กรุงเทพฯ--18 มี.ค.--Work Link da Agency
ECF เผยแผนปี 57 รุกตลาดต่างประเทศ เจรจาลูกค้ารายใหญ่ในญี่ปุ่น คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไม่เกินไตรมาส 2 ปีนี้ ขณะที่ลูกค้าเดิมออเดอร์เพิ่มต่อเนื่อง ส่วนตลาดในประเทศคาดว่า จะสามารถเปิดโชว์รูม ELEGA เพิ่มอีก 4 - 6 สาขา ใน Index Living Mall และ Home pro พร้อมดัน a7 จำหน่ายใน Mega Home เพิ่มอีก 2 สาขา เตรียมงบลงทุนเพื่อขยาย Warehouse ปรับปรุงระบบขนส่งสินค้ารองรับการขยายตัวในอนาคต มั่นใจยอดขายปี 57 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15%
นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ผู้ผลิตและจำหน่าย เฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา เปิดเผยถึงแผนการดำเนินการในปี 57 ว่า บริษัทมีแผนที่รุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวภายในประเทศ โดยจะมีการเข้าไปเจรจากับกลุ่มลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้ารายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ขณะที่ลูกค้าเดิมในประเทศ ญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และฟิลิปปินส์ มีออเดอร์เพิ่มมากขึ้นจากการขยายตัวทางธุรกิจในประเทศดังกล่าว
ทั้งนี้คาดว่า ตลาดส่งออกเฟอร์นิเจอร์ในปี 57 ยังจะมีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยเป็นผลจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยในปี 56 ที่ผ่านมาตัวเลขภาพรวมการส่งออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน มีอัตราการขยายตัวที่ 8.34% เมื่อเทียบกับปี 55 หรือมีมูลค่ารวมกว่า 1,237.81 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตัวเลขภาพรวมการส่งออกของ ECF มีการเติบโตดีตามเป้าที่ 10% ซึ่งคาดว่าในปี 57 จะยังคงเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง
ส่วนตลาดในประเทศเตรียมที่จะขยายสาขาโชว์รูม ELEGA ใน Index Livingmall และ Homepro เพิ่ม 4 - 6 สาขา จากเดิมมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 14 สาขา พร้อมทั้งปรับภาพลักษณ์โชว์รูมทุกแห่งตลอดจนแบบสินค้าให้มีความ Luxury มากขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ขณะที่แบรนด์ใหม่ a7 ในช่วงครึ่งปีแรกจะมีการวางจำหน่ายใน Mega Home เพิ่มอีก 2 สาขา ประกอบด้วย สาขาหนองคายซึ่งเปิดไปเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา และสาขาชลบุรี เตรียมจะเปิดในต้นไตรมาส 2 นี้
“ในปีที่ผ่านมา ECF มีการเติบโตของผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ แม้จะมีปัญหาทางการเมืองช่วงปลายปี 56 แต่ยอดขายเฟอร์นิเจอร์ไม่กระทบแต่อย่างใด ยังคงมียอดขายที่เพิ่มมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ บริษัทจึงมีแผนที่จะรองรับการขยายตัวของตลาดด้วยการลงทุนขยายธุรกิจในปี 57 โดยเตรียมงบประมาณเพื่อลงทุนในเครื่องมือสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ อาทิ การขยาย Warehouse เพื่อรองรับสินค้าก่อนส่งมอบให้ลูกค้า หลังมีออเดอร์เข้ามามากขึ้น การปรับปรุงพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าให้มีความทันสมัย สะดวก รวดเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ ECF มีการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาวได้เป็นอย่างดี มั่นใจได้ว่าแนวโน้มผลประกอบการปี 57 จะยังคงเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% อย่างแน่นอน” นายอารักษ์กล่าว
สำหรับผลประกอบการงวดปี 56 บริษัทมีรายได้รวม 1,193.31 ล้านบาทปรับตัวเพิ่มขึ้น 116.46ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมจำนวน 1,076.85 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.82% และมีกำไรสุทธิจำนวน 40.79 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.15 ล้านบาทหรือ 11.34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 36.64 ล้านบาท
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทยังมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 15.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 38% ของกำไรสุทธิ โดยกำหนดจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 6 พฤษภาคม 2557 นี้