ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 25, 2014 09:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส - ทองปิดต่ำสุดรอบ 4 สัปดาห์ - SPDR ถือทองเพิ่มขึ้น 4.50 ตัน - คาดทองเริ่มทรงตัวหลังปรับลงมาเคลื่อนไหวใกล้ 1,300 เหรียญ - ราคาทองคำเคลื่อนไหวทรงตัวในการซื้อขายช่วงกลางวัน ก่อนที่จะมีแรงขายออกมามากในการซื้อขายช่วงค่ำ จนราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,315-1,320 ดอลลาร์ และปรับตัวลงมาปิดตลาดใกล้แนวรับบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของการซื้อขายในรอบกว่า 4 สัปดาห์ - นักลงทุนยังคงให้ความสนใจกับคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐเกี่ยวกับโอกาสที่จะเริ่มมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากยุติมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนในการปกครองไครเมียที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์จึงไม่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทอง ส่วนราคาในประเทศยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของเงินบาท - ค่ำนี้จะมีการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐเดือนมีนาคม และยอดขายบ้านเดือนกุมภาพันธ์ หากรายงานออกมาดีกว่าคาดก็จะเป็นปัจจัยลบต่อการเคลื่อนไหวของราคาทอง และจะสนับสนุนการคาดการณ์เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐในปีหน้าตามคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ - ราคาทองคำปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวใกล้แนวรับจิตวิทยาบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ ซึ่งที่แนวรับดังกล่าวนอกจากจะเป็นแนวรับในเชิงจิตวิทยาแล้ว ยังมีเส้นค้าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งในภาพรายวันและรายสัปดาห์ยืนเป็นแนวรับอยู่ จึงคาดว่าจะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาและราคาจะแกว่งตัวเพื่อสร้างฐานที่แนวรับบริเวณนี้ อย่างไรก็ตามในกรณีที่ราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ ได้ คาดว่าราคาทองจะปรับตัวลงไปยังแนวรับบริเวณ 1,280 ดอลลาร์ ต่อไป - ราคาโลหะเงินไม่สามารถประคองตัวเหนือแนวรับบริเวณ 20.0 ดอลลาร์ จึงมีแรงขายกลับออกมาจนราคาปรับตัวลดลงต่อเนื่องติดต่อกับเป็นวันที่ 6 ในระหว่างวันหากมีการดีดตัวกลับ ที่แนวต้านบริเวณ 20.10-20.20 ดอลลาร์ เป็นระดับแนวต้านที่ควรระวังแรงขายที่คาดว่าจะมีกลับออกมา โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนเม.ย.57 Close chg. Support Resistance 20,270 -180.00 20,200/20,100 20,350/20,550 ราคาทองยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน แต่ด้วยราคาที่ปรับตัวลงมามากจึงอาจมีการดีดตัวในทางเทคนิค โดยอาจเลือกเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรที่แนวรับบริเวณ 1,300-1,305 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,290 ดอลลาร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ