กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--สำนักงานเกษตรจังหวัดมหาสารคาม
สำนักงานเกษตรจังหวัดมหาสารคาม แจงมาตรการควบคุมการแจ้งปริมาณสถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้า ข้าวเปลือก ข้าวสาร และเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูก ปี ๒๕๕๗
ว่าที่ ร.ต.จักรภัทร ผ่องโอภาส เกษตรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรแจ้งว่า คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) กรมการค้าภายใน ได้ออกประกาศ กกร. เรื่องการกำหนดสินค้าและบริการควบคุม ปี ๒๕๕๗ กำหนดให้ข้าวเปลือก ข้าวสาร เป็นสินค้าควบคุม และได้กำหนดมาตรการควบคุมการแจ้งปริมาณสถานที่เก็บและจัดทำบัญชีคุมสินค้าข้าวเปลือก ข้าวสาร เพื่อสร้างความเป็นธรรมด้านราคา ปริมาณ คุณภาพ และรักษาเสถียรภาพระบบตลาดข้าวในประเทศ พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวด้านปริมาณ เพื่อป้องกันการนำข้าวมาสวมสิทธิในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล โดยกำหนดให้ ผู้ครอบครองข้าวเปลือกและ/หรือข้าวสารตั้งแต่ ๑๕ ตันขึ้นไป และผู้ประกอบการรับซื้อ เมล้ดพันธุ์ข้าวปลูกเพื่อจำหน่าย ต้องแจ้งชนิด ปริมาณที่มีอยุ่ ปริมาณการซื้อ การได้มาจำหน่าย ปริมาณคงเหลือ สถานที่เก็บ ตามแบบและระยะเวลาที่กำหนด โดยผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน ๕ ปี หรือปรับไม่เกิน ๑ แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ ๒,๐๐๐ บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน กรมส่งเสริมการเกษตรจึงขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการที่รับซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกเพื่อจำหน่ายทราบข้อมูลกฎหมายดังกล่าว
เกษตรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวต่อไปว่า การแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าข้าวเปลือก ข้าวสาร ให้แจ้งเป็นประจำทุกเดือน โดยแจ้งเป็นสองงวดต่อเดือน งวดที่หนึ่ง สำหรับวันที่ ๑ ถึง ๑๕ ภายใน ๓ วันทำการ และงวดที่สอง สำหรับวันที่ ๑๖ ถึงวันสิ้นเดือน ภายใน ๓ วันทำการ ทั้งนี้การรายงานให้ผู้ประกอบการทำบัญชีคุมสินค้า แสดงชนิด ปริมาณที่มีอยู่ ปริมาณการซื้อ ปริมาณการได้มา ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณการแปรสภาพ ปริมาณคงเหลือ ชื่อและที่อยู่ของผู้ซื้อหรือผู้รับ เป็นรายวันโดยต้องลงบัญชีในรายการดังกล่าว ให้แล้วเสร็จภายใน ๓ วันตั้งแต่วันที่ได้ซื้อ รับเข้ามา แปรสภาพ จำหน่ายไปแต่ละครั้ง ส่วนการแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกให้จัดทำบัญชีคุมการซื้อขายเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูก แสดงชนิด ปริมาณที่มีอยู่ ปริมาณการซื้อ ปริมาณการได้มา ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณคงเหลือ สถานที่เก็บ ชื่อและที่อยู่ พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาหนังสือรับรองการเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (ถ้ามี) ของเกษตรกรผู้ที่นำพันธุ์ข้าวปลูกมาขายเป็นรายวัน ให้แล้วเสร็จภายใน ๓ วัน ตั้งแต่วันที่รับซื้อในแต่ละครั้ง โดยผู้ประกอบการต้องเก็บบัญชีพร้อมหลักฐานการได้มาและการจำหน่ายไว้ ณ สถานที่เก็บ เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ทุกเวลา
ผู้ประกอบการที่ครอบครองข้าวเปลือก ข้าวสาร ปี ๒๕๕๗ หากมีข้อสงสัย ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัด/สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน หรือขอคำปรึกษาและแก้ปัญหาการเกษตร โดยตรงกับเกษตรจังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์หมายเลข ๐๘๑-๗๙๐๕๒๕๖ และหมายเลข ๐๘๘-๕๔๙๗๙๔๔