กรุงเทพฯ--18 มี.ค.--IR network
บอร์ด TPOLY ไฟเขียว TPC Power Holding แปรสภาพมหาชนเข้าตลาดปีนี้ทุ่มงบ 700 ลบ. ตั้ง “สตูล กรีน เพาเวอร์” โรงไฟฟ้าแห่งที่ 8 ลุยไฟฟ้าชีวมวลตั้งเป้ารายได้ 3,400 ลบ./เปิดฉากปีทอง โตแบบก้าวกระโดด
?บอร์ด “ไทยโพลีคอนส์” อนุมัติให้ “ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง” หรือ TPC POWER HOLDING แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน พร้อมเดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯในไตรมาส 3-4 ปีนี้ และเพิ่มทุนจำนวน 25,200,000 หุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้น TPOLY รวมทั้งออกใบสำคัญแสดงสิทธิ 1,200,000 หน่วย ภายใต้โครงการ ESOP Scheme หลังแปรสภาพเป็นมหาชน เตรียมทุ่มงบอีก 700 ล้านบาท อนุมัติให้ TPC POWER HOLDING จัดตั้งบริษัทย่อย “สตูล กรีน เพาเวอร์” ถือหุ้น 100% ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 9.9 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดสตูล “ไชยณรงค์ จันทร์พลังศรี” มั่นใจปีนี้จะเป็นปีทองของ TPOLY เพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ 3,400 ล้านบาท
?นายไชยณรงค์ จันทร์พลังศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) (TPOLY) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 2/2557 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2557 ได้อนุมัติให้บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (TPC POWER HOLDING) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และนำหลักทรัพย์ของ TPC POWER HOLDING เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมทั้งการเพิ่มทุนจำนวน 90,650,000 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะออกให้แก่กรรมการและหรือพนักงานของ TPC POWER HOLDING และบริษัทย่อยของ TPC POWER HOLDING เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป (IPO) และผู้ถือหุ้นของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท (Pre-emptive Right) โดยบริษัทจะนำแผนงานดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาและอนุมัติต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้อนุมัติให้ TPC POWER HOLDING เพิ่มทุนจำนวน 25,200,000 หุ้น เพื่อเสนอขายผู้ถือหุ้นบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-emptive Right) ในราคาเสนอขายเดียวกับหุ้นไอพีโอ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทเข้าลงทุนใน TPC POWER HOLDING และช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดกับผู้ถือหุ้นจากการที่สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทใน TPC POWER HOLDING ลดลงจาก 66.19% เหลือ 54.84% (คิดคำนวณจากการเสนอขายหุ้นไอพีโอ) หรือ 51.39% (คิดคำนวณจากการเสนอขายหุ้นไอพีโอ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ โดย TPC POWER HOLDING) หรือ 51.23% (คิดคำนวณจากการเสนอขายหุ้นไอพีโอ ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท และเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ) โดยมอบหมายให้คณะกรรมการบริษัท หรือบุคคลที่คณะกรรมการมอบหมายเป็นผู้พิจารณากำหนดสัดส่วนการให้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน และวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้นดังกล่าว (Record Date) และวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เงื่อนไขและรายละเอียดอื่นๆ รวมถึงการดำเนินการใดๆ ให้สำเร็จลุล่วง
ขณะเดียวกันยังได้อนุมัติให้ TPC POWER H OLDING ออกใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน 1,200,000 หน่วยให้กรรมการและหรือพนักงานของ TPC POWER HOLDING และบริษัทย่อยของ TPC POWER HOLDING ภายใต้โครงการเสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่กรมการและหรือพนักงาน (ESOP Scheme) ภายหลังจากที่ TPC POWER HOLDING ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดแล้ว
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติให้ TPC POWER HOLDING จัดตั้งบริษัทย่อยคือ “บริษัท สตูล กรีน เพาเวอร์ จำกัด” ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลแหล่งที่ 8 ของ บริษัทด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท โดย TPC POWER HOLDING เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 100% เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดประมาณ 9.9 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าประเภท Very Small Power Producer (VSPP) หรือผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็กมาก ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้าไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่อำเภอควรกาหลง จังหวัดสตูล ใช้เงินลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท จากเงินกู้ยืมสถาบันการเงินจำนวน 500 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 70% และเงินลงทุนของผู้ถือหุ้นจำนวน 200 ล้านบาท
“การจัดตั้งบริษัทใหม่นี้ เราคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน 16 - 18% เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มสดใส ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐที่กำหนดให้มีอัตราส่วนเพิ่ม (Adder) จากราคารับซื้อไฟฟ้าที่ 0.3 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง รวมทั้งเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ส่งเสริมและสร้างความเติบโตของรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัทฯ และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งระยะยาวจะช่วยเพิ่มรายได้และกำไรสุทธิให้กับ TPOLY เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงตลอดไป”
นายไชยณรงค์ กล่าวว่า ปีนี้จะเป็นปีที่บริษัท มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเป็นผลจากวิสัยทัศน์และแผนดำเนินธุรกิจที่วางไว้เมื่อ 3 ปีก่อน ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนเพื่อบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ในส่วนของธุรกิจหลัก 3 ส่วนคือพลังงาน อสังหาริมทรัพย์ และรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน โดยตั้งเป้ารายได้รวมจากทุกธุรกิจ 3,400 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจก่อสร้าง 3,000 ล้านบาท พลังงาน 200 ล้านบาท และอสังหาริมทรัพย์ 200 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 88% 6% และ 6% ตามลำดับ
“ภาพรวมปี 2557 จะเป็นปีทองของบริษัทจากปัจจุบันที่เรามีธุรกิจหลักคือรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งปีนี้จะครบรอบ 25 ปี นอกจากนี้ยังมีอีก 3 ธุรกิจย่อยคืออสังหาริมทรัพย์ เทรดดิ้ง และพลังงาน โดยตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป จะเป็นช่วงที่บริษัทมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ตามแผนธุรกิจที่วางไว้เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงการเดินหน้าธุรกิจตามแผน เพื่อบรรลุความสำเร็จและการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง สร้างความประทับใจให้กับผู้ถือหุ้น ขณะที่ในส่วนของ TPC POWER HOLDING คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีนี้อย่างแน่นอน” นายไชยณรงค์ กล่าวในที่สุด