กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--เคพีเอ็มจี
เคพีเอ็มจี ประเทศเมียนมาร์ เปิดเวที Myanmar Business Forum ครั้งที่ 3 ดึงผู้มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจในเมียนมาร์ร่วมถกโอกาสเติบโตทางธุรกิจ ในหัวข้อ The Road to the AEC: Creating Positive Business Partnerships เผยการจับคู่ทางธุรกิจด้วยวิธีการควบรวมกิจการ การร่วมทุน หรือการหาพันธมิตรทางธุรกิจ จะเป็นกลไกขับเคลื่อนการขยายธุรกิจในประเทศเมียนมาร์ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2558
“โอกาสทางธุรกิจในประเทศเมียนมาร์เพิ่มขึ้น แต่การแข่งขันก็เข้มข้นตามไปด้วยเช่นกัน จากนี้ไป บริษัทท้องถิ่นอาจจะต้องประสบกับความท้าทาย เพราะบริษัทข้ามชาติเข้ามาทำธุรกิจในประเทศมากขึ้น” คุณยาสึฮิเดะ ฟูจิอิ กรรมการผู้จัดการ เคพีเอ็มจี ประเทศเมียนมาร์ กล่าว
“เราเริ่มเห็นตัวอย่างของการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างบริษัทท้องถิ่นกับบริษัทต่างชาติ เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของกันและกัน แทนที่จะเป็นการแข่งขันกัน ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว บริษัทท้องถิ่นของเมียนมาร์ และบริษัทต่างชาติต่างมีจุดเด่นของตนเองที่จะช่วยก่อเกิดประโยชน์ให้แก่ทุกฝ่ายเมื่อมีการร่วมมือระหว่างกันในอนาคต”
เคพีเอ็มจี เป็นบริษัทแรกในกลุ่มบิ๊กโฟร์ที่กลับเข้าไปดำเนินงานในประเทศเมียนมาร์อย่างเป็นทางการหลังจากที่มีการยกเลิกมาตรการการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ โดยได้ช่วยลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทต่างชาติในการจัดตั้งและดำเนินธุรกิจในประเทศเมียนมาร์
รัฐบาลเมียนมาร์ได้เดินหน้าปฏิรูประบบกฎหมาย หลังจากที่การประกาศใช้กฎหมายการลงทุนต่างชาติได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั่วโลก โดยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษ นอกจากนี้ รัฐบาลเมียนมาร์ยังมีแผนที่จะแก้ไขเพิ่มเติมในส่วนของกฎหมายภาษีและกฎหมายที่ดิน, กฎหมายการลงทุนต่างชาติ, กฎหมายการพัฒนากิจการขนาดกลางและขนาดย่อม กฎหมายอาคารชุด และกฎหมายการทำเหมือง เป็นต้น
“เราตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศเมียนมาร์ วิธีหนึ่งที่เราสามารถช่วยเตรียมความพร้อมให้กับภาคธุรกิจคือ การจัดงาน KPMG Myanmar Business Forum เป็นประจำทุกไตรมาส ทั้งนี้เพื่อเป็นการอัพเดทข้อมูลข่าวสารทางธุรกิจ แนะนำถึงแนวโน้มของตลาด และการรับมือกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจในประเทศเมียนมาร์” คุณฟูจิอิ กล่าว
งาน KPMG Myanmar Business Forum ครั้งที่ 3 หัวข้อ “The Road to the AEC: Creating Positive Business Partnerships” ได้หยิบยกประเด็นสำคัญในการทำธุรกิจในประเทศเมียนมาร์โดยวิธีการการควบรวมกิจการ การร่วมทุน และการหาพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งวิทยากรที่มาให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ในครั้งนี้ล้วนเป็นนักธุรกิจระดับแนวหน้าที่มีประสบการณ์ตรงในการทำธุรกิจในประเทศเมียนมาร์
“KPMG Myanmar Business Forum ได้รับความสนใจจากทั้งนักธุรกิจท้องถิ่นและต่างชาติซึ่งได้เข้าร่วมแบ่งปันความคิดและประสบการณ์จากการทำธุรกิจในเมียนมาร์ เนื่องจากสิ่งต่างๆ ในประเทศเมียนมาร์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เคพีเอ็มจี จึงเตรียมโครงการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมภาคธุรกิจให้ก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลง” คุณฟูจิอิกล่าว
จากซ้ายไปขวา
1. นางเสริมสุข ปัทมสถาน ที่ปรึกษาอาวุโส กลุ่มบริษัทเคพีเอ็มจี ประเทศไทย
2. นายธเนศ เกษมศานติ์ กรรมการบริหาร เคพีเอ็มจี ประเทศไทย
3. นายเทียน ฮัน รองประธาน สหพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรม สหภาพเมียนมาร์ The Republic of Union of Myanmar Federation of Chambers of Commerce and Industry (UMFCCI)
4. นายวิน ออง ประธาน สหพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรม สหภาพเมียนมาร์ (UMFCCI)
5. นางไขศรี เนื่องสิกขาเพียร กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเคพีเอ็มจี ประเทศไทย
6. นายยาสึฮิเดะ ฟูจิอิ กรรมการผู้จัดการ เคพีเอ็มจี ประเทศเมียนมาร์
7. นายเอียน ธอร์นฮิลล์ ผู้อำนวยการบริหาร เคพีเอ็มจีประเทศไทย