กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--IR network
หัวเรือใหญ่ SOLAR “ปัทมา วงษ์ถ้วยทอง” วางเป้าหมายรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 30% จากปี 56 ทำได้ 1.38 พันลบ. สยายปีกรับออเดอร์ต่างประเทศ ระบุปัจจุบันรับออร์เดอร์เต็มพิกัดล่วงหน้าแล้วทั้งปี 57 และ 58 พร้อมเล็งเพิ่มกำลังการผลิตโรงงานผลิตแผ่นเซลล์และแผงแสงอาทิตย์ ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังล่าสุดคว้างานใหม่จากยุโรป-อเมริกา มูลค่า 1 พันลบ. ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปอีก 2 ปีข้างหน้า
นางปัทมา วงษ์ถ้วยทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) หรือ SOLAR ผู้นำในการผลิตแผ่นเซลล์และแผงเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดมัลติ-คริสตัลไลน์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 30% จากปี 2556 ที่มีรายได้รวม 1,386.25 ล้านบาท เนื่องจากโรงงานผลิตแผ่นเซลล์และแผงแสงอาทิตย์ ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ผลิตและจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้แล้ว ซึ่งทำให้ SOLAR กลายเป็นผู้ประกอบการรายเดียวในไทยที่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำคือ เริ่มตั้งแต่การนำเวเฟอร์มาผลิตเป็นแผ่นเซลล์แสงอาทิตย์และแผงเซลล์แสงอาทิตย์ไปจนถึงการเป็นผู้ให้บริการแบบครบวงจรตั้งแต่สำรวจออกแบบและติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Engineering, Procurement and Construction: EPC) รวมถึงรื้อถอนระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และติดตั้งทดแทนระบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
" SOLAR มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน โดยสามารถเข้าลงทุนได้ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เพราะมีเทคโนโลยีที่เป็นที่ยอมรับเทียบเท่ากับต่างประเทศ จึงทำให้ได้เปรียบเชิงพาณิชย์ ส่วนปีนี้บริษัทฯ มีแผนขยายตลาดออกไปในต่างประเทศมากขึ้น เช่น ยุโรป อเมริกา และประเทศในแถบอาเซียน โดยรับออร์เดอร์เต็มจนถึงปี 2015 จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศอยู่ที่ 10% และเราก็พร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อสร้างผลงานให้ออกมาดีเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่อยู่คู่บริษัทมายาวนาน" นางปัทมา กล่าว
นางปัทมา กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานเดิมที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่มีกำลังการผลิตในส่วนของแผ่นเซลล์แสงอาทิตย์อยู่ที่ 70 เมกะวัตต์ และแผงเซลล์แสงอาทิตย์มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 70 เมกะวัตต์ หลังจากที่มีออเดอร์ใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้รับออเดอร์จากลูกค้าในยุโรปและอเมริกา มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีข้างหน้า
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2556 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 121.27 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,386.25 ล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ส่งมอบงานครบ 100% สำหรับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เฟส 2 ที่อําเภอบําเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ และอําเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีขนาดรวมทั้ง 2 โครงการเท่ากับ 50 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ยังรับรู้รายได้จากโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เฟส 3 จำนวน 3 โครงการ ซึ่งประกอบด้วย 1.โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มูลค่า 312.04 ล้านบาท ที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ 2.โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มูลค่า 314.94 ล้านบาท ที่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ และ 3.โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มูลค่า 619.29 ล้านบาท ที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี