กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์
- Drive-E Powertrain เบนซินเทอร์โบ 4 สูบให้พลังแรงกว่า ประหยัดน้ำมันมากกว่า และปล่อยไอเสียต่ำ ในรุ่น S60 T5 และ XC60 T5 พร้อมเปิดจองในงาน
- แคมเปญ “ปลอดดาวน์ ปลอดดอก ปลอดภัย” จำนวนจำกัด
วอลโว่เผยทีเด็ด พลิกโฉมวงการยานยนต์อีกครั้งกับนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ให้พลังแรงกว่า ประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิมจากวอลโว่ Drive-E Powertrain ที่จะเปิดตัวในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 35 ในรถยนต์ 2 รุ่นยอดนิยมตระกูล 60 ของวอลโว่ – S60 T5 ซีดานหรูปราดเปรียวสไตล์สปอร์ต และ XC60 T5 ครอสโอเวอร์หรูสำหรับคนเมืองและคนทันสมัย นอกจากนี้ยังพบกับแคมเปญสุดคุ้ม “ปลอดดาวน์ ปลอดดอก ปลอดภัย” จำนวนจำกัด
หลังจากเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ระดับโลกมาแล้วเมื่อต้นปี วอลโว่นำนวัตกรรมระบบขับเคลื่อนล่าสุด Drive-E Powertrain เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ T5 แบบ 4 สูบที่มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แต่ให้พลังมากถึง 220 แรงม้า และยังประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิมประมาณ 10-30% เข้ามาให้ได้สัมผัสกัน
นางฉันทนา วัฒนารมย์ ประธาน บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “Drive-E Powertrain คือหนึ่งในข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของวอลโว่ที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นพร้อมทั้งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลงให้เหลือน้อยที่สุด ทีมวิศวกรของเราทำงานกันอย่างหนักในการพัฒนาและผลิตเครื่องยนต์นี้ที่โรงงานของเราเอง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพ ความประหยัด และไม่ต้องการเพิ่มมลภาวะให้แก่สิ่งแวดล้อม”
Drive-E Powertrain – เล็กกะทัดรัดแต่พลังเกินตัว
วอลโว่เลือกที่จะใช้เครื่องยนต์ 4 สูบเป็นหลักในการพัฒนาเครื่อง Drive-E รุ่นใหม่ เพราะสามารถให้ทั้งพลัง การขับขี่ที่ตอบสนองทันใจ และประหยัดน้ำมันได้ดี วอลโว่เข้าใจดีว่าพละกำลังไม่เกี่ยวอะไรกับขนาด แต่ขึ้นอยู่กับปริมาณอากาศที่จะไหลผ่านเครื่องยนต์ ดังนั้น ถ้าทำให้อากาศปริมาณมากและหนาแน่นไหลผ่านตัวเครื่องยนต์ขนาดเล็กได้ ก็จะได้เครื่องยนต์ขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพในการทำงานดีกว่าและได้พละกำลังมากเท่ากับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่
ในการเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์อื่นที่มีความแรงเท่ากัน เครื่องยนต์ Drive-E Powertrain ของวอลโว่ มีน้ำหนักเบากว่าประมาณ 30- 50 กิโลกรัม
เทคโนโลยีเครื่องยนต์ Drive-E Powertrain อันชาญฉลาดนี้ให้ประโยชน์กับลูกค้ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมรรถนะที่สูงขึ้น การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ไอเสียต่ำและการตอบสนองที่ดีเยี่ยม เครื่องยนต์ 4 สูบใหม่จากวอลโว่รุ่นนี้ให้พลังมากกว่าเครื่องยนต์ 6 สูบในปัจจุบัน และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าเครื่องยนต์ 4 สูบในท้องตลาดปัจจุบันประมาณ 10-30% ขึ้นกับเครื่องยนต์ที่นำมาเปรียบเทียบกัน
พัฒนาการหลักๆ ที่ทำให้เครื่องยนต์ Drive-E มีสมรรถนะขณะที่ประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ได้แก่ การลดแรงเสียดทานชิ้นส่วนกลไกภายในเครื่องยนต์ ซึ่งรวมทั้งตลับลูกปืนแบบใหม่ที่ช่วยให้เพลาลูกเบี้ยว (Camshaft) หมุนได้ลื่นเร็วขึ้น ระบบวาล์วแปรผันทำงานต่อเนื่องแม้ในรอบสูงๆ และระบบควบคุมอุณหภูมิเครื่องยนต์อัจฉริยะโดยอาศัยปั๊มน้ำไฟฟ้าแปรผัน การที่มีแรงเสียดทานลดลง เครื่องยนต์จะมีการเผาไหม้สมบูรณ์มากขึ้น เครื่องยนต์สูญเสียกำลังน้อยลง ทำให้ Drive-E Powertrain ให้พลังสูงกว่า ขับสนุก ตอบสนองทันใจกว่าเดิม ขณะเดียวกันก็กินน้ำมันน้อยลง และปล่อยไอเสียน้อยลง จึงเป็นเครื่องยนต์ที่เรียกได้ว่า “พลังเปลี่ยนโลก” อย่างชัดเจน
ประหยัดด้วยโหมดการขับขี่แบบ Eco+
Eco+ หรืออีโคพลัส เป็นฟังก์ชั่นการทำงานที่ก้าวล้ำของวอลโว่สำหรับรถที่ใช้เกียร์อัตโนมัติ ช่วยลดความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงลงได้อีก 5% ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ และจะเป็นทางเลือกสำหรับการขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่ใช้โหมด Eco+ ระบบอื่นๆ จะลดการทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการเร่งรอบเครื่องหรือหน่วงกำลังเครื่องยนต์ซึ่งจะทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากที่สุด ระบบ Eco+ มีฟังก์ชั่นการทำงานย่อยที่ทำงานร่วมกันจากหลายส่วน ตัวหนึ่งที่สำคัญคือ Eco Coast ซึ่งเมื่อผู้ขับขี่ถอนคันเร่ง ฟังก์ชั่นนี้จะทำให้รถยังเคลื่อนที่ไปต่อได้เรื่อยๆ โดยไม่ถูกหน่วงด้วยระบบเบรกของเครื่องยนต์ และเครื่องยนต์จะเปลี่ยนมาที่รอบเดินเบา เพื่อประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิง
พลังเปลี่ยนโลก ใน S60 T5 และ XC60 T5
รถยนต์ 2 รุ่นจากวอลโว่ที่ติดตั้งระบบเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบใหม่ Drive-E Powertrain แบบ T5 ได้แก่ S60 T5 ซีดานหรูหัวใจสปอร์ต และ XC60 T5 ครอสโอเวอร์มีสไตล์ วางเครื่องยนต์ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ให้พลังสูงสุด 220 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรในช่วงระหว่าง 1,500-4,000 รอบต่อนาที รถทั้งสองรุ่นสามารถรองรับน้ำมันเบนซิน 95 แก๊สโซฮอล E10 และ E20
เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ใหม่
เพื่อตอบสนองการขับขี่ที่ดี รวดเร็ว ราบเรียบ นุ่มนวลและประหยัดเชื้อเพลิง และให้ประสิทธิภาพสูงสุด เครื่องยนต์ Drive-E จึงมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ใหม่
การใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้ประสิทธิภาพสูงสุดแม้ในสภาวะที่บรรทุกน้ำหนัก ลากจูงหรือขึ้นเนินชัน ขณะเดียวกันก็ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและลดมลภาวะไอเสียต่ำแม้ทำงานในรอบต่ำ
เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มีอัตราทดเกียร์ที่กว้างขึ้น เกียร์ 1 เร่งออกตัวได้ทันใจ ขณะที่จังหวะเกียร์สูงสุดช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มาก โดยเฉพาะเมื่อใช้ความเร็วคงที่ต่อเนื่องทั้งยังเพิ่มขีดขั้นในการขับคลื่อน การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลจนแทบไม่รู้สึก และเกียร์แต่ละเกียร์ยังสามารถทำความเร็วได้สูงขึ้นด้วย
นอกจากนี้แชสซีแบบไดนามิกยังให้การขับขี่ที่สนุกสนานคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
รูปโฉมทันสมัย
รถยนต์ทั้งสองรุ่นมาในโฉมใหม่ล่าสุดที่สะกดทุกสายตาด้วยรูปลักษณ์หรู ประณีตและใส่ใจในทุกรายละเอียดแบบสแกนดิเนเวียนดีไซน์ เน้นเส้นสายแนวนอนที่ดูแกร่งแต่เปรียวเฉี่ยวสะดุดตา สะท้อนถึงเครื่องยนต์ที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค ด้านท้ายรถ ท่อไอเสียใหม่ทรงเหลี่ยมแบบ double integrated pipes เพิ่มลุคทันสมัยมากยิ่งขึ้น สำหรับรุ่น S60 T5 มาพร้อมล้อขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 235/40 R18 เพิ่มความโดดเด่นสะดุดตา
วอลโว่ S60 T5 เปิดจองในราคา 2,449,000 บาท และ XC60 T5 ราคา 2,919,000 บาท
จัดเต็มระบบความปลอดภัย
วอลโว่ให้ระบบความปลอดภัยทั้งเชิงป้องกันและปกป้องมาเต็มพิกัดสำหรับวอลโว่ S60 T5 และ XC60 T5 โดยเฉพาะ ระบบเบรกอัตโนมัติที่ทำให้รถไม่ชนรถคันข้างหน้า ไม่ชนคนเดินถนน และไม่ชนจักรยาน ได้แก่ Pedestrian and Cyclist Detection with Full Auto Brake และระบบป้องกันการชนเมื่อขับขี่ที่ความเร็วต่ำ (City Safety) นอกจากนี้ยังมีระบบแจ้งเตือนและสั่นที่พวงมาลัยเพื่อป้องกันรถวิ่งออกนอกช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Aid) ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลังออกจากที่จอด (Cross Traffic Alert) และอื่นๆ อีกมากมายที่ติดตั้งเป็นมาตรฐานในวอลโว่ทุกรุ่น
แคมเปญพิเศษ “ปลอดดาวน์ ปลอดดอก ปลอดภัย”
พิเศษสำหรับผู้ที่จองรถยนต์รุ่น S80 V60 XC60 และ XC90 ตั้งแต่วันนี้ รับข้อเสนอพิเศษในโปรโมชั่นสุดฮอต “ปลอดดาวน์ ปลอดดอกและปลอดภัย” จัดเต็มด้วยระบบความปลอดภัยรอบคัน รีบด่วนเพราะมีจำนวนจำกัด ภายในวันที่ 15 เมษายนนี้ นอกจากข้อเสนอพิเศษแล้ว ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ วอลโว่ใหม่ทุกคันตั้งแต่วันนี้ ยังได้รับบริการบำรุงรักษาฟรี 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และ Volvo Warranty บริการรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Volvo Assistance ตลอด 24 ชั่วโมง 3 ปี ที่มอบเป็นมาตรฐานสำหรับวอลโว่ทุกรุ่นด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมวอลโว่ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือติดต่อ Call Center 0 2305 4499