กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--ปอร์เช่
ปอร์เช่นำเสนอที่สุดแห่งนวัตกรรมยานยนต์ของรุ่น 911 ในเรื่องของเทคโนโลยีและประสิทธิภาพการขับขี่ที่คล่องตัวสูงด้วย 911 เทอร์โบ (911 Turbo) และเทอร์โบ เอส (911 Turbo S) เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นรถสปอร์ตที่สามารถใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้ดีที่สุด ตั้งแต่เปิดตัวเจเนอเรชั่นแรกสู่สายตาชาวโลกเมื่อ 40 ปีที่แล้วในรูปแบบ Turbo Prototype
ไฮไลท์ของ 911 เทอร์โบ (911 Turbo) เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด:
- ระบบ Active rear axle steering ที่ช่วยในเรื่องของการทรงตัวบนถนนและบนสนามแข่งให้มีความแม่นยำมากขึ้น
- ระบบ Adaptive aerodynamics ที่ช่วยพัฒนาศักยภาพและสมรรถนะของรถ ช่วยในเรื่องของการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น
- ระบบขับเคลื่อน all-wheel drive ใหม่ล่าสุดที่ช่วยควบคุมการกระจายพละกำลังเครื่องยนต์ให้รวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
- เครื่องยนต์ขนาด 3.8 ลิตร Bi-turbo มาพร้อมกับพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดที่ 520 แรงม้า (383 กิโลวัตต์) และ 560 แรงม้า (412 กิโลวัตต์)
- พละกำลังแรงม้าเพิ่มขึ้น 30 แรงม้า แต่อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงถึง 16% เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม
- อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงเหลือเพียง 9.7 ลิตร/100 กิโลเมตร
- 911 เทอร์โบ เอส (911 Turbo S) ได้รับการติดตั้งระบบ active roll compensation (PDCC), เบรกเซรามิก (PCCB), ล้อขนาด 20 นิ้ว และระบบไฟแบบ Full-LED headlights มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานให้กับรถ
กว่า 40 ปีแล้วที่ 911 เทอร์โบ (911 Turbo) คงความเป็นเอกลักษณ์และความโดดเด่นในเรื่องของการผสมผสานระหว่างการใช้งานในเรื่องของประสิทธิภาพและการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ระหว่างความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ความดั้งเดิมที่ผสมผสานเข้ากับนวัตกรรมได้อย่างลงตัว ในตอนนี้ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะและศักยภาพเพิ่มมากขึ้น ด้วยการเสริมระบบใหม่ต่างๆ ที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีชั้นนำทำให้ 911 เทอร์โบ (911 Turbo) ได้กลายเป็นที่สุดของนวัตกรรมยานยนต์รถสปอร์ตอย่างแท้จริง 911 เทอร์โบ เอส (911 Turbo S) ทำเวลาวิ่งรอบสนามแข่งที่โด่งดังอย่าง North Loop of the Nürburgring ด้วยยางธรรมดาได้ในเวลาเพียงแค่ 7:30 นาที เท่านั้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งข้อพิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เหนือชั้น และความแม่นยำของรถซูเปอร์สปอร์ต คันนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
รุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นนี้ มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ดึงดูดทุกสายตาเพียงแค่แรกเห็น และบ่งบอกถึงประสิทธิภาพที่เหนือชั้นของรถในทันที กันชนหลังได้รับการขยายให้กว้างขึ้นสำหรับ 911 เทอร์โบ (911 Turbo) เจเนอเรชั่นใหม่ โดยกว้างขึ้นกว่ารุ่น 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) 4 ถึง 28 มิลลิเมตร เลยทีเดียว