปี จะสามารถช่วยพัฒนาการเชื่อมต่อระหว่างฮ่องกงและทางใต้ของประเทศจีนได้อย่างสะดวก จากการร่วมงานกับท่าเรือในรอบๆ เขต เราเชื่อมั่นว่า เราจะสามารถทำให้เอเชียเป็นที่สนใจในการทำธุรกิจของบริษัทเรือสำราญจากต่างชาติทั้งในเรื่องสถานที่และการเป็นศูนย์รวมนักท่องเที่ยวได้อย่างแน่นอน” มร.ฟิลลิป ยุง ผู้ตรวจการการท่องเที่ยวเขตการปกครองพิเศษฮ่องกงกล่าวเสริม
เอเชียนับว่ามีศักยภาพเพียบพร้อมสำหรับการดำเนินธุรกิจเรือสำราญ จากการรายงานของสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ มีการคาดการณ์ว่า ภายในปี ค.ศ. 2030 ประมาณสองในสามของจำนวนประชากรระดับชนชั้นกลางทั่วโลกจะพำนักอาศัยอยู่ในเอเชีย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางประชากรนี้จะสามารถสร้างโอกาสด้านธุรกิจให้แก่บริษัทเรือสำราญจากการที่ชนชั้นกลางในเอเชียต้องการแสวงหาช่องทางใหม่ๆ เพื่อการพักผ่อน จึงเป็นเหตุให้ท่าเรือต่างๆ ในเอเชียร่วมมือกันในการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญในเอเชียและเพื่อสนับสนุนให้บริษัทเดินเรือสำราญต่างชาติขยายตลาดมาสู่ภูมิภาคแห่งนี้เพิ่มมากขึ้น